- โรงงานผลิตแคปซูลในเมืองปิฐัมปุระ รัฐมัธยประเทศ สะท้อนความเป็นเลิศในการปฏิบัติการที่มีเทคโนโลยีสนับสนุนเบื้องหลัง ซึ่งเข้ามาพลิกโฉมห่วงโซ่มูลค่า
เอซีจี (ACG) ซัพพลายเออร์และผู้ให้บริการเชิงบูรณาการในอุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในโลก ฉลองความยินดีเนื่องในโอกาสที่โรงงานผลิตแคปซูลของบริษัทฯ ในเมืองปิฐัมปุระ ประเทศอินเดีย ได้รับเลือกให้เข้าร่วมในเครือข่ายโกลบอล ไลท์เฮ้าส์ เน็ตเวิร์ค (Global Lighthouse Network หรือ GLN) อันทรงเกียรติ โดยสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum หรือ WEF) เครือข่ายโกลบอล ไลท์เฮ้าส์ เน็ตเวิร์คนี้ เป็นชุมชนผู้ผลิตซึ่งแสดงความเป็นผู้นำในด้านการใช้เทคโนโลยีการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ เพื่อพลิกโฉมโรงงาน ห่วงโซ่มูลค่า และโมเดลธุรกิจ เพื่อผลประกอบการทางการเงินและปฏิบัติการอันน่าดึงดูด เครือข่าย GLN ได้เติบโตอย่างพุ่งพรวดนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้น โดยมีจำนวนไลท์เฮ้าส์เพิ่มขึ้นจาก 16 เป็น 153 ราย โครงการริเริ่มนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสภาเศรษฐกิจโลกกับแมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (Mckinsey & Company) โดยมีคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระเป็นผู้คัดเลือกโรงงานและห่วงโซ่มูลค่าที่จะเข้าร่วมในเครือข่าย GLN
การรับรองนี้เกิดขึ้นหลังจากการสอบทานอย่างถี่ถ้วนในกรณีการใช้งานมากกว่า 25 รายการสำหรับโรงงานแห่งนี้ ซึ่งนอกจากจะนำไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเหนือชั้น ยังเปลี่ยนแปลงปฏิบัติการ ซึ่งสร้างเกณฑ์มาตรฐานใหม่สำหรับการผลิตที่ทันท่วงที โรงงานในปิฐัมปุระของเอซีจีเป็นแบบอย่างของการเร่งนำปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (GenAI) มาใช้ ซึ่งจัดการกับชุดทักษะของพนักงานด้านการผลิตที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปด้วยวิธีดำเนินการมาตรฐาน (Standard Operating Procedure หรือ SOP) และการเชื่อมประสานนโยบายด้วยเอไอเชิงรู้สร้าง
คุณการัน สิงห์ ( Karan Singh) กรรมการผู้จัดการของเอซีจี กรุ๊ป แสดงความเห็นเกี่ยวกับการได้รับเกียรติครั้งนี้ว่า "ตอนที่เอซีจีเริ่มต้นเส้นทางการเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัล ผมจำได้ว่าอุตสาหกรรม 4.0 ปัญญาประดิษฐ์ และการเรียนรู้ของเครื่องจักรยังเป็นแนวคิดอุบัติใหม่ จึงมีการมุ่งให้ความสำคัญกับการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ เพื่อยกระดับผลิตภาพและเปลี่ยนแปลงวิธีดำเนินงานของเรา โดยมุ่งที่จะเพิ่มการเข้าถึงยาที่มีราคาไม่แพง เรามีทีมงานที่ทะเยอทะยานและอุทิศตน และได้สร้างการยึดมั่นในพันธกิจร่วมกันที่จะยกระดับมาตรฐานความเป็นเลิศในการส่งมอบแคปซูลคุณภาพสูงในทั่วโลก"
เขากล่าวอีกว่า "หลังจากที่เดินบนเส้นทางนี้มาหกปี ผมรู้สึกภาคภูมิใจอย่างล้นเหลือที่ทีมงานของผมได้ปูทางสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตที่ก้าวหน้า และเข้ามามีส่วนในชุมชนโกลบอล ไลท์เฮ้าส์ อันทรงเกียรติของสภาเศรษฐกิจโลก การรับรองครั้งนี้เป็นเครื่องแสดงถึงการยึดมั่นในความเป็นเลิศของเรา รวมไปถึงการสร้างเกณฑ์มาตรฐานใหม่สำหรับสถานผลิตที่ดำเนินงานด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำสมัยระดับแนวหน้า ในอนาคตต่อจากนี้ เรามุ่งที่จะนำการเรียนรู้และความสำเร็จจากโรงงานแห่งนี้ไปใช้ในการขยายการดำเนินงานในระดับโลก เพื่อทำให้ดีขึ้นสำหรับพันธมิตร ลูกค้า หน่วยงานกำกับดูแล และตลอดจนทั้งระบบนิเวศเภสัชภัณฑ์"
โรงงานในเมืองปิฐัมปุระของเอซีจีขึ้นชื่อว่าได้รับการยกย่องเชิดชูมาแล้วมากมายหลายครั้ง โดยเฉพาะในแง่ของการมีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ในขั้นการออกแบบและการวางผัง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่บุกเบิกของวงการ เมื่อโรงงานแห่งนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวเพื่อความเป็นผู้นำด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมระดับทองคำโดยแอลอีอีดี (LEED) ในปี 2557
คุณบาลาจิคาสิราม ซุนดาราราจัน ( Balajikasiram Sundararajan) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล ของเอซีจี กรุ๊ป นำเสนอมุมมองเชิงลึกและความเชี่ยวชาญอันมีค่าเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยว่า "โครงการสร้างอนาคต (Build the Future) ซึ่งเป็นโครงการเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัลที่ครอบคลุมทั้งองค์กรของเอซีจี มีรากฐานเป็นสี่เสาหลักเชิงกลยุทธ์ ประกอบด้วย การเปลี่ยนแปลงปฏิบัติการ การสร้างผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อถึงกันอัจฉริยะ การยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่นำโดยดิจิทัล ทั้งนี้ เอซีจีมีความมุ่งหมายเพื่อการสร้างอนาคต โดยได้พัฒนาและดำเนินการใช้งานโซลูชันที่ก้าวหน้าล้ำสมัยอย่างแข็งขัน ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น IoT หรืออินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งเชิงอุตสาหกรรม การเรียนรู้ของเครื่องจักร การเรียนรู้เชิงลึก เอไอเชิงรู้สร้าง คลาวด์คอมพิวติง ไปจนถึงแฝดดิจิทัล หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และความจริงขยาย"
และกล่าวเพิ่มเติมว่า "โซลูชันเหล่านี้ได้ช่วยให้เราให้บริการฐานลูกค้าระดับโลกของเราได้ดียิ่งขึ้นด้วยการแก้ปัญหาธุรกิจที่สำคัญโดยมุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การยกย่องจากสภาเศรษฐกิจโลกด้วยสถานะโกลบอล ไลท์เฮ้าส์ อันทรงเกียรตินี้ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เราสำรวจหนทางเชิงนวัตกรรมต่อไปในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อจินตนาการทั้งห่วงโซ่มูลค่าของเราใหม่ เริ่มตั้งแต่ซัพพลายเออร์ไปจนถึงลูกค้าของเรา"
คุณคิวา ออลกูด ( Kiva Allgood) หัวหน้าศูนย์การผลิตและห่วงโซ่อุปทานก้าวหน้าของสภาเศรษฐกิจโลก กล่าวว่า "เครือข่ายโกลบอล ไลท์เฮ้าส์ เน็ตเวิร์ค เป็นแบบอย่างของพลังแห่งการเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัล เหล่าไลท์เฮ้าส์กำลังบุกเบิกหนทางสู่ผลกระทบระดับโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเสริมสร้างนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ผ่านเครือข่ายที่ครอบคลุมกว้างขวาง เพื่อสร้างทั้งอนาคตที่ยั่งยืนและยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงที่พลิกโลกโดยมีผลยืนยาว"
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์จากสภาเศรษฐกิจโลกได้ที่ https://www.weforum.org/press/2023/12/factories-of-the-future-show-how-to-apply-ai-to-benefit-people-planet-and-performance/
เกี่ยวกับเครือข่ายโกลบอล ไลท์เฮ้าส์ เน็ตเวิร์ค
เครือข่ายโกลบอล ไลท์เฮ้าส์ เน็ตเวิร์ค (Global Lighthouse Network) เป็นแพลตฟอร์มส่งเสริมการทำงานร่วมกัน โดยนำผู้ผลิตที่มองการณ์ไกลและเป็นผู้นำในการใช้งานเทคโนโลยีปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่มารวมตัวกัน ไลท์เฮ้าส์ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมอย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ การพิมพ์สามมิติ และการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพ ความสามารถในการแข่งขัน และโมเดลธุรกิจที่พลิกวงการในระดับใหญ่ ซึ่งส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งสนับสนุนการยกระดับพัฒนาแรงงาน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการมอบเส้นทางการเรียนรู้ผ่านการทำงานร่วมกัน สำหรับผู้ผลิตทุกขนาดในระดับโลก
เครือข่ายโกลบอล ไลท์เฮ้าส์ เน็ตเวิร์ค เป็นโครงการริเริ่มของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ที่ก่อตั้งร่วมกับแมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (Mckinsey & Company) โดยได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการที่ปรึกษาซึ่งประกอบด้วยผู้นำในอุตสาหกรรม ทั้งคอนเทมโพรารี แอมเพอเร็กซ์ เทคโนโลยี (Contemporary Amperex Technology หรือ CATL), ฟ็อกซ์คอนน์ อินดัสเตรียล อินเทอร์เน็ต (Foxconn Industrial Internet), เฮงเค็ล (Henkel), จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson), ค็อตช์ โฮลดิงส์ (Koc Holdings), ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) และซีเมนส์ (Siemens) ทั้งนี้ โรงงานและห่วงโซ่มูลค่าที่เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวนี้ได้รับการคัดเลือกโดยคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ
เกี่ยวกับเอซีจี
เอซีจี (ACG) พัฒนานวัตกรรมโซลูชันการผลิตสำหรับบริษัทเภสัชภัณฑ์และโภชนบำบัดมาเป็นเวลากว่า 60 ปีแล้ว
เอซีจีเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์และให้บริการด้านยาแบบรับประทานซึ่งมีการบูรณาการมากที่สุดในโลก เราผลิตแคปซูล วัสดุบรรจุภัณฑ์สกัดกั้น เครื่องจักรการผลิต และโซลูชันการตรวจพินิจและการตรวจสอบย้อนกลับ โดยเป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล
ปัจจุบัน เอซีจีเสริมสร้างความร่วมมือเป็นพันธมิตรที่มีการทำงานร่วมกันระยะยาวกับลูกค้าใน 138 ประเทศทั่ว 6 ทวีป เมื่อผนึกกำลังกันแล้ว เราต่างมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายด้านสุขภาพที่ใหญ่หลวงที่สุดในโลก และทำให้ดีขึ้นสำหรับทุกคนที่เราให้บริการ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ทีมสื่อมวลชนสัมพันธ์ของเอซีจี : madhurima.chakraborty@acg-world.com
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/2303108/ACG_Team_WEF_team.jpg