สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (Future Investment Initiative) หรือสถาบัน FII ซึ่งเป็นมูลนิธิไม่แสวงผลกำไรระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อแก้ไขปัญหาระดับโลก ได้จัดการประชุมผู้นำระดับโลกทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐ และมีมติจัดการกับความเสี่ยงด้าน AI ในรูปแบบข้อมติ AI และมนุษยชาติ (Resolution on AI and Humanity)
ในการประชุมสุดยอด FII ที่กรุงริยาด (24-26 ตุลาคม) ผู้นำ นักลงทุน และนักนวัตกรรม 6 , 000 รายจากประเทศตะวันออก ตะวันตก และทั่วโลก ร่วมอภิปรายกว่า 200 หัวข้อ เพื่อจัดการกับปัญหาใหญ่ที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
เมื่อทั่วโลกเกิดความกังวลเรื่องการดำเนินการของรัฐบาลและภาคเอกชนในการกำกับดูแลและออกกฎระเบียบดูแล AI ขณะที่ผู้นำในอุตสาหกรรมเองก็แสดงความไม่สบายใจในเรื่องดังกล่าว FII ได้ระบุแนวทางการดำเนินการทันทีและเร่งด่วนระดับโลก เพื่อรับมือภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น
- ปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของข้อมูล และผลกระทบร้ายแรงต่อการเลือกตั้ง (ประชาชน 4 พันล้านคนมีกำหนดลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งในปี 2567)
- โอกาสที่มากขึ้นในการนำไปใช้สร้างอาวุธเคมีและชีวภาพ (เช่น ระบบ AI ที่สร้างสารที่ใช้ในการทำสงครามเคมี 40 , 000 รายการเมื่อไม่นานมานี้)
- การโจมตีทางไซเบอร์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 38% ในปี 2565
กลไกการกำกับและการดำเนินการ AI อย่างเป็นเอกภาพและครอบคลุมเป็นสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วน ซึ่งความเสี่ยงจะยังคงอยู่จนกว่าการพัฒนาและกฎระเบียบ AI จะมีความสอดคล้องกันทั่วโลก
วิธีการรับมือเร่งด่วนกับ AI ประกอบด้วย
- ความร่วมมือด้านนโยบายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับรัฐบาล ส่งเสริมความโปร่งใสและความรับผิดชอบ ตลอดจนกลไกการรายงานความล้มเหลวและความเสี่ยง
- กลไกการกำกับและการดำเนินการ AI ระดับโลกที่เป็นหนึ่งเดียวและครอบคลุม และเปิดโอกาสให้ตลาดเกิดใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในสัดส่วนที่เหมาะสม
- การลงทุนเชิงรุกในการพัฒนาทักษะและเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอย่างยุติธรรมสำหรับแรงงานที่ถูก AI แทนที่ ( ระบบอัตโนมัติจะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งงาน 400-800 ล้านตำแหน่งภายในปี 2573)
- การสร้างความสามารถในการตอบสนองระดับโลกที่เพียงพอเพื่อจัดการความเสี่ยง
- บริษัท AI มีความมุ่งมั่น ความโปร่งใส และความรับผิดชอบมากขึ้น ลดความเสี่ยงด้าน AI โดยมุ่งเน้นความปลอดภัย และนำแนวทางระดับความปลอดภัยมาใช้ในการพัฒนาโมเดล AI ในอนาคต
- ความต้องการวิสัยทัศน์อนาคตเชิงบวกร่วมกันที่เทคโนโลยีนี้สามารถทำได้
FII จะจัดตั้งแนวร่วม AI (AI Coalition) โดยนำนักลงทุน องค์กร ผู้นำรัฐบาล และนักวิชาการจากตลาดที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่มารวมตัวกัน เพื่อร่วมสนทนาอย่างตรงไปตรงมาในประเด็นสำคัญของการจัดระเบียบ AI
การประชุมสุดยอด FII 7 จัดขึ้น 1 เดือนหลังจากการอภิปรายปัญหา AI ในการประชุมสุดยอด G 20 ในนิวเดลี และ UNGA ในนิวยอร์ก และ 1 สัปดาห์ก่อนที่สหราชอาณาจักรจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดด้านความปลอดภัยของ AI ที่ศูนย์ถอดรหัสและการประมวลผลในสหราชอาณาจักรอย่างเบลตช์ลีย์ พาร์ก ( Bletchley Park) ทำให้การพูดคุยเรื่อง AI ในการประชุม FII สอดรับกับกระแสโลกขณะนี้
ริชาร์ด แอตเทียส ( Richard Attias) ซีอีโอของสถาบัน FII กล่าวว่า
" เป็นเรื่องที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลเอามาก ๆ ที่บริษัทเทคโนโลยีและระบบกลไกการกำกับและการดำเนินการดูแลในจีน สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และซีกโลกใต้มีความแตกต่างกันอย่างมากในเรื่องภัยคุกคามและโอกาส ตลาด AI คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และ AI มีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาและความท้าทายที่ยากที่สุดของเราบางส่วน ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างความเสี่ยงระดับโลกได้ หากเราไม่ปรับ AI ให้สอดคล้องกับความต้องการอย่างเร่งด่วนของมนุษยชาติ ทั้งนี้ AI กำลังจะเปลี่ยนแปลงสังคมและเศรษฐกิจโลก และโลกจำเป็นต้องรับมือกับสิ่งนี้อย่างรวดเร็ว "
เกี่ยวกับสถาบัน FII
สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต หรือสถาบัน FII คือมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและมีเครื่องมือการลงทุนและมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือการสร้างอิทธิพลเชิงบวกต่อมนุษยชาติ เราดำเนินงานอย่างครอบคลุมในระดับโลก เราส่งเสริมผู้มีไอเดียดี ๆ จากทั่วโลกและเปลี่ยนไอเดียเหล่านั้นให้เป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริงในสี่ส่วนสำคัญด้วยกัน ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ ( AI) และวิทยาการหุ่นยนต์ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และความยั่งยืน
โลโก้ : https://mma.prnewswire.com/media/1811613/FII_Institute_Logo.jpg
รูปภาพ : https://mma.prnewswire.com/media/2257092/FII_AI_Resolution_Summit.jpg