ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียได้รับการส่งเสริมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการเปิดบทใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี หลังจากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เดินทางถึงกรุงมอสโกเมืองหลวงของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อพบกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
นายสี จิ้นผิง เรียกขานการเยือนครั้งนี้ว่าเป็น "การเดินทางแห่งมิตรภาพ ความร่วมมือ และสันติภาพ" พร้อมกับกล่าวก่อนออกเดินทางว่า เป้าหมายสำคัญคือการทำงานร่วมกับประธานาธิบดีปูติน เพื่อร่วมกันรับเอา "วิสัยทัศน์ใหม่ พิมพ์เขียวใหม่ และมาตรการใหม่" มาใช้ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-รัสเซีย ในอีกหลายปีข้างหน้า
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้นำทั้งสองได้หารือกันอย่าง "ตรงไปตรงมาและสัมฤทธิ์ผล" พร้อมกับลงนามในแถลงการณ์ร่วมที่มุ่งเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนรอบด้านระหว่างจีนกับรัสเซีย รวมถึงกระชับความร่วมมือในด้านการลงทุน พลังงาน และด้านอื่น ๆ
การบรรลุข้อตกลงเหล่านี้เกิดจากผลสำเร็จของความร่วมมือรอบด้านตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยการค้าระหว่างจีนกับรัสเซียเติบโตอย่างมาก ด้วยมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทะลุ 1.9 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2565 หรือพุ่งขึ้น 116% จากทศวรรษที่แล้ว นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ร่วมมือกันอย่างแข็งขันในด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน และภาคส่วนใหม่อื่น ๆ
เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน
การเดินทางเยือนรัสเซียครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งที่ 9 นับตั้งแต่นายสี จิ้นผิง ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของจีนเมื่อ 10 ปีก่อน โดยในบทความที่เขาลงนามและอนุญาตให้เผยแพร่ผ่านสื่อของรัสเซีย ระบุว่า "มีตรรกะทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนและแรงผลักดันภายในอันแข็งแกร่งที่สนับสนุนการเติบโตของความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย"
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา จีนและรัสเซียได้เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางการเมืองซึ่งกันและกัน บนหลักการของการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด การไม่เผชิญหน้า และการไม่กำหนดบุคคลที่สามเป็นเป้า ในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีวิสัยทัศน์ร่วมกันเกี่ยวกับมิตรภาพที่ยั่งยืนและความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ตลอดจนสนับสนุนซึ่งกันและกันบนเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของแต่ละประเทศ
ในการพบกับประธานาธิบดีปูตินในครั้งนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ระบุว่า รัสเซียเป็นประเทศแรกที่เขาเดินทางไปเยือนหลังจากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของจีน และทั้งสองก็ติดต่อกันอย่างใกล้ชิดตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ผู้นำจีนย้ำว่าปฏิสัมพันธ์ระดับสูงดังกล่าว ซึ่งมีการร่างพิมพ์เขียวสำหรับความร่วมมือและมีการสื่อสารอย่างทันท่วงทีในประเด็นสำคัญระหว่างประเทศนั้น ถือว่ามีบทบาทสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในการชี้นำความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย
เมื่อเดือนมีนาคม 2556 นายสี จิ้นผิง ได้นำเสนอแนวคิดในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมอสโก (Moscow State Institute of International Relations) และนับตั้งแต่นั้นมา เขาได้เสนอข้อริเริ่มอีกหลายประการที่มุ่งส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาโลกภายใต้บริบทของโลกที่เชื่อมถึงกันมากขึ้น
หนึ่งในข้อริเริ่มที่ผู้นำจีนนำเสนอก็คือ ข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (Global Security Initiative) และจีนได้แสดงจุดยืนในวิกฤตยูเครนซึ่งสอดคล้องกับข้อริเริ่มดังกล่าว ด้วยการเรียกร้องให้สร้างดุลยภาพทางการเมืองเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง โดยในการเยือนรัสเซียครั้งนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ยืนยันจุดยืน "เที่ยงธรรมและเป็นกลาง" ของจีนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนทางด้านประธานาธิบดีปูตินก็น้อมรับความพยายามของจีนในการผลักดันสันติภาพ และยืนยันว่ารัสเซียมีความมุ่งมั่นที่จะรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพอย่างจริงจัง
https://news.cgtn.com/news/2023-03-22/China-Russia-ties-deepened-as-Xi-stresses-new-chapter-in-his-visit-1imB6pDd0FG/index.html
https://youtu.be/MTtXZHUDebE