อักษัย กุมาร (Akshay Kumar) หนึ่งในซูเปอร์สตาร์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของอินเดีย ได้ปูเส้นทางแห่งแรงบันดาลใจในอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดีย ด้วยการสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นจำนวนมาก จากผลงานภาพยนตร์ล่าสุดของเขาอย่างโอ้มายก็อด ภาค 2 (Oh My God 2) สร้างโดยวาเคา ฟิล์มส์ (Wakaao Films) ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์สุดฮิตที่ออกฉายเมื่อปี 2556 โดยภาคต่อเรื่องนี้ทำเงินไปได้แล้วกว่า 20 ดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก
อักษัย กุมาร ผู้เป็นที่รู้จักจากประวัติการแสดงภาพยนตร์ยอดนิยมในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้ใช้ชื่อเสียงของเขาเพื่อสร้างภาพยนตร์ที่ขับเคลื่อนสังคมมากขึ้น ภาพยนตร์เรื่องก่อน ๆ ของเขามีทั้ง 'ส้วมนั้น สำคัญฉะนี้' (Toilet: Ek Prem Katha) เกี่ยวกับการขับถ่ายในทุ่ง ตามมาด้วยแพดแมน (Padman) ซึ่งเล่าเรื่องเกี่ยวกับสุขอนามัยของสตรีในช่วงมีประจำเดือน โดยนักแสดงผู้นี้ ซึ่งชาวอินเดียมักเรียกด้วยฉายาว่า "ซูเปอร์สตาร์ที่มีหัวใจ" ยังเป็นที่โด่งดังจากภาพยนตร์แอคชั่น ที่เขามักจะแสดงบทบู๊ระห่ำแบบเดียวกับทอม ครูซ (Tom Cruise) บรรดาภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จของเขานั้นทำรายได้ทะลุพันล้านดอลลาร์ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นับเป็นความสำเร็จที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดีย ซูเปอร์สตาร์คนนี้ยังทำให้มีการจ้างงานมากกว่า 10,000 คนต่อปี ผ่านโปรเจ็กต์ภาพยนตร์และงานสังคมของเขา
การแสดงอันทรงพลังของอักษัย กุมาร ได้กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งในภาพยนตร์โอ้มายก็อด ภาค 2 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยภาพยนตร์ประสบความสำเร็จในด้านรายได้และได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ดีทั้งจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้ อักษัย กุมาร ได้ตอกย้ำถึงความสามารถอันเหลือล้นของเขาด้วยการท้าทายขนบของสังคมที่ไม่เปิดกว้างในเรื่องเพศศึกษา ซึ่งเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของสังคมอินเดียในปัจจุบัน การแสดงของอักษัย กุมาร ในฐานะผู้ส่งสารของพระศิวะ ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้ชมเป็นอย่างยิ่ง และเขาได้รับการยกย่องจากผู้คนจำนวนมากกว่าเป็นหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดของเขานับตั้งแต่เข้าวงการมาจนถึงปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดิทัศน์ (CBFC) และหน่วยงานบางส่วนของอินเดีย เล็งเห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ด้วยเหตุนี้ตัวภาพยนตร์จึงได้ถูกจัดเรตติ้ง A+ ซึ่งผู้คนในอินเดีย รวมถึงบรรดานักเรียนนักศึกษา ต่างแสดงความคิดเห็นคัดค้านการตัดสินใจของ CBFC บนโลกโซเชียล พวกเขายังร้องเรียนไปถึงกระทรวงสารสนเทศและการแพร่กระจายสื่อผ่านทางทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในอินเดีย โดยผู้ชมส่วนใหญ่เชื่อว่าการจัดเรตติ้งนี้เป็นการจำกัดการเข้าถึงภาพยนตร์ ทั้ง ๆ ที่เป็นภาพยนตร์ที่สร้างผลกระทบในเชิงบวก
รายงานเมื่อปี 2550 ระบุว่า 85% ของวัยรุ่นอินเดียขาดการเข้าถึงการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา รายงานยังเปิดเผยอีกว่า เพศศึกษานับเป็นเรื่องต้องห้ามใน 5 รัฐทั่วอินเดีย แม้แต่ประเทศอนุรักษ์นิยมยังอนุญาตให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายด้วยเรตติ้ง 12+ แต่อินเดียซึ่งเป็นดินแดนแห่งกามสูตร และมีกลุ่มโบราณสถานคชุราโหเป็นที่เลื่องลือนั้น เรื่องเพศกลับยังคงเป็นประเด็นต้องห้าม และไม่สามารถหารือได้อย่างเปิดเผย
ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ อักษัย กุมาร ก็ไม่เกรงกลัวที่จะเน้นย้ำถึงปัญหาด้านเพศศึกษาในประเทศด้วยความรับผิดชอบสูงสุด ในขณะที่ภาพยนตร์ของเขาสร้างแรงบันดาลใจและความสุขใจอย่างต่อเนื่องนั้น อักษัย กุมาร และภาพยนตร์เรื่องโอ้มายก็อด ภาค 2 ยังคงเป็นตัวพิสูจน์ถึงการกำหนดอนาคตที่ดีกว่าสำหรับเยาวชนอินเดีย
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/2208272/OMG2_Poster.jpg