Rabobank เผยแพร่รายงานการจัดอันดับ 20 บริษัทนมชั้นนำของโลก ประจำปี 2566 ซึ่งผลปรากฏว่า Yili ยังคงติดหนึ่งใน 5 บริษัทนมรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นบริษัทนมจากเอเชียเพียงแห่งเดียวที่ติดท็อป 5 ส่งผลให้ครองตำแหน่งบริษัทนมรายใหญ่ที่สุดในเอเชียอย่างเหนียวแน่นเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน
การจัดอันดับดังกล่าวพิจารณาจากผลประกอบการทางการเงินของบรรดาผู้ผลิตนมรายใหญ่ และสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวในระยะยาวของ Yili ท่ามกลางภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
ด้วยความได้เปรียบในการแข่งขันทั่วห่วงโซ่คุณค่า Yili จึงมีรายได้รวมเติบโตอย่างมั่นคงตลอด 30 ปี โดยในทศวรรษที่ผ่านมา รายได้ของ Yili เพิ่มขึ้นจาก 4.7779 หมื่นล้านหยวน (6.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2556 เป็น 1.23171 แสนล้านหยวน (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2565 ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตแบบทบต้น 11% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมถึงสองเท่า
Yili เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดหลายทศวรรษ ควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านทรัพยากรและนวัตกรรมระดับโลกของบริษัท ตลอดจนความพยายามในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ Yili ยังลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อขยายขอบเขตการวิจัยและพัฒนาทั่วโลก โดยมีการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมรวม 15 แห่งทั้งในประเทศจีนและต่างประเทศ และ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 Yili ติดอันดับ 2 ในกลุ่มบริษัทนมชั้นนำ 10 อันดับแรกของโลกในแง่ของการยื่นขอรับสิทธิบัตร นอกเหนือจากธุรกิจผลิตภัณฑ์นมชนิดเหลวที่ Yili มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอยู่แล้ว บริษัทยังจับเทรนด์การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่หลากหลาย และหันไปทำธุรกิจที่มีการเติบโตสูงอื่น ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากพืช ชีส และน้ำแร่ธรรมชาติ
ด้วยเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำการสร้างสรรค์นวัตกรรม Yili ได้บุกเบิกการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครอบคลุมการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การขยายช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลาย และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค โดยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมของบริษัท รวมถึงการยกระดับคุณภาพการบริการนั้น มีการอ้างอิงผลการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าและการคาดการณ์ด้วยอัลกอริทึม ขณะเดียวกัน โซลูชันดิจิทัลเหล่านี้ยังช่วยให้ Yili สามารถสร้างระบบตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์ได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ บริษัทยังใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI ในการพัฒนามนุษย์เสมือนจริง โรงงานเมตายูนิเวิร์ส และผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี GPT เพื่อมอบประสบการณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภค
เพื่อนำประโยชน์ของโภชนาการและสุขภาพมาสู่ผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น Yili ได้เร่งขยายธุรกิจในตลาดโลก จนธุรกิจในต่างประเทศของบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 52.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปีที่แล้ว โดยนอกเหนือจากยุโรป โอเชียเนีย และภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีการบริโภคผลิตภัณฑ์นมมากอยู่แล้วนั้น Yili ยังได้ลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี "ศูนย์คู่" (Dual Centers) อันประกอบด้วยบริษัทสาขาในประเทศไทยและฐานการผลิตในประเทศอินโดนีเซีย ทำหน้าที่เป็นกลไกให้ Yili สามารถรองรับความต้องการของตลาดในท้องถิ่น นอกจากนี้ Yili ยังใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านนวัตกรรมที่จัดตั้งขึ้นร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยในท้องถิ่น ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่น ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์มากมายของ Yili เช่น Cremo, Joyday, AMBPOMIAL และ Youngfun มีวางจำหน่ายแล้วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นับจนถึงปัจจุบัน Yili ได้สร้างฐานการผลิต 75 แห่งทั่วโลก และร่วมมือกับพันธมิตรมากกว่า 2,000 ราย โดยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งผลิตภัณฑ์นมชนิดเหลว นมผง โยเกิร์ต ชีส และไอศกรีม มีวางจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศและภูมิภาค นอกจากนี้ แบรนด์ Yili ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก และได้รับการยกย่องให้เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์นมที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกโดย Brand Finance เป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน
ที่มา: Yili Group
ลิงก์รูปภาพประกอบข่าว:
ลิงก์: https://iop.asianetnews.net/view-attachment?attach-id=441963
คำบรรยายภาพ: Yili ยังคงติดหนึ่งใน 5 บริษัทนมรายใหญ่ที่สุดในโลกจากการจัดอันดับโดย Rabobank อันเป็นผลมาจากผลประกอบการทางการเงินที่โดดเด่นของบริษัท
ลิงก์: https://iop.asianetnews.net/view-attachment?attach-id=441970
คำบรรยายภาพ: ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Yili มีวางจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศและภูมิภาค