โครงการระหว่างประเทศในการบังคับใช้กฎหมายสำหรับสภาพภูมิอากาศ (International Initiative of Law Enforcement for Climate หรือ I2LEC) นำโดยกระทรวงมหาดไทยแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ร่วมกับสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime หรือ UNODC) จะทำหน้าที่เป็นเวทีประสานงานของผู้บังคับใช้กฎหมายทั่วโลกเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ดังที่มีการนำเสนอเมื่อวันอังคารในงานประชุมสุดยอดตำรวจโลก (World Police Summit) ระหว่างวันที่ 6-7 มีนาคม ณ กรุงดูไบ
ในวันแรกของงานประชุมสุดยอด มีการนำเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับความตกลงระดับสูงระหว่างพลโทชีค ซัยฟ์ บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน (Lieutenant General Sheikh Saif bin Zayed Al Nahyan) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแห่ง UAE และ ฯพณฯ ฆอดะฮ์ วาลี (H.E. Ghada Waly) กรรมการบริหารของ UNODC โดยมีการบรรลุความตกลงดังกล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ในการนั้น พลโทชีค ซัยฟ์ และ ฯพณฯ ฆอดะฮ์ ได้หารือเกี่ยวกับการเปิดตัวโครงการริเริ่มระดับโลก ซึ่งมุ่งสร้างความตระหนักรู้ สร้างขีดความสามารถ และดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกรวน
ทั้งนี้ โครงการ I2LEC เป็นผลงานที่เกิดจากวิสัยทัศน์ของพลโทชีค ซัยฟ์ และโครงการดังกล่าวได้มีการนำเสนอเพิ่มเติมในการสัมมนาอภิปรายของงานประชุมสุดยอดตำรวจโลกโดยตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทยแห่ง UAE พันโทดานา ฮูมัยด์ (Lt. Col. Dana Humaid)
"เรายินดีที่ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ของพลโทชีค ซัยฟ์ ให้เป็นจริงขึ้นมาในวันนี้ ทั้งนี้ คณะทำงานระดับโลก (Global Working Group) ซึ่งทำหน้าที่เป็นฝ่ายที่ปรึกษาของโครงการ I2LEC นั้น จะเป็นเวทีประสานงานของผู้บังคับใช้กฎหมายทั่วโลกเพื่อตอบโต้อาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดจนภาวะโลกรวน UAE มั่นใจว่าคณะทำงานระดับโลกและ I2LEC จะเป็นตัวเร่งสำหรับการแก้ไขวิกฤตสิ่งแวดล้อม และเราเชื่อมั่นว่าทุกท่านจะเข้าร่วมกับเราในความพยายามอันสำคัญยิ่งนี้" พันโทดานา ฮูมัยด์ อธิบดีสำนักงานกิจการระหว่างประเทศของกระทรวงมหาดไทยแห่ง UAE กล่าว
อนึ่ง คณะทำงานระดับโลกคือกลุ่มสหสาขาวิชาชีพของตัวแทนจากหลายองค์กร อย่างเช่น UNODC, องค์การตำรวจสากล (Interpol), สำนักงานตำรวจยุโรป (Europol), คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change), โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme), หน่วยสิ่งแวดล้อมของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (Environmental Unit of the Office for the Coordination of Humanitarian Affairs), ศูนย์ภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Emergencies Centre), สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) และอีกมากมาย
ในการกล่าวในการสัมมนาอภิปรายดังกล่าวนี้ ผู้พิพากษา ดร. ฮาเตม อาลี (Judge Dr. Hatem Ali) ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของสำนักงาน UNODC ได้เน้นย้ำว่า I2LEC และคณะทำงานระดับโลกจะสานต่อความสำเร็จก่อนหน้านี้ที่บรรลุโดยชุมชนระหว่างประเทศ ในการจัดการกับอาชญากรรมที่ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผลกระทบต่อภาวะโลกรวน
"ท่ามกลางความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงไปของภาวะโลกรวน เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ UAE ในโครงการระหว่างประเทศในการบังคับใช้กฎหมายสำหรับสภาพภูมิอากาศ เพื่อเสนอทางออกต่อหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องของ UN ก่อนที่จะถึงการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 28 (COP28) ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรของเรา เราจะทำให้แน่ใจว่าโครงการ I2LEC นี้มีแนวทางแบบองค์รวมและส่งผลสืบทอดที่ยั่งยืน เพิ่มการป้องกันและสร้างขีดความสามารถเชิงปฏิบัติการและการวิจัยของหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายทั่วโลกเพื่อจัดการกับวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม" ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของสำนักงาน UNODC ในคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) กล่าว
โครงการ I2LEC สนับสนุนพันธกิจของ UAE ในการยกระดับความร่วมมือระดับโลกในประเด็นสิ่งแวดล้อม โดย UAE เป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่ให้สัตยาบันความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งลงนามในปี 2558 ระหว่างการประชุม COP21 ทั้งนี้ ปี 2566 นี้ถือเป็น "ปีแห่งความยั่งยืน" (Year of Sustainability) ใน UAE เพื่อเสริมสร้างการทำงานร่วมกันระดับโลกในการแสวงหาโซลูชันเชิงนวัตกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศ
นอกจากนี้ โครงการ I2LEC นี้ยังจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อันยืนยาวระหว่าง UAE กับ UNODC ในการสนับสนุนความพยายามระดับโลกในการต้านองค์กรอาชญากรรม รวมถึงจากความเชี่ยวชาญของ UNODC ที่สั่งสมมาจากโครงการระดับโลกเพื่อการต่อต้านอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Global Programme on Crimes that Affect the Environment)