เหล่าผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำความสำคัญของการทำงานร่วมกันและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็ง
การประชุมมะเร็งวิทยาของเบอร์จีล โฮลดิงส์ (Burjeel Holdings Oncology Conference) จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 ร่วมกับนิตยสาร ฟอเรน โพลิซี (Foreign Policy) โดยได้มีการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของโลกเพื่อจัดการกับปัญหาความท้าทายที่ซับซ้อนในด้านการดูแลรักษาโรคมะเร็ง พร้อมกับเน้นย้ำความจำเป็นของการทำงานร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม เนื่องจากโรคมะเร็งคร่าชีวิตผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อกลุ่มประเทศรายได้ต่ำและปานกลางมากเป็นพิเศษ การประชุมครั้งนี้จึงตอกย้ำความเร่งด่วนของการรับมือในระดับนานาชาติ และความเสมอภาคในการเข้าถึงการรักษาที่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้
ดร.แคทธารีน ยัง (Catharine Young) ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านนโยบายและการมีส่วนร่วมของโครงการแคนเซอร์ มูนช็อต (Cancer Moonshot) ของทำเนียบขาว ได้ชูความสำคัญของการทำงานร่วมกันและการพัฒนานวัตกรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของโครงการแคนเซอร์ มูนช็อต นั่นคือ การลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งให้ได้ 50% ภายใน 25 ปี
คุณไมค์ เคลลี (Mike Kelly) สมาชิกสภาคองเกรส และประธานร่วมของคณะทำงานด้านโรคมะเร็งแห่งสภาคองเกรส (Congressional Cancer Caucus) ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของสภาคองเกรสในการสนับสนุนการวิจัยและการดูแลรักษาผู้ป่วย พร้อมกับเรียกร้องให้มีการสนับสนุนเงินทุนให้แก่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Institute) รวมทั้งจัดการกับความท้าทายด้านการเข้าถึงการรักษาและความสามารถในการจ่ายค่ารักษา นอกจากนี้ เขาได้เน้นย้ำความจำเป็นของการ "เชื่อมโยงผู้คน" และคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้คน ขณะที่คุณแฮนนาห์ อดัมส์ (Hannah Adams) ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งในเด็ก ได้กล่าวย้ำเตือนผู้ฟังว่า "การสนับสนุนที่มีประสิทธิผลสูงสุดจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็ก"
ในการอภิปรายหัวข้ออนาคตของการดูแลรักษาโรคมะเร็ง ได้มีการสำรวจศักยภาพของ AI รวมถึงแง่มุมด้านความเสมอภาค และการเข้าถึงการรักษาในระดับโลก โดยดร.แดเนียลล์ บิทเทอร์แมน (Danielle Bitterman) แพทย์รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา และนักวิจัย AI ประจำโรงพยาบาลบริกแฮม แอนด์ วีเมนส์ (Brigham and Women's Hospital) และสถาบันมะเร็งเดนา-ฟาร์เบอร์ (Dana-Farber Cancer Institute) ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของ AI ในการสร้างความเสมอภาคด้านการเข้าถึงการรักษา ขณะที่ดร.เจสัน ฮิปป์ (Jason Hipp) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมดิจิทัล บริษัท มาโย คอลลาบอเรทีฟ เซอร์วิสเซส (Mayo Collaborative Services) เน้นย้ำความจำเป็นของการมีชุดข้อมูลที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนการรักษาคุณภาพสูงและความเป็นธรรมในการเข้าถึงการรักษาสำหรับทุกคน
ดร.อันชู เจน (Dr. Anshu Jain) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ บริษัท แอสเตอร์ อินไซต์ส (Aster Insights) กล่าวถึงความจำเป็นของการเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม โดยเปรียบเปรยว่า "ไม่ว่าคนตัวสูงหรือคนตัวเล็กต่างก็พยายามเอื้อมให้ถึงการรักษา"
คุณเฟลิเซีย กอรอร์โด (Felicia Gorordo) กรรมการบริหารหมุนเวียนของสหรัฐอเมริกาประจำกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) ชูพันธกิจในการบูรณาการสุขภาพดิจิทัลและการเข้าถึงการรักษาไว้ในโครงการต่าง ๆ ขององค์กร
สำหรับการอภิปรายในหัวข้อความเสมอภาคทางสุขภาพ มุ่งเน้นไปที่แนวทางที่ปฏิบัติได้จริง โดยคุณมานัน ชาห์ (Manan Shah) รองประธานฝ่ายความเสมอภาคทางสุขภาพและความร่วมมือด้านนโยบาย บริษัท บริสตอล ไมเยอร์ส สควิบบ์ (Bristol Myers Squibb) สนับสนุนให้คำนึงถึงปัจจัยทางสังคมที่กำหนดสุขภาพ ตลอดจนปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา ขณะที่คุณแกรี เอ. พัคเรน (Gary A. Puckrein) ประธานและซีอีโอขององค์กรเนชันแนล ไมนอริตี ควอลิตี ฟอรัม (National Minority Quality Forum) เน้นย้ำความจำเป็นของรูปแบบการดูแลรักษาที่มีคุณภาพและมีความยืดหยุ่นสำหรับกลุ่มเปราะบาง
ดร.แชมเชียร์ วายาลิล (Shamsheer Vayalil) ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท เบอร์จีล โฮลดิงส์ (Burjeel Holdings) กล่าวย้ำว่า ช่วงเวลาปัจจุบันนี้ "เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการกับโรคมะเร็ง" เนื่องจากการตั้งรับปรับตัวและความตระหนักรู้เรื่องสุขภาพเพิ่มขึ้นหลังเกิดวิกฤตโรคระบาด พร้อมกับเน้นย้ำว่าต้องให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม อุดช่องว่างด้านความเสมอภาคทางสุขภาพ ตลอดจนพัฒนาข้อมูล เทคโนโลยี และการฝึกอบรมเพื่อเอาชนะความท้าทายนานัปการ
ดร.จูลี กราโลว์ (Julie Gralow) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์และรองประธานบริหารของสมาคมมะเร็งวิทยาแห่งอเมริกา (American Society of Clinical Oncology) เน้นเรื่องการร่วมมือกับผู้ป่วยและผู้สนับสนุนเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ
ดร.ฮวน ปาโบล อูริเบ (Juan Pablo Uribe) ผู้อำนวยการระดับโลกด้านสุขภาพ โภชนาการ และประชากร และการระดมทุนระดับโลกของธนาคารโลก (World Bank) เน้นย้ำว่ายังขาดโซลูชันหนึ่งเดียวในการแก้ปัญหาช่องว่างด้านการระดมทุนในระดับโลก
ทั้งนี้ การประชุมมะเร็งวิทยาของเบอร์จีล โฮลดิงส์ เป็นกิจกรรมอันทรงพลังที่กระตุ้นให้ผู้คนหันมาสนับสนุนการวิจัย ส่งเสริมนโยบายที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง
เกี่ยวกับเบอร์จีล โฮลดิงส์
เบอร์จีล โฮลดิงส์ (Burjeel Holdings) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550 โดยเป็นองค์กรเอกชนชั้นนำผู้ให้บริการสุขภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ บริษัทมีเครือข่ายสถานประกอบการ 68 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยโรงพยาบาล 16 แห่ง และศูนย์การแพทย์ 30 แห่ง รวมไปถึงร้านขายยาและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดูแลผู้ป่วยด้วยมาตรฐานสูงสุด โดยมีเบอร์จีล เมดิคอล ซิตี (Burjeel Medical City) เป็นสถานประกอบการระดับเรือธง ในฐานะศูนย์มะเร็งและการรักษาแบบประคับประคองเชิงบูรณาการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสมาคมมะเร็งวิทยาแห่งยุโรป (ESMO) เป็นแห่งแรกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งยังเป็นผู้นำด้านการรักษาโรคมะเร็งในภูมิภาคอีกด้วย
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ: เอ็ม. อุนนิกฤษณัน (M. Unnikrishnan)
อีเมล: krish@burjeelholdings.com
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/2304307/Burjeel_Holdings_Oncology_Conference.jpg
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/2304306/Burjeel_Holdings_Logo.jpg