วีเอ็มโอ โฮลดิงส์ (VMO Holdings) 1 ใน 5 บริษัทเอาต์ซอร์สด้านไอทีชั้นนำของเวียดนาม ประกาศเปิดตัวและก่อตั้งบริษัทวีเอ็มโอ ประเทศไทย (VMO Thailand) ในวันที่ 21 เมษายน โดยได้รับการสนับสนุนจาก SME และองค์กรต่าง ๆ ในไทยที่เข้าร่วมงานเปิดตัวครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ประเทศไทยเป็นตลาดเทคโนโลยีที่มีศักยภาพซึ่งกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและการลงทุนจากบรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์ชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ การเป็น 1 ใน 6 ประเทศชั้นนำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลหรือ "อาเซียน-6" (อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย และเวียดนาม) ยังทำให้ไทยมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีในระดับโลกโดยทั่ว ๆ ไปและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ
คุณคริส ฟาม (Mr.Chris Pham) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ (CBO) ของวีเอ็มโอ ประเทศไทย และที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของธุรกิจไทยหลายแห่ง ร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับตลาด โดยระบุว่า "หลังจาก 2 ปีที่มีโควิด-19 ตลาดเทคโนโลยีไทยก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการทรัพยากรบุคคลด้านไอทีในไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ปัญหาการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญมากฝีมือเริ่มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทรัพยากรบุคคลภายในประเทศกลับตอบสนองต่อความต้องการอันมหาศาลนี้ได้ไม่เพียงพอ" ทั้งนี้ ผลสำรวจของสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2562 แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีจะส่งผลกระทบอย่างมากต่องาน 1.1 พันล้านตำแหน่ง ขณะที่ไทยมีผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงเพียง 14% จากทั้งหมด 141 ประเทศที่ทำการสำรวจ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่บริการเอาต์ซอร์สด้านไอทีมากมายจะเกิดขึ้นและกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ด้านทรัพยากรบุคคลที่สำคัญที่สุดในทุกวันนี้
ในทางกลับกัน เวียดนามเป็นประเทศเกิดใหม่ด้านเทคโนโลยีที่มีทรัพยากรบุคคลด้านไอทีคุณภาพสูงจำนวนมาก ซึ่งอาจตอบโจทย์ความต้องการบุคลากรด้านไอทีอย่างเร่งด่วนในตลาดเทคโนโลยีของไทย และพิธีเปิดตัวในครั้งนี้เป็นสัญญาณการปรากฏตัวในประเทศไทยของวีเอ็มโอ โฮลดิงส์ อย่างโดดเด่น หลังจากที่เข้าสู่ตลาดที่มีพลวัตและเติบโตอย่างรวดเร็วแห่งนี้มาได้ 4 ปี
คุณคริส ฟาม กล่าวอย่างมั่นใจว่า "ด้วยความสามารถและประสบการณ์ในการให้บริการด้านเทคโนโลยีแก่ธุรกิจต่าง ๆ ของไทยในตลาดเทคโนโลยีไทย ผมเชื่อว่าวีเอ็มโออยู่ในจุดที่เหมาะสมที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังคน วีเอ็มโอ โฮลดิงส์ มุ่งมั่นทุ่มเทที่จะมอบบริการด้านไอทีชั้นหนึ่งให้กับประเทศไทยและตอบสนองความต้องการแก้ปัญหาขาดแคลนทรัพยากรบุคคลด้านไอทีในภูมิภาค"
ด้วยจุดแข็งที่สืบทอดมาจากพัฒนาการและความสำเร็จกว่า 11 ปีของวีเอ็มโอ โฮลดิงส์ วีเอ็มโอ ประเทศไทยได้พิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้เล่นชั้นยอดในอุตสาหกรรมไอทีไทย ทั้งนี้ วีเอ็มโอ ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่พร้อมจะตอบสนองการพัฒนาด้านไอทีในทุกภาคส่วนตลอดจนความต้องการของลูกค้า ด้วยทรัพยากรบุคคลด้านไอทีที่โดดเด่นกว่า 1,300 คน ภายในปี 2568 วีเอ็มโอ ประเทศไทย ตั้งเป้าที่จะให้บริการลูกค้ามากกว่า 100 ราย จัดสรรนักพัฒนาด้านไอที 2,000 คน นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลชั้นนำมาสู่ทั้งองค์กร Web2 และ Web3 ด้วยความเชื่อมั่นและความเชี่ยวชาญที่เหนือชั้น เป้าหมายสูงสุดของบริษัทคือการเป็น 1 ใน 5 บริษัทเอาต์ซอร์สด้านไอทีชั้นนำของประเทศไทย และวีเอ็มโอ ประเทศไทย ได้ทุ่มเทเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวผ่านการมอบบริการด้านไอทีคุณภาพสูงและการสร้างพันธมิตรที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า
ในการมีเป้าหมายร่วมกันกับบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ในภูมิภาคเพื่อผลักดันให้อาเซียนมีความโดดเด่นบนแผนที่เทคโนโลยีระดับโลก คุณคริส ฟาม เน้นย้ำถึงภารกิจในตลาดประเทศไทยว่า "วีเอ็มโอ ประเทศไทย มาอยู่ไทยและกลายเป็นไทย เป้าหมายของเราคือการนำบริการคุณภาพระดับพรีเมียมจากต่างประเทศมาสู่ตลาดไทย ด้วยความปรารถนาลึก ๆ ที่จะอุทิศตนและทำประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศไทยอย่างจริงจังเช่นเดียวกับที่พลเมืองดีคนอื่น ๆ ในไทยจะกระทำ เรามองว่าการเริ่มต้นในครั้งนี้คือโอกาสอันยอดเยี่ยมในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าให้ดีขึ้น อุทิศความเชี่ยวชาญของเราให้กับตลาดเทคโนโลยีไทย และร่วมกับธุรกิจไทยเพื่อยกระดับสถานะด้านไอทีของภูมิภาค ตลอดจนใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ที่กว้างขวางของเราในการให้คำปรึกษาและดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมาใช้เพื่อปฏิวัติธุรกิจแบบดั้งเดิมในไทย"
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา วีเอ็มโอภูมิใจที่ได้รับใช้ในฐานะพันธมิตรบริการด้านไอทีที่น่าเชื่อถือ มอบผลลัพธ์ความสำเร็จมาแล้วมากกว่า 600 โครงการ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าหลายร้อยรายทั่วโลก รวมถึงบริษัทต่าง ๆ ที่ติดอันดับฟอร์จูน 500 (Fortune 500) นับตั้งแต่ที่บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 วีเอ็มโอขึ้นแท่นผู้นำด้านโซลูชันนวัตกรรมเทคโนโลยี เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม IoT และโมเดล "สร้างแล้วโอน" (Build and Transfer) ของเวียดนามในปี 2560 นับตั้งแต่ปี 2562-2564 วีเอ็มโอ โฮลดิงส์ ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวในระดับโลกอย่างงดงามผ่านการตั้งสำนักงานสาขา 2 แห่งในญี่ปุ่นและ 1 แห่งในสหรัฐ และด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละทำให้บริษัทได้รับการยอมรับในฐานะ 1 ใน 5 บริษัทเอาต์ซอร์สด้านไอทีชั้นนำของเวียดนามในปี 2565 พร้อมด้วยรางวัลอันทรงเกียรติมากมายจากภาครัฐ
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2064534/image_5025853_17613652.jpg