กระถางคบเพลิงของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ (Asian Games) ครั้งที่ 19 จะถูกจุดขึ้นในเมืองหางโจวทางตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นที่ตั้งของทะเลสาบตะวันตก (West Lake) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก การแข่งขันกีฬาที่สำคัญ 40 รายการจะถูกจัดขึ้น สร้างความมุ่งมั่นและความมีชีวิตชีวาให้กับหางโจวผ่านการแข่งขันอันน่าตื่นเต้น
หางโจวเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามาโดยตลอด เป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่น่าสนใจ และเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์และการแสดงออกเชิงนวัตกรรม
เป็นพื้นที่บุกเบิกมาแต่โบราณกาล
หางโจวก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในช่วงราชวงศ์ฉิน (221-207 ปีก่อนคริสตกาล) เมื่อจีนรวมเป็นหนึ่งเดียวเป็นครั้งแรก แต่ภูมิภาคนี้มีประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองมาก่อนหน้านี้มาก
เมื่อช่วง 4,300 ถึง 5,300 ปีก่อน การทำนาข้าวที่ซับซ้อนได้ถือกำเนิดขึ้นในหางโจว งานฝีมือหยกชั้นดีได้รับการพัฒนาขึ้น และวัฒนธรรมเหลียงจู่ซึ่งเป็นตัวแทนวัฒนธรรมของยุคหินใหม่ตอนปลายได้ถือกำเนิดขึ้น ซากปรักหักพังทางโบราณคดีของเมืองโบราณเหลียงจู่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม และได้กลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ในระดับสูงสุดที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของอารยธรรมจีนที่มีอายุมากกว่า 5,000 ปี
ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์นี้ดำเนินมาประมาณ 5,000 ปี และยังคงปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้ การออกแบบมาสคอตของเอเชียนเกมส์ "ฉงฉง" (Congcong) เหรียญ "ซานสุ่ย" (Shan Shui) และคบเพลิงได้รับแรงบันดาลใจจากภาชนะหยกฉง (Cong) ของวัฒนธรรมเหลียงจู่ พิธีการจุดไฟของเอเชียนเกมส์จัดขึ้นที่ซากปรักหักพังทางโบราณคดีของเมืองโบราณเหลียงจู่ และการออกแบบโครงสร้างภายนอกของไฟคบเพลิงนั้นมีจุดกำเนิดมาจากแหวนหยกของเหลียงจู่ ประวัติศาสตร์อันงดงามได้ถูกสะท้อนให้เห็นในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ที่หางโจว
รสนิยมทางวัฒนธรรมเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
ในช่วงราชวงศ์ซ่งใต้ (พ.ศ. 1670-1822) หางโจวอยู่ในจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์การพัฒนาเมืองโบราณ และสร้างวัฒนธรรมที่รุ่งเรืองอย่างมาก
มรดกทางบ้านเมือง สังคม และวัฒนธรรมของราชวงศ์ซ่งสร้างความประทับใจให้กับมาร์โค โปโล (Marco Polo) นักสำรวจชาวตะวันตกผู้มาเยือนหางโจวในสมัยราชวงศ์หยวน และเรียกหางโจวว่า "เมืองแห่งสวรรค์ ที่สวยงามและโอ่อ่าที่สุดในโลก" วัฒนธรรมราชวงศ์ซ่งที่งดงาม ละเอียดอ่อน และแยบยลยังคงปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในหางโจวในอีกหลายพันปีต่อมา
ปัจจุบัน คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นในหางโจวเพลิดเพลินกับการสัมผัสวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์อันเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมสมาคมศิลปะตราประทับซีหลิง (Xiling Seal Art Society) ชิมชาท้องถิ่นหอมกรุ่น เดินเล่นบริเวณทะเลสาบตะวันตกในชุดพื้นเมืองสมัยราชวงศ์ซ่ง ถ่ายรูปที่กำแพงสีแดงของพิพิธภัณฑ์พระราชวังเต๋อโซ่ว (Deshou Palace) แห่งราชวงศ์ซ่งใต้ และเยี่ยมชมหอจดหมายเหตุสิ่งพิมพ์และวัฒนธรรมแห่งชาติจีน (China National Archives of Publications and Culture) สาขาหางโจว ซึ่งสร้างขึ้นตามรูปแบบของภาพวาดราชวงศ์ซ่งที่มีชื่อเสียง
ในปี 2565 หางโจวมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 1.298 แสนล้านหยวน ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมของหางโจวยังคงพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในปี 2565 มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมของหางโจวมีมูลค่ารวม 2.42 แสนล้านหยวน ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของจีดีพี (GDP) จุดร้อยละ 2.5 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 12.9 ของจีดีพี โดยกลายเป็นเสาหลักสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ ตามรายงานของรัฐบาลเทศบาลหางโจว
การพัฒนาเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
ทางตอนใต้สุดของคลองใหญ่ (Grand Canal) ของจีน ซึ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งนั้น เริ่มที่เมืองหางโจว ในยุคทองของคลองดังกล่าว น้ำในแม่น้ำที่ไหลผ่านนำพาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งอาหารและเสื้อผ้า ขนบธรรมเนียมและมารยาททางการจากส่วนต่าง ๆ ของประเทศมาสู่หางโจว ทำให้หางโจวกลายเป็นศูนย์กระจายสินค้าเชิงพาณิชย์ที่สำคัญและมุ่งสนับสนุนด้านนวัตกรรม
ปัจจุบัน การพัฒนาอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาแทนที่เส้นทางแม่น้ำของคลองใหญ่ ซึ่งเชื่อมโยงหางโจวกับทุกส่วนของจีนและส่วนอื่น ๆ ของโลก มีการจัดตั้งเครือข่ายการค้าดิจิทัลที่กว้างขวางขึ้น ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลแบบก้าวกระโดด
หางโจวไม่เพียงเป็นที่ตั้งขององค์กรการค้าดิจิทัลชั้นนำระดับท็อป 100 ของโลกมากกว่า 10 แห่ง เช่น อาลีบาบา (Alibaba) แอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) และเน็ตอีส (Netease) เท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของแพลตฟอร์มค้าปลีกอีคอมเมิร์ซเพื่อการส่งออกข้ามพรมแดนของจีนถึง 2 ใน 3 และเป็น 70% ของธุรกรรมการชำระเงินข้ามพรมแดนทั่วประเทศ นอกจากนี้ การแข่งขันอีสปอร์ตยังถูกบรรจุไว้ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนที่ชัดเจนของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของหางโจว
หลังจากผ่านไปหลายพันปี ความมีชีวิตชีวาของหางโจวไม่ได้ลดลงเลย และเมื่อมองไปยังอนาคต เมืองที่มีความเจริญก้าวหน้าและสร้างสรรค์แห่งนี้คาดว่าจะยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดใจอยู่เสมอ
ที่มา: เทศบาลนครหางโจว