ในการฉลองนวัตกรรมและอัตลักษณ์ความเป็นสวิส สามแบรนด์เชิงนวัตกรรมจากสวิตเซอร์แลนด์ได้ผนึกกำลังสร้างสรรค์เสื้อแจ็กเก็ต ที่นอกจากจะพิเศษยอดเยี่ยมในแง่ของความสามารถในการรักษาความอบอุ่นให้กับผู้สวมใส่แล้ว ยังชูความเป็นสวิสอย่างภาคภูมิใจด้วย ในการนี้ เนสเพรสโซ (Nespresso), มัมมุท (Mammut) และไฮคิว (HeiQ) ได้ร่วมมือกันออกแบบเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนอื่นใดในอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งอย่างเอ็กซ์ตรอดินารี แจ็กเก็ต (Extraordinary Jacket)
เอ็กซ์ตรอดินารี แจ็กเก็ต เป็นเครื่องยืนยันถึงดีไซน์และนวัตกรรมความเป็นสวิส โดยนำชั้นกันหนาวอายุงกิลัก (Ajungilak(R)) ของมัมมุท มาผสานรวมเข้ากับเทคโนโลยีไฮคิว รีเฟล็กซ์ (HeiQ XReflex) สนับสนุนโดยเซฟโค (Xefco) ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วนอะลูมิเนียมจากแคปซูลรีไซเคิลของเนสเพรสโซ
การอยู่บนภูเขาสูงมาพร้อมกับการลดฮวบดิ่งลงของอุณหภูมิ ในแง่นี้ มัมมุท ไฮคิว และเนสเพรสโซได้ร่วมกันสร้างสรรค์แจ็กเก็ตกันหนาวสมรรถนะสูงดังกล่าวนี้ ซึ่งมอบการกักเก็บความร้อนที่เหนือชั้น โดยที่ยังคงสามารถระบายอากาศได้อย่างดี ทำให้ผู้สวมใส่สามารถรู้สึกดีกับการอยู่เหนือแนวต้นไม้
สิ่งที่ทำให้เอ็กซ์ตรอดินารี แจ็กเก็ต พิเศษอย่างแท้จริง คือความสามารถในการกักเก็บความร้อนสูงกว่า 20% เมื่อเทียบกับเสื้อแจ็กเก็ตพร้อมชั้นกักเก็บความร้อนแบบดั้งเดิมที่มีความหนาใกล้เคียงกัน นวัตกรรมชั้นเลเยอร์ผ้าเนื้อหยาบทำจากอะลูมิเนียม ไฮคิว เอ็กซ์รีเฟล็กซ์ ทรีดี (HeiQ XReflex 3D) สะท้อนการแผ่ความร้อนของร่างกายภายในชั้นกันหนาว ทำให้ผู้สวมใส่ไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ผลที่ได้คือความสบายโดยไม่ต้องพยายาม แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากและต้องใช้ความพยายามสูง
ขณะนี้เสื้อแจ็กเก็ตดังกล่าวนี้วางจำหน่ายทาง Mammut.com และร้านค้ามัมมุทบางแห่งในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา อเมริกาเหนือ จีน และญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังหาซื้อได้ทางเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในสวิตเซอร์แลนด์ของเนสเพรสโซ และมีตั้งแสดงอยู่ในร้านเอาต์เล็ตของเนสเพรสโซในสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรีย เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก และสหราชอาณาจักร รับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้พอดี
นวัตกรรมที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ แนวคิดที่เป็นสวิสอย่างที่สุด
คุณไอรีน บาลัสคัส ( Irene Balascas) หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนประจำสวิตเซอร์แลนด์ของเนสเพรสโซ ตื่นเต้นกับการทำงานร่วมกันครั้งนี้ โดยกล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการเชิงนวัตกรรมนี้ เพื่อนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ชูการใช้ทรัพยากรแคปซูลอะลูมิเนียมอย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่เราเคยทำมาแล้วในความร่วมมือก่อนหน้านี้กับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับเดียวกัน"
"เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานร่วมกันระหว่างสามฝ่ายซึ่งเชิดชูนวัตกรรมสวิสแท้ ๆ" คุณนิค แบรนเดนเบอร์เจอร์ (Nic Brandenberger) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของมัมมุท กล่าว "การใช้อะลูมิเนียมจากแคปซูลเนสเพรสโซใช้แล้วในเสื้อกันหนาวของมัมมุท พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีไฮคิว เอ็กซ์รีเฟล็กซ์ ทำให้เรามอบสมรรถนะการควบคุมอุณหภูมิที่เหนือชั้นโดยมีน้ำหนักและขนาดน้อยกว่าให้แก่ลูกค้าได้"
สำหรับคุณคาร์โล เซนทอนเซ (Carlo Centonze) ซีอีโอของไฮคิว กรุ๊ป (HeiQ Group) แล้ว "เอ็กซ์ตรอดินารี แจ็กเก็ต เป็นสัญลักษณ์ของคำสัญญาของไฮคิวที่จะมอบ 'เทคโนโลยีสวิสด้านใน' อะลูมิเนียมจากแคปซูลรีไซเคิลได้กลายเป็นวัตถุดิบสำหรับไฮคิว เอ็กซ์รีเฟล็กซ์ เพื่อมอบพลังให้กับเสื้อแจ็กเก็ตกันหนาวสำหรับกลางแจ้งรุ่นใหม่ซึ่งผลิตโดยมัมมุท เป็นหลักฐานว่ากาแฟแก้วเดียวสามารถทำให้เราอุ่นได้มากกว่าหนึ่งครั้ง เราหวังว่าคุณจะมีความสุขกับผลลัพธ์ของโครงการนี้มากเท่า ๆ กับเรา"
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสามแบรนด์เชิงนวัตกรรมของสวิตเซอร์แลนด์ผนึกกำลังโดยมีจุดประสงค์ร่วมกัน ก็คือสิ่งที่พิเศษยอดเยี่ยมระดับเอ็กซ์ตรอดินารี
เกี่ยวกับมัมมุท
มัมมุท (Mammut) เป็นบริษัทผลิตภัณฑ์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งสัญชาติสวิส ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2405 มอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและประสบการณ์แบรนด์ที่ไม่เหมือนอื่นใดให้แก่ผู้ชื่นชอบกีฬาภูเขาทั่วโลก เป็นเวลากว่า 160 ปีมาแล้วที่แบรนด์ระดับพรีเมียมชั้นนำของโลกรายนี้เป็นสัญลักษณ์ของความปลอดภัยและนวัตกรรมที่บุกเบิก ผลิตภัณฑ์ของมัมมุทผสมผสานฟังก์ชันการใช้งานและสมรรถนะเข้ากับดีไซน์ทันสมัย ด้วยความหลากหลายของสินค้าจับต้องได้ รองเท้า และเสื้อผ้า มัมมุทเป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำในตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า มัมมุท สปอร์ตส์ กรุ๊ป เอจี (Mammut Sports Group AG) ดำเนินธุรกิจในราว 40 ประเทศและมีพนักงานราว 800 คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mammut.com
เกี่ยวกับเนสท์เล่ เนสเพรสโซ เอสเอ
เนสท์เล่ เนสเพรสโซ เอสเอ (Nestle Nespresso S.A.) เป็นผู้บุกเบิกและเป็นต้นแบบด้านกาแฟพอดีส่วนคุณภาพสูง บริษัททำงานร่วมกับเกษตรกรกว่า 150,000 คนใน 18 ประเทศผ่านโครงการเอเอเอ ซัสเทนเนเบิล ควอลิตี (AAA Sustainable Quality(TM)) เพื่อปลูกฝังแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนในไร่และภูมิทัศน์โดยรอบ โครงการดังกล่าวนี้เริ่มดำเนินการในปี 2546 ด้วยการทำงานร่วมกับองค์กรไม่แสวงกำไรอย่างเรนฟอเรสต์ อัลไลแอนซ์ (Rainforest Alliance) โดยช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลเก็บเกี่ยว เพื่อให้มีอุปทานกาแฟคุณภาพสูงที่ยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและชุมชนของเกษตรกร
ในปี 2565 เนสเพรสโซได้รับการรับรองบีคอร์ป (B Corp(TM)) โดยเข้าร่วมกับขบวนการระหว่างประเทศซึ่งประกอบด้วยธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายกว่า 7,300 แห่ง ซึ่งมีคุณสมบัติสอดคล้องกับมาตรฐานที่สูงของบีคอร์ปในด้านความรับผิดชอบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมและความโปร่งใส
ตั้งแต่ปี 2534 เนสเพรสโซได้ดำเนินการระบบรีไซเคิลที่แข็งแกร่ง โดยในสวิตเซอร์แลนด์นั้น แคปซูลอะลูมิเนียมใช้แล้วของเนสเพรสโซสามารถนำไปคืนที่จุดรับคืนในท้องถิ่น ร้านค้าบูติกของเนสเพรสโซ และคู่ค้าทางธุรกิจของเนสเพรสโซกว่า 3,700 แห่ง เนสเพรสโซยังมีบริการ 'รีไซเคิลที่บ้าน' (Recycling at Home) ร่วมกับไปรษณีย์สวิส (Swiss Post) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถนำแคปซูลเนสเพรสโซใช้แล้วใส่ในถุงรีไซเคิลที่ออกแบบมาเป็นพิเศษและนำฝากไว้ในตู้ไปรษณีย์เพื่อให้ผู้ให้บริการไปรษณีย์มารับไปในการไขตู้รอบถัดไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในสวิตเซอร์แลนด์ กว่าครึ่งหนึ่ง (72% - ในประเภทจากธุรกิจสู่ผู้บริโภค หรือ B2C) ของแคปซูลเนสเพรสโซได้รับการรีไซเคิล
เนสเพรสโซมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองเวอแว ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดำเนินงานในตลาด 83 แห่งและมีพนักงานกว่า 14,000 คน ในปี 2565 บริษัทดำเนินเครือข่ายค้าปลีกระดับโลกประกอบด้วยร้านค้าบูติก 791 แห่ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์องค์กรของเนสเพรสโซ www.nestle-nespresso.com
เกี่ยวกับไฮคิว
ไฮคิว (HeiQ) ก่อตั้งขึ้นจากการแยกตัวออกจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิสในซูริก (Swiss Federal Institute of Technology Zurich หรือ ETH) เมื่อปี 2548 และจดทะเบียนในกระดานหลักของตลาดหุ้นลอนดอน (XLON:HEIQ) ไฮคิวเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสิ่งทอและวัสดุ ผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ทนทาน และสมรรถนะสูงที่สุดในตลาดทุกวันนี้ ไฮคิวมุ่งยกระดับชีวิตของผู้คนหลายพันล้านผ่านการบุกเบิกนวัตกรรมสิ่งทอและวัสดุ ไฮคิวผสมผสานความเชี่ยวชาญใน 3 ด้าน ได้แก่ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การผลิตวัสดุพิเศษ และการสร้างแบรนด์สำหรับผู้บริโภค จนกลายเป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและยั่งยืนเพื่อเพิ่มมูลค่า ณ จุดขาย ปัจจุบัน บริษัทมีสำนักงาน 14 แห่ง ฐานการผลิต 7 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 7 แห่ง และพนักงานมืออาชีพ 230 คน บริษัทมีกำลังการผลิตสารเคมีชนิดพิเศษรวม 45,000 ตันต่อปี และให้บริการลูกค้าอุตสาหกรรมกว่า 1,000 ราย ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน เทคโนโลยีของไฮคิวมีวางจำหน่ายใน 56 ประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.heiq.com
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/2264072/HeiQ_Mammut_Nespresso_Jacket.jpg
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/2259729/HeiQ_Mammut_Nespresso_Logo.jpg