เมืองอู่โจวจัดการประกวดชิมชาหลิวเป่า

เมืองอู่โจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ได้จัดการประกวดชิมชาหลิวเป่า (Global Liubao Tea Tasting Competition) เมื่อไม่นานมานี้ โดยมีตัวอย่างเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 541 ตัวอย่าง และมีบริษัทชาและผู้ที่ชื่นชอบชาจากประเทศจีนเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมาก ขณะที่ผู้เข้าร่วมจากประเทศต่าง ๆ อย่าง มาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ ก็ส่งชาหลิวเป่าของตนเข้าร่วมประกวดเช่นกัน โดยกลุ่มตัวอย่างถูกแบ่งออกเป็น 14 กลุ่ม และหลังจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านชาในประเทศและต่างประเทศ และนักสะสมชาหลิวเป่า ร่วมกันให้คะแนนและตัดสินแล้ว ก็มี 55 ตัวอย่างที่ได้รับเลือกเป็น "ราชาแห่งชา" ระดับ 7 ดาว

ศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมชาอู่โจว ระบุว่า ชาหลิวเป่ามีต้นกำเนิดมาจากอำเภอหลิวเป่า ในเมืองอู่โจว ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยอำเภอหลิวเป่ามีอุณหภูมิเฉลี่ยต่อปี 21.2 องศาเซลเซียส มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปี 1,500 มม. และมีหน้าผาที่ปกคลุมไปด้วยเมฆกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งส่วนใหญ่มีความสูงระหว่าง 1,000 ม. ถึง 1,500 ม. มีแสงแดด และน้ำที่เพียงพอ ผสมผสานกับสภาพแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของชา โดยในรัชสมัยของจักรพรรดิเจียชิง (Jiaqing Emperor) แห่งราชวงศ์ชิงนั้น ชาหลิวเป่าได้รับการยกย่องจากความหอมของ "กลิ่นผลหมาก" ที่โดดเด่นด้วย "ความแดง ความฉ่ำ ความบริสุทธิ์ และความหอมอย่างมีอายุ" จนกลายเป็นหนึ่งในชาชั้นนำของจีนที่มีการดื่มกันทั่วแผ่นดิน และในช่วงปลายราชวงศ์ชิง แรงงานจีนจำนวนมากก็เดินทางข้ามทะเลจีนใต้เพื่อหางานทำในต่างประเทศ และด้วยคุณสมบัติในด้านการดับกระหาย บำรุงท้องไส้ และคุณสมบัติด้านสุขภาพอื่น ๆ ของชาหลิวเป่า รวมถึงการเก็บรักษาได้ยาวนาน ก็ทำให้ชาหลิวเป่าเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ชาวจีนโพ้นทะเล และยังเป็นที่นิยมในหมู่นักดื่มชาในประเทศต่าง ๆ อย่างมาเลเซีย และสิงคโปร์ด้วย

ผลการวิจัยจากการศึกษาด้านสุขภาพและโภชนาการ โดยทีมที่นำโดยนักวิชาการของสถาบันวิศวกรรมศาสตร์จีน (Chinese Academy of Engineering) และศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรหูหนานอย่างหลิว จงฮั่ว (Liu Zhonghua) ได้อธิบายการทำงานและกลไกทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลังประโยชน์มากมายของชาหลิวเป่า ว่าทั้งสามารถลดไขมันและน้ำหนัก ลดน้ำตาลในเลือด ลดกรดยูริค บำรุงสุขภาพตับ ลำไส้ และการทำงานร่วมกับกระเพาะอาหาร ต่อต้านริ้วรอย และต้านการอักเสบ ป้องกันรังสี เสริมภูมิคุ้มกัน ฯลฯ

กัว จวิ้นปาง (Guo Junbang) ประธานสมาคมชาหลิวเป่าแห่งมาเลเซีย เป็นหนึ่งในผู้ตัดสินในคณะกรรมการเทคนิคการชงสมัยใหม่ ในรอบชิงชนะเลิศของการประกวดชาในปีนี้ โดยคุณกัว จวิ้นปาง กล่าวว่า "การประกวดชาครั้งนี้มีบทบาทที่เอื้อต่อความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมชาหลิวเป่าอย่างมาก และผมหวังว่าจะมีการจัดประกวดต่อไปอีกเรื่อย ๆ วัฒนธรรมการดื่มชาหลิวเป่าได้ผนวกเข้ากับชีวิตประจำวันของชาวมาเลเซีย และชาหลิวเป่าก็มักจะเป็นเครื่องดื่มที่เราเลือกในการจิบน้ำชายามบ่าย หลังเข้าร่วมการประกวดครั้งนี้ผมหวังจะได้แบ่งปันทั้งความเหมือนและความแตกต่างทางวัฒนธรรมของชาหลิวเป่า และประสบการณ์การบริโภคที่หลากหลายของชาในส่วนอื่น ๆ ของโลกกับทุกคน และหวังว่าผู้ประกอบการชาจีนจะผลิตชาที่ดีได้มากขึ้น เพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้และหลงรักชาหลิวเป่ามากขึ้น"

เหลียว จึฝาง (Liao Zifang) แกนนำพันธมิตรชานิยมฮ่องกง (Hong Kong Teaism Alliance) และกรรมการตัดสินเทคนิคการชงชาสมัยใหม่ในรอบชิงชนะเลิศของการประกวดชาในปีนี้ เห็นว่าการประกวดชาคือส่วนสำคัญของวิทยาศาสตร์ชา เพราะการประกวดชาสามารถผลักดันให้ผู้ประกอบการปรับปรุงเทคนิคการผลิตได้อย่างไม่หยุดยั้ง และเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ต่อยอดสรรพคุณที่อู่โจวบันดาลเอกลักษณ์ให้กับชาหลิวเป่าอยู่แล้ว ทั้งกลิ่นหอมพิเศษ และประโยชน์ต่อสุขภาพที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการพัฒนาตลาดอย่างต่อเนื่อง และเสริมสร้างแบรนด์วัฒนธรรมหลิวเป่า

คุณหลิว (Liu) ชาวแคนาดาตัดสินใจพาทั้งครอบครัวของเธอมาที่นี่เพื่อเปิดโลกทัศน์ของทุกคน หลังได้ข่าวการประกวดชิมชาหลิวเป่า เธอบอกว่า "ครอบครัวของเราอาศัยและเรียนที่จีนมาปีนึงแล้ว แต่ไม่เคยไปดูการประกวดชามาก่อน บรรยากาศมันเหลือเชื่อมาก และเราได้เรียนรู้ถึงความหลากหลายในวัฒนธรรมชา"

ที่มา: ศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมชาอู่โจว (Wuzhou Tea Industry Development Service Center)

ลิงก์ภาพประกอบข่าว:

ลิงก์: https://iop.asianetnews.net/view-attachment?attach-id=443365

คำบรรยายภาพ: เมืองอู่โจวจัดการประกวดชิมชาหลิวเป่า