ในมหกรรมการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเวียดนาม-จีน (Vietnam-China International Trade and Tourism Fair) ครั้งที่ 15 มีการจัดกิจกรรมการร้องเพลงร่วมกันที่แม่น้ำเป่ยหลุน ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนตามธรรมชาติระหว่างจีนกับเวียดนาม เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ในโอกาสนี้ นักร้องชาวจีนและเวียดนามได้ขับขานบทเพลงชื่นชมมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
ในฐานะประเทศสังคมนิยมและเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร จีนและเวียดนามมีความสัมพันธ์ทางการฑูตและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนที่ใกล้ชิดกันมายาวนานกว่าเจ็ดทศวรรษ
มิตรภาพอันยาวนาน
นายสง ป๋อ (Xiong Bo) เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศเวียดนาม ให้สัมภาษณ์กับไชน่า มีเดีย กรุ๊ป (China Media Group) ว่า มีปัจจัยหลายประการที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนจีนและเวียดนาม
เขากล่าวว่า ด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน ชาวเวียดนามจึงคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับประวัติศาสตร์จีนและลัทธิขงจื๊อ ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์และซีรีส์จีนร่วมสมัยก็ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวเวียดนาม
นอกจากนี้ เพื่อยกระดับความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ จีนและเวียดนามได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกันในด้านการศึกษา
นายเจิ้ง ต้าเว่ย (Zheng Dawei) ที่ปรึกษาด้านการศึกษาของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศเวียดนาม กล่าวว่า สถาบันอุดมศึกษากว่า 50 แห่งในเวียดนามเปิดสอนสาขาหรือวิชาเอกภาษาจีน โดยปัจจุบันมีนักศึกษา 15,000 คนกำลังเรียนภาษาจีนในระดับอุดมศึกษา
ในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการยกระดับความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-เวียดนามที่ออกเมื่อปีที่แล้ว จีนประกาศว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า รัฐบาลจีนจะมอบทุนการศึกษามากกว่า 1,000 ทุน และทุนสำหรับครูสอนภาษาจีนมากกว่า 1,000 ทุน เพื่อช่วยเหลือเวียดนามในการบ่มเพาะนักศึกษาและฝึกสอนครูภาษาจีนให้มีความรู้ความสามารถ
เอกอัครราชทูตสงเปิดเผยว่า ในช่วงปี 2564-2565 มีนักศึกษาชาวเวียดนามมากกว่า 27,000 คนศึกษาในประเทศจีน โดยกว่า 1,700 คนในจำนวนนี้ได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลจีน
เขากล่าวว่า มติสาธารณชนระหว่างสองประเทศจำเป็นต้องได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และทั้งสองฝ่ายควรให้ความสำคัญกับการกระชับมิตรภาพให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
หลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 เสร็จสิ้นลง นายเหงียน ฟู้ จ่อง (Nguyen Phu Trong) เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่ได้รับเชิญให้เยือนประเทศจีน
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน มีกำหนดเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคม ตามคำเชิญของนายเหงียน ฟู้ จ่อง และนายหวอ วัน เถือง (Vo Van Thuong) ประธานาธิบดีเวียดนาม
นายหวัง เหวินปิน (Wang Wenbin) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงข่าวว่า ผู้นำทั้งสองประเทศจะหารือเกี่ยวกับการยกระดับความสัมพันธ์จีน-เวียดนาม โดยมุ่งเน้นไปที่ 6 ประเด็นหลัก ได้แก่ การเมือง ความมั่นคง ความร่วมมือเชิงปฏิบัติ การสนับสนุนสาธารณะ กิจการพหุภาคี และประเด็นทางทะเล
เมื่อเดือนตุลาคม นายหวอ วัน เถือง ประธานาธิบดีเวียดนาม ได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation) ครั้งที่ 3 ซึ่งในโอกาสนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนและเวียดนามควรเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อสานต่อมิตรภาพจากรุ่นสู่รุ่น
ขณะเดียวกัน ชาวเวียดนามเองก็ต้องการที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เล เหงียต กวิญ (Le Nguyet Quynh) ผู้ได้รับรางวัลที่สองจากการแข่งขันประกวดสุนทรพจน์และความรู้ภาษาจีน "สะพานสู่ภาษาจีน" ระดับมัธยมศึกษา ครั้งที่ 16 กล่าวว่า เธอเรียนภาษาจีนมานาน 6 ปีแล้ว และตั้งตารอการมาเยือนเวียดนามของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในครั้งนี้
"หลังจากการเยือนครั้งนี้ หวังว่าเยาวชนของทั้งสองประเทศจะมีโอกาสสื่อสารกันมากขึ้น และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" เธอกล่าว
https://news.cgtn.com/news/2023-12-09/China-Vietnam-eye-closer-people-to-people-bonds-1po749WWKgU/index.html