ยานพาหนะกว่าหนึ่งล้านคันวิ่งบนทางด่วนสายแรกของกัมพูชาที่เชื่อมกรุงพนมเปญกับจังหวัดท่าเรือน้ำลึกพระสีหนุในช่วงสามเดือนแรกนับตั้งแต่เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมปีที่แล้ว
ทางด่วนระยะทาง 187 กิโลเมตรสายนี้ลงทุนโดยบริษัทถนนและสะพานแห่งชาติจีน (China Road and Bridge Corporation) ด้วยเงินลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นผลพวงของความร่วมมือระหว่างจีนกับกัมพูชาภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI)
สุภาษิตกัมพูชากล่าวไว้ว่า "มีทาง มีความหวัง" และครั้งหนึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาเคยกล่าวไว้ว่า จีนได้สร้างถนนหนทางและสะพานมากมายให้กัมพูชา นั่นหมายความว่าจีนได้สร้างความหวังมากมายให้กับชาวกัมพูชาเช่นกัน
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ฮุนเซนได้เดินทางเยือนประเทศจีนในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศยังคงเลวร้าย และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้ระลึกถึงการพบกันครั้งนั้นโดยกล่าวว่า การเยือนครั้งนั้นเป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุน และฮุนเซนยืนหยัดอย่างมั่นคงร่วมกับประชาชนจีนในการต่อสู้กับโควิด-19
"ผมยินดีอย่างยิ่งที่เราได้พบกันอีกครั้งในรอบสามปี และเปิดศักราชใหม่ของการสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกันในปีใหม่นี้" นายสี จิ้นผิง กล่าวกับฮุนเซน ณ เรือนรับรองเตียวอวี่ไท่ (Diaoyutai State Guesthouse) ในกรุงปักกิ่ง
ความร่วมมือรอบด้าน
นายสี จิ้นผิง ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถสร้างกรอบความร่วมมือในหกด้านหลัก ได้แก่ การเมือง กำลังการผลิต การเกษตร พลังงาน ความมั่นคง รวมถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและวัฒนธรรม ซึ่งฮุนเซนแสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดนี้อย่างเต็มที่
ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และความตกลงการค้าเสรีจีน-กัมพูชา (CCFTA) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา เปิดเผยว่า ปริมาณการค้าระหว่างจีนกับกัมพูชามีมูลค่า 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 เพิ่มขึ้น 19.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่าจีนจะสนับสนุนให้บริษัทจีนเข้าไปลงทุนในกัมพูชาให้มากขึ้น ตลอดจนช่วยสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ และสนับสนุนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง
นอกจากทางด่วนแล้ว โครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีน เช่น ทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท โรงพยาบาล และน้ำประปาสะอาด ก็เริ่มดำเนินการในกัมพูชาในปี 2565 ขณะเดียวกัน สินค้าเกษตรเพิ่มเติม เช่น ลำไย ข้าวโพด และปลาสวาย ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ตลาดจีนอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีน (TCM) ได้เดินทางไปยังกัมพูชาเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เพื่อช่วยต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19
ในส่วนของการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและวัฒนธรรมนั้น นายสี จิ้นผิง ระบุว่า จีนจะให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูและเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างจีนกับกัมพูชา ส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนดำเนินการปกป้องและฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรม
จีนช่วยบูรณะปราสาทต่าง ๆ ในอุทยานโบราณคดีนครวัดมาตั้งแต่ปี 2540 โดยประสบความสำเร็จในการบูรณะปราสาทเจ้าสายเทวดาและปราสาทตาแก้ว
"การพัฒนาไม่ใช่สิทธิพิเศษของบางประเทศ"
ในระหว่างการประชุมร่วมกัน ประธานาธิบดีจีนยังเน้นย้ำว่าการพัฒนาไม่ใช่สิทธิพิเศษของบางประเทศเพียงไม่กี่ประเทศ
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า การมีส่วนในการแข่งขันของระบอบต่าง ๆ หรือการเผชิญหน้าทางอุดมการณ์, การทำให้เศรษฐกิจ การค้า การแลกเปลี่ยนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องของการเมืองและอาวุธ, การบังคับให้แยกตัวและทำลายห่วงโซ่, การควบคุมและยับยั้งการพัฒนาของประเทศอื่น และการกำหนดให้ประเทศต่าง ๆ ต้องเลือกข้าง ล้วนแต่เป็นการเมืองแบบอำนาจนิยมและครอบงำ ซึ่งไม่มีวันได้รับการยอมรับ
นายสี จิ้นผิง ให้คำมั่นว่าจีนยืนอยู่ในฝั่งที่ถูกต้องของประวัติศาสตร์ และจะปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ในการพัฒนาของชาติ ตลอดจนความถูกต้องยุติธรรมระหว่างประเทศ
ฮุนเซนกล่าวว่า ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (GDI) และข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (GSI) ที่ล้วนนำเสนอโดยจีนนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาสันติภาพของโลกและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน พร้อมกับเสริมว่ากัมพูชาจะสนับสนุนและมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน
ขณะเดียวกัน นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา กล่าวว่า ข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก "เป็นอีกหนึ่งสินค้าสาธารณะที่จีนมอบให้กับทั่วโลก" พร้อมเสริมว่าการสนับสนุนประเทศพัฒนาน้อยที่สุดให้ฟื้นตัวจากโควิด-19 และการบรรเทาความยากจนมีความสำคัญอย่างยิ่ง
https://news.cgtn.com/news/2023-02-10/Chinese-President-Xi-Jinping-meets-with-Cambodian-PM-Hun-Sen-1hj96Mwlwha/index.html