คุณเธียร์รี เออร์มันน์ (thierry Ehrmann) ผู้ก่อตั้งอาร์ตไพรซ์ (Artprice) และซีอีโอของบริษัทอาร์ตมาร์เก็ต (Artmarket) กล่าวว่า "สกุลเงินดิจิทัลได้แสดงสัญญาณเชิงบวกหลังจากการเฝ้าสังเกตอย่างระมัดระวังมาระยะหนึ่ง ทำให้อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต (Artprice by Artmarket) พิจารณาผสานรวมสกุลเงินดิจิทัลบิตคอยน์และอีเธอเรียมเข้ากับแพลตฟอร์มตลาดกลางระดับโลก (Standardized Marketplace(R)) ของบริษัทที่เปิดตัวขึ้นในปี 2548 สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้กำลังแข่งขันกับสกุลเงินต่างประเทศหลัก ๆ และเป็นเรื่องธรรมดาที่อาร์ตไพรซ์จะเพิ่มงานศิลปะ NFT เข้าสู่แพลตฟอร์มตลาดกลางของตนภายใต้หมวดหมู่/สื่อใหม่ มอบพื้นที่ที่เหมาะสมในฐานะส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ตลาดงานศิลปะ"
การตัดสินใจนำสกุลเงินดิจิทัลเข้าสู่ตลาดกลางของเรา เกิดขึ้นหลังจากการสังเกตอย่างรอบคอบเป็นเวลานานเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของรูปแบบการประมูลที่ใช้บิตคอยน์และอีเธอเรียมเป็นสื่อกลาง ทั่วทั้งฐานข้อมูลของอาร์ตไพรซ์นับตั้งแต่รวมเข้ากับระบบของเราอย่างในเดือนกันยายน 2565
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2279343/Artmarket_1.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2279344/Artmarket_2.jpg
สกุลเงินดิจิทัลหลักทั้งสองนี้ (บิตคอยน์และอีเธอเรียม) คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 82% ของมูลค่ารวมสกุลเงินดิจิทัลที่มีอยู่ประมาณ 21,000 รายการในปัจจุบัน (ไม่นับรวมสเตเบิลคอยน์)
อาร์ตไพรซ์ได้วิเคราะห์บันทึกการเชื่อมต่อหลายร้อยล้านรายการ จนสังเกตเห็นการเพิ่มขึ้นของการปรึกษาราคาบิตคอยน์และอีเธอเรียมในธนาคารข้อมูลอย่างต่อเนื่องตลอด 14 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งในแง่สถิติแล้วถือว่าใกล้เคียงกับการปรึกษาราคาในสกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์ ยูโร สเตอร์ลิง หรือเยน
การตัดสินใจของอาร์ตไพรซ์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลทั้งในด้านความคิดและพฤติกรรมของผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ตลอดจนในหมู่นักสะสมและผู้ชื่นชอบงานศิลปะ
สถิติเชิงบวกตลอด 14 เดือนที่ผ่านมาส่งผลให้อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ทำการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ในการรวมบิตคอยน์และอีเธอเรียมเข้ากับแพลตฟอร์มตลาดกลางระดับโลกของตน ซึ่งนำเสนอผลงานศิลปะมากกว่า 75,000 ชิ้นจากทั่วโลกในแต่ละวัน ผลงานเหล่านี้ถูกซื้อและขายโดยลูกค้าและสมาชิกของอาร์ตไพรซ์กว่า 7.2 ล้านราย สร้างรายได้ต่อปีมูลค่าหลายร้อยล้านยูโร ความสำเร็จของแพลตฟอร์มนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่สั่งสมมายาวนานกว่า 18 ปีระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
การรวมงานศิลปะ NFT ไว้บนแพลตฟอร์มตลาดกลางระดับโลกของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต พร้อมการเสนอราคาเป็นบิตคอยน์และอีเธอเรียม (นอกเหนือจากสกุลเงินหลัก) จะมีส่วนสนับสนุนในการทำให้สื่อใหม่นี้เป็นที่ยอมรับโดยรวมในตลาดศิลปะมากขึ้นอย่างมาก
แพลตฟอร์มตลาดกลางโดยอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต มีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งในตลาด เนื่องจากแพลตฟอร์ม NFT หลักที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาพื้นฐานหลายประการอันเนื่องมาจากขาดเวลา ช่องทางการเงิน และเหนือสิ่งอื่นใดคือการบริหารจัดการประเด็นลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
สำหรับโอเพ่นซี (OpenSea) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม NFT ชั้นนำ ได้ประกาศแล้วว่า ปัญหาหลักของงานศิลปะ NFT กว่า 80% มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม ด้วยเหตุนี้ โอเพ่นซีจึงประกาศพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวและปกป้องผู้ขายและผู้ซื้อ นำไปสู่การรับรองตลาดของอาร์ตไพรซ์เอง
การออกงานศิลปะ NFT โดยอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต สามารถสร้างมูลค่าการซื้อขาย (และผลกำไร) ได้อย่างยอดเยี่ยม เพิ่มขึ้นกว่า 75% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566
เมื่อคำนึงถึงกรอบขั้นพื้นฐานและข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว อาร์ตไพรซ์จึงเป็นองค์กรเดียวในตลาดศิลปะโลกที่สามารถตอบสนองต่อการรับรองการปล่อยงานศิลปะ Art NFT ในสภาพแวดล้อมสกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินหลักได้อย่างแท้จริง
ความสามารถในการรับรองการปล่อยงานศิลปะ NFT ยังมาจากการที่อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต คือผู้นำระดับโลกในด้านข้อมูลตลาดศิลปะมานานกว่า 25 ปี และเป็นผู้สร้างและเจ้าของฐานข้อมูลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีคอลเลกชันสารคดีที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งรวบรวมบันทึกตลาดศิลปะ ต้นฉบับ รายชื่อ และแค็ตตาล็อกการขายที่มีคำอธิบายประกอบตั้งแต่ปี 2243 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งรับประกันความถูกต้องและความจริงทางประวัติศาสตร์ของฐานข้อมูล
อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตลาดศิลปะ พร้อมด้วยแพลตฟอร์มตลาดกลางระดับโลกที่สร้างขึ้นในปี 2548 ถือเป็นการรับประกันที่สมเหตุสมผลและจำเป็นอย่างยิ่งซึ่งได้รับการยอมรับทั่วทั้งตลาดศิลปะ เนื่องจากในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา เราได้พัฒนาสิ่งที่จำเป็นสำหรับการขายงานศิลปะ NFT ทางออนไลน์ กล่าวคือ การรับรองศิลปินเจ้าของผลงาน ตามด้วยการวิเคราะห์ชีวประวัติของศิลปินโดยละเอียด ไปจนถึงเอกสารสนับสนุนต้นฉบับทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับศิลปิน ซึ่งต่อมาถูกจัดเก็บอยู่ในฐานข้อมูลเอกสารสำคัญของอาร์ตไพรซ์ แนวทางปฏิบัติเหล่านี้เองที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ตลาด และทำให้อาร์ตไพรซ์เป็นที่ยอมรับ
นอกจากนี้ เราไม่อนุญาตให้มีการโพสต์ข้อเสนองานศิลปะหรืองานศิลปะ NFT ผ่านทางออนไลน์ได้หากไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของตัวตนศิลปิน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานศิลปะคริปโต) และผู้ขายผ่านขั้นตอนที่เข้มงวด ในบริบทของการขาย NFT แล้ว สิ่งนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เนื่องจากความหละหลวมจะนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ มากมายบนไซต์อื่น ๆ
มูลค่าที่เพิ่มขึ้นที่อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต มอบให้คือคลังความรู้เกี่ยวกับศิลปิน ไม่ว่าจะผ่านผลการประมูลครั้งก่อนหรือจากข่าวสารที่เกิดขึ้นใหม่ นอกจากนี้ ระบบส่งข้อความอินทราเน็ตของอาร์ตไพรซ์ยังให้บริการทั้งแก่ผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อให้พวกเขาสามารถตกลงเกี่ยวกับธุรกรรมของตนในลักษณะที่เป็นความลับและได้รับความยินยอมทั้งสองฝ่าย
การเสนอราคาตามผลประมูลในสกุลเงินดิจิทัลเมื่อเดือนกันยายน 2565 นั้นถือเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และถูกนำมาใช้จริงหลังผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ได้ดำเนินการขั้นแรกแล้วโดยมีการโควตราคาผลการประมูลงานศิลปะจำนวน 8,828,384 รายการในสกุลเงินบิตคอยน์ ย้อนหลังไปถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 (โดย 1 บิตคอยน์เท่ากับ $0.7, 0.434031 และ EUR0.50707) และผลการประมูลงานศิลปะจำนวน 5,814,866 รายการใน สกุลเงินอีเธอเรียมย้อนหลังไปถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2558 (โดย 1 อีเธอเรียมเท่ากับ $3, 1.93626 และ EUR2.735523)
การเพิ่มสกุลเงินดิจิทัลอ้างอิงสองสกุลเข้ากับสกุลเงินแห่งศตวรรษที่ 20 (ดอลลาร์ ยูโร สเตอร์ลิง เยน) ในฐานข้อมูลของอาร์ตไพรซ์ ทำให้ลูกค้าของเราได้รับมุมมองที่จำเป็นในการทำความเข้าใจการพัฒนาของสกุลเงินดิจิทัลในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นอกเหนือจากสกุลเงินหลักของโลก
สกุลเงินดิจิทัลได้นำนักสะสมและผู้ชื่นชอบงานศิลปะหน้าใหม่มาสู่วงการ ซึ่งมักจะอายุน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้สกุลเงินดิจิทัล กลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่ต่อต้านการเก็งกำไรและความเสี่ยง พวกเขาไม่มีความตั้งใจที่จะสละจักรวาลคริปโตแห่งโลก Web 3.0 ทิ้งไป ลูกค้าใหม่เหล่านี้มักอาศัยข้อมูลจากอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต อยู่เป็นประจำ และได้ร้องขอให้มีการเพิ่มอีเธอเรียมและบิตคอยน์เข้าไปในฐานข้อมูลอาร์ตไพรซ์ทั้งหมดและแพลตฟอร์มตลาดกลางระดับโลกอยู่บ่อยครั้ง
ด้วยเหตุนี้ อาร์ตไพรซ์จึงกำลังสร้างสำนักงานใหญ่แบบเมตาเวิร์สที่ตั้งอยู่ใจกลาง L'Organe ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยอันโด่งดัง ที่ดูแล Demeure du Chaos / Abode of Chaos (คำนิยมจากเดอะนิวยอร์กไทมส์) โดยในการสร้างเมตาเวิร์สของสิ่งปลูกสร้างนี้ด้วยสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่ "งานศิลปะทั้งหมด") โดยคุณเธียร์รี เออร์มันน์ (ผู้ซึ่งเป็นศิลปินทัศนศิลป์ด้วย) กลุ่ม TT Geoometres Experts ของยุโรปซึ่งมีทรีดี แล็บ (3D Lab) และกรุ๊ป เซอร์เวอร์ (Groupe Serveur) (บริษัทแม่ของอาร์ตไพรซ์) นั้น ได้ดำเนินการแปลงงานศิลปะ 6,300 ชิ้นให้เป็นดิจิทัลโดยสมบูรณ์ ครอบคลุมตัวอาคาร สำนักงาน อาคารหลัง และผนังโดยรอบ บนพื้นที่กว่า 7,555 ตารางเมตร นำไปสู่การสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลขนาด 12 เทราไบต์ งานนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2566 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://ftp1.serveur.com/abodeofchaos_singular_architecture.pdf
การลงทุนที่จำเป็นทั้งหมดได้รับการสนับสนุนจากกรุ๊ป เซอร์เวอร์ แล้ว
อนาคตของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต คือจุดนัดพบระหว่าง Web 3.0 กับปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของอาร์ตไพรซ์อย่างอินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต เอไอ (Intuitive Artmarket (R) AI)
อาร์ตไพรซ์ เมตาเวิร์ส (Artprice Metaverse) ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสรุป สามารถเข้าถึงได้ผ่านระบบเออาร์และ/หรือวีอาร์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้คนลืมระบบไอทีที่เข้มงวดของ Web 2.0 ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์อย่างแท้จริง สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ที่ชื่นชอบจักรวาลคริปโทฯ ได้สัมผัสประสบการณ์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้วิชัน โปร (Vision Pro) ที่แอปเปิล (Apple) ได้ประกาศเปิดตัวไปในงาน WWDC ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของระบบเออาร์และวีอาร์ รวมถึงเมตา เควสต์ 3 (Meta Quest 3), โฮโลเลนส์ 2 (HoloLens 2) จากไมโครซอฟท์ (Microsoft), วีอาร์ เดลล์ วีอาร์พี100 (VR DELL VRP100) ซึ่งเป็นวีอาร์เอ็กซ์จากเลโนโว (Lenovo), เกียร์ วีอาร์ อาร์322 (Gear VR R322) จากซัมซุง (Samsung), รีเวิร์บ จี2 (Reverb G2) จากเอชพี (HP) ทั้งหมดนี้ล้วนรองรับ Web 3.0
การเฝ้าสังเกตสกุลเงินดิจิทัลอย่างใกล้ชิดของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้มากมายไม่มากก็น้อยได้ทำให้เศรษฐกิจโลกสั่นคลอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสกุลเงินดิจิทัล
หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 (ที่ 68,989 ดอลลาร์สำหรับบิตคอยน์ และ 4,866 ดอลลาร์สำหรับอีเธอเรียม) สกุลเงินดิจิทัลกลับปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับต่ำสุดที่ 15,480 ดอลลาร์ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 สำหรับบิตคอยน์ และ 880 ดอลลาร์สำหรับอีเธอเรียมในวันที่ 18 มิถุนายน 2565
ปี 2565 และส่วนใหญ่ของปี 2566 จึงเป็นบททดสอบครั้งสุดท้ายสำหรับสกุลเงินดิจิทัล โดยมีการปรับตัวลงอย่างน่ากังวล สร้างผลกระทบกับนักลงทุนภายนอกอย่างรุนแรง และการพิจารณาคดีครั้งประวัติศาสตร์หลายครั้ง (เช่นคดีฉ้อโกงการล้มละลายของเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) โดยแซม แบงก์แมน-ไฟรด์) การนำกฎระเบียบที่เข้มงวดมาใช้ ท่ามกลางบริบททางเศรษฐกิจ การเงิน และภูมิรัฐศาสตร์ที่ท้าทาย อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ความซบเซาในการค้าโลก และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ทำให้สกุลเงินดิจิทัลสามารถเข้ามามีบทบาทในระบบการเงินระหว่างประเทศและในประวัติศาสตร์ได้ในที่สุด โลกแห่งการเงินจำเป็นตระหนักถึงความแข็งแกร่งของสกุลเงินดิจิทัลชั้นในวิกฤติต่าง ๆ เห็นได้จากการที่มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) และเจพี มอร์แกน เชส (JP Morgan Chase) ต่างเสนอกองทุนบิตคอยน์ให้ลูกค้า
นอกจากนี้ แม้จะถูกรุมเร้าด้วยบริบททางเศรษฐกิจที่อธิบายไว้ข้างต้น แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดยั้งแผนการพัฒนาต่าง ๆ ได้ เช่น การเปลี่ยนไปใช้ "เดอะ เมิร์จ" (The Merge) ในวันที่ 15 กันยายน 2565 เพื่อ "ลดคาร์บอน" ของบล็อกเชนอีเธอเรียม 2.0 (Ethereum 2.0 Blockchain) อย่างสมบูรณ์ในบริบทของวิกฤตพลังงานโลก คุณวิตาลิก บูเตอริน (Vitalik Buterin) ผู้ก่อตั้ง เปิดเผยว่า หลังจาก 7 ปีของการพัฒนาและการทดสอบเบต้าที่ประสบความสำเร็จ "เดอะ เมิร์จ" ช่วยให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบล็อกเชนอีเธอเรียมลดลงมากกว่า 99.95% โดยเปลี่ยนจาก "พรูฟออฟเวิร์ก" (Proof of Work หรือ PoW) เป็น "พรูฟออฟสเตก" (Proof of Stake หรือ PoS) (ที่มา: มูลนิธิอีเธอเรียม)
ในบริบทระดับโลกที่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนถึงขั้นรุนแรง นี่เป็นการพัฒนาที่สำคัญอย่างแท้จริง และเหนือสิ่งอื่นใด ได้อธิบายถึงการตัดสินใจของธนาคารกลางแห่งนอร์เวย์ในการสร้างธนาคารกลางสกุลเงินดิจิทัล (Central Bank Digital Currency) บนอีเธอเรียน ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐมองว่าอีเธอเรียมเป็นการลงทุนที่มีจริยธรรม พร้อมตั้งฉายาว่า "ยักษ์สีเขียว"
นอกจากนี้ การประกาศของแบล็กร็อก (BlackRock) ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังส่งสัญญาณอย่างชัดเจนถึงการฟื้นตัวของสกุลเงินดิจิทัลและการสิ้นสุดของตลาดหมี โดยภายหลังการยื่นจดทะเบียนกองทุนรวมดัชนีบิตคอยน์ สปอต อีทีเอฟ (Bitcoin Spot ETF) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) แบล็กร็อกยังยื่นจดทะเบียนกองทุนอีเธอเรียมต่อในวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ภายใต้ชื่อ ไอแชร์ส อีเธอเรียม ทรัสต์ (iShares Ethereum Trust) โดยสิ่งนี้จะช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด โดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์โดยตรง
การคาดการณ์ราคาในปัจจุบันยังเป็นบวกอย่างมาก โดยบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารรายใหญ่ ๆ ในอเมริกามีความเห็นที่เอื้ออำนวยต่อสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ และอีเธอเรียม โดยมีเป้าหมายที่สูงกว่าราคาปัจจุบันอย่างมาก
คุณเธียร์รี เออร์มันน์ กล่าวว่า "เราอดทนรอช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัวการใช้งานที่สำคัญบนอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ในสภาวะที่ดีที่สุดสำหรับทั้งตลาดศิลปะและสำหรับสกุลเงินดิจิทัล ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องดำเนินการปรับใช้ตลาดกลางที่น่าเชื่อถือและต้อนรับโลกแห่งสกุลเงินดิจิทัลและ NFT โดยการเข้าสู่ Web 3.0 ซึ่งเป็นอนาคตแห่งโลกอินเทอร์เน็ต สิ่งเหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้หากปราศจากความรู้และประสบการณ์ของอาร์ตไพรซ์ ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านข้อมูลตลาดศิลปะมานานกว่า 25 ปี
รูปภาพ:
[https://imgpublic.artprice.com/img/wp/sites/11/2023/11/image1_bitcoin_artprice.jpg] [https://imgpublic.artprice.com/img/wp/sites/11/2023/11/image2_ethereum_the_merge_artprice.jpg]
ลิขสิทธิ์ 2530-2566 เธียร์รี เออร์มันน์ www.artprice.com - www.artmarket.com
- อย่าลังเลที่จะติดต่อฝ่ายเศรษฐมิติของเราเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับสถิติและการศึกษาวิจัยส่วนตัว: econometrics@artprice.com
- ทดลองบริการของเรา (ฟรี): https://www.artprice.com/demo
- สมัครสมาชิกบริการของเรา: https://www.artprice.com/subscription
เกี่ยวกับอาร์ตมาร์เก็ต
อาร์ตมาร์เก็ตดอตคอม ( Artmarket.com) จดทะเบียนใน Eurolist โดย Euronext Paris, SRD long only และ Euroclear: 7478 - Bloomberg: PRC - Reuters: ARTF
สำรวจอาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ผ่านวิดีโอ: www.artprice.com/video
อาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 โดยซีอีโอ เธียร์รี เออร์มันน์ อาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ได้รับการกำกับดูแลโดยกรุ๊ป เซอร์เวอร์ (Groupe Serveur) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2530
ดูชีวประวัติที่ผ่านการรับรองใน Who's who (C):
https://imgpublic.artprice.com/img/wp/sites/11/2023/04/2023_2_Biographie-thierry-Ehrmann_WhosWhoInFrance.pdf
อาร์ตมาร์เก็ตเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดงานศิลปะ โดยหนึ่งในโครงสร้างขององค์กรคือฝ่ายอาร์ตไพรซ์ ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการสะสม การจัดการ และการแสวงหาประโยชน์จากข้อมูลตลาดงานศิลปะทั้งในประวัติศาสตร์และปัจจุบัน (คลังสารดีต้นฉบับ รายการศิลปะ หนังสือหมายเหตุ และแค็ตตาล็อกการประมูลตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา) ในคลังข้อมูลที่ประกอบด้วยดัชนีและผลการประมูลกว่า 30 ล้านรายการ ครอบคลุมศิลปินกว่า 825,000 ราย
อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตลาดงานศิลปะ ตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานให้ตัวเองผ่านตลาดที่เป็นมาตรฐานระดับโลก เพื่อที่จะเป็นแพลตฟอร์ม NFT งานวิจิตรศิลป์ชั้นนำของโลก
อาร์ตไพรซ์ อิเมเจส (Artprice Images(R)) ช่วยให้เข้าถึงคลังภาพตลาดงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีภาพดิจิทัลไม่น้อยกว่า 180 ล้านรายการจากภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์จากผลงานศิลปะตั้งแต่ปี พ.ศ. 2243 จนถึงปัจจุบัน พร้อมความเห็นจากนักประวัติศาสตร์งานศิลปะของเรา
อาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์สะสมข้อมูลถาวรจากบริษัทประมูล 7,200 แห่ง และสร้างข้อมูลตลาดงานศิลปะที่สำคัญสำหรับสื่อและเอเจนซี่ด้านสื่อมากมาย (สิ่งพิมพ์เผยแพร่ 7,200 ชิ้น) โดยผู้ใช้ 7.2 ล้านราย (สมาชิกเข้าสู่ระบบ + โซเชียลมีเดีย) เข้าถึงโฆษณาที่โพสต์โดยสมาชิกอื่น ๆ เกิดเป็นเครือข่ายที่ปัจจุบันนับเป็นตลาดมาตรฐานระดับโลก Global Standardized Marketplace(R) ในการซื้อและขายงานศิลปะด้วยราคาคงที่หรือราคาประมูล (กำกับดูแลการประมูลตามวรรคที่ 2 และ 3 ของมาตรา L 321.3 ของประมวลกฎหมายแพ่งแห่งฝรั่งเศส)
อาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ได้รับรางวัล "บริษัทแห่งนวัตกรรม" โดยธนาคารเพื่อการลงทุนภาครัฐของฝรั่งเศสถึงสองครั้ง ซึ่งเป็นรางวัลที่สนับสนุนบริษัทที่ดำเนินโครงการเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดงานศิลปะ
อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต เผยแพร่รายงานตลาดศิลปะร่วมสมัยปี 2566:
https://www.artprice.com/artprice-reports/the-contemporary-art-market-report-2023
รายงานตลาดงานศิลปะโลกของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต "ตลาดงานศิลปะในปี 2565? เผยแพร่ในเดือนมีนาคม 2566:
https://www.artprice.com/artprice-reports/the-art-market-in-2022
ดัชนีข่าวประชาสัมพันธ์ที่โพสต์โดยอาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์:
https://serveur.serveur.com/artmarket/press-release/en/
ติดตามข่าวสารตลาดงานศิลปะทั้งหมดแบบเรียลไทม์กับอาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์:
www.facebook.com/artpricedotcom/ (ผู้ติดตามมากกว่า 6.4 ล้านคน)
twitter.com/artmarketdotcom
twitter.com/artpricedotcom
สำรวจการเล่นแร่แปรธาตุและจักรวาลของอาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ได้ที่ https://www.artprice.com/video ทั้งนี้ อาร์ตมาร์เก็ตมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยชื่อดัง Organe Contemporary Art Museum "The Abode of Chaos" (คำนิยมจากเดอะนิวยอร์กไทมส์): https://issuu.com/demeureduchaos/docs/demeureduchaos-abodeofchaos-opus-ix-1999-2013
La Demeure du Chaos / Abode of Chaos
GESAMTKUNSTWERK & SINGULAR ACRHITECTURE
เปิดตัวผลงานลับสองภาษาสู่สาธารณะ:
https://ftp1.serveur.com/abodeofchaos_singular_architecture.pdf
- L'Obs - The Museum of the Future: https://youtu.be/29LXBPJrs-o
- www.facebook.com/la.demeure.du.chaos.theabodeofchaos999 (ผู้ติดตามมากกว่า 4 ล้านคน)
- https://vimeo.com/124643720
ติดต่ออาร์ตมาร์เก็ตดอตคอมและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ - ติดต่อ: คุณเธียร์รี เออร์มันน์ ir@artmarket.com
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/2260897/Artmarket_logo.jpg