เอพีเอ็กซ์ โซลูชันส์ (APX Solutions) สตาร์ตอัปโลจิสติกส์เทคโนโลยี (LogTech) ของไทย ประกาศคว้าเงินทุนก้อนใหม่จากเอดีบี เวนเจอร์ส (ADB Ventures) เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีและขยายธุรกิจในสิงคโปร์และมาเลเซีย พร้อมให้บริการไตรมาสแรกในปี 2567
นอกจากนี้ เงินทุนดังกล่าวจะเข้ามาช่วยยกระดับแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ของเอพีเอ็กซ์ โดยนำ AI ไปผสานเข้ากับความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง การระดมทุนรอบนี้มี ORZON Ventures และ WV Fund II ร่วมด้วย และคาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะแล้วเสร็จในต้นปี 2567
ธุรกิจระดับประเทศ สู่ธุรกิจแห่งอาเซียน
เอพีเอ็กซ์ได้เริ่มดำเนินธุรกิจในช่วงกลางปี 2565 และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้หลักจากบริการขนส่งภายในประเทศไทยซึ่งเพิ่มขึ้นสี่ถึงห้าเท่าเมื่อเทียบกับการดำเนินธุรกิจในช่วงแรก คิดเป็นรายได้กว่า 460,000 ดอลลาร์สหรัฐ ณ เดือนพฤศจิกายน 2566 เอพีเอ็กซ์ประสบความสำเร็จในการจัดการพาเลทเกือบ 27,000 พาเลท หรือเทียบเท่าน้ำหนักสินค้ากว่า 18,900 ตัน ผ่านเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าแบบ hub-and-spoke ทั่วไทย ซึ่งมีศูนย์กระจายสินค้าหลักอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ณ ปัจจุบัน เอพีเอ็กซ์ให้บริการลูกค้ากว่า 90 ราย ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิเช่น อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ
แผนธุรกิจโลจิสติกส์ที่ให้บริการมากกว่าการขนส่งสินค้า
"ผมรู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับการสนับสนุนจาก ADBVentures และเราพร้อมสานต่อภารกิจในการพลิกโฉมวงการรถบรรทุกให้เกิดการแชร์พื้นที่บนรถบรรทุกร่วมกันหรือที่เรียกว่าLTL Network (เครือข่ายการขนส่งแบบไม่เต็มคัน)" คุณ Uwe Dettmann CEO ของ APX กล่าว "ADB ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากและโมเดลการวิ่งรถของAPX ยังสามารถคำนวณได้ว่าในการวิ่งรถแต่ละเที่ยวช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้เท่าไรซึ่ง LTL เป็นโมเดลการวิ่งรถที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่บนรถบรรทุกอย่างแท้จริง โดยเราตั้งใจจะขยายธุรกิจเครือข่าย LTL ไปสู่ภูมิภาคอาเซียน
ขยายเส้นทางการค้าทั่วภูมิภาค SEA
APX ตั้งเป้าขยายธุรกิจไปยังสิงคโปร์และมาเลเซียในปี 2567 โดยใช้ประโยชน์จากการที่สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าที่โดดเด่นในเอเชียแปซิฟิก เพื่อเร่งพัฒนาฐานลูกค้าให้แข็งแกร่ง รองรับบริการการขนส่งแบบไม่เต็มคัน (LTL) ทั้งในประเทศ (Domestic) และข้ามพรมแดน (Cross-border) ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง (door-to-door) ซึ่งเชื่อมโยงไทยเข้ากับสิงคโปร์ โดยสิงคโปร์เป็นตลาดต่างประเทศแห่งแรกที่ APX ตัดสินใจขยายตลาด
ส่วนในของมาเลเซียนั้น APX เตรียมให้บริการการขนส่งทั้งแบบไม่เต็มคัน(LTL) และแบบเหมาคัน (FTL) ครอบคลุมทั่วประเทศมาเลเซียและข้ามพรมแดน (Cross-border) ในไตรมาส 1 ปี 2567โดยมีศูนย์กลางการดำเนินงานระดับภูมิภาคในปีนัง ยะโฮร์บาห์รู ปะหัง และสำนักงานใหญ่ในชะฮ์อาลัม การเปิดตัวธุรกิจในมาเลเซียจะช่วยให้ APX ให้บริการลูกค้ารายหลัก ๆ ที่มีการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียได้ และในระยะยาวนั้น APX ก็มุ่งสร้างเครือข่ายรถบรรทุกแบบไม่เต็มคันในรูปแบบที่มีความยั่งยืนทั่วไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์
ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
"เรารู้สึกตื่นเต้นกับผลลัพธ์ในการเปลี่ยนแปลงที่ APX นำมาสู่แวดวงโลจิสติกส์ มีการนำโมเดลการใช้พาเลทมาพัฒนาอีกทั้งจัดสรรที่ว่างบนรถบรรทุกเพื่อลดการวิ่งรถเที่ยวเปล่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ และส่งเสริมซัพพลายเชนให้ยั่งยืนกว่าเดิม" คุณฐิติรัตน์ สิทธัครเดช ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก ADB Ventures กล่าว "ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในอุตสหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุดคือการขนส่ง ซึ่งผู้ให้บริการส่วนใหญ่ไม่ได้ใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกันมากนัก โมเดลการขนส่งด้วยรถบรรทุกแบบเดิม ๆ ทำให้ 80% ของรถบรรทุกต้องตีรถเปล่ากลับต้นทาง เมื่อส่งของเสร็จ APX จึงแก้ปัญหาด้วยโมเดลการวิ่งรถแบบของเรา ผนวกกับเทคโนโลยีในการจัดการสินค้า อย่างการนำสินค้าของลูกค้าหลาย ๆ เจ้ามารวมกัน หรือที่เรียกว่า Consolidation และแบ่งการจัดส่งเป็นพาเลท ที่สามารถลดทั้งการใช้แรงงานและย่นระยะเวลาขนส่ง
พัฒนาเทคโนโลยีการขนส่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเชิงกลยุทธ์
นอกเหนือจากการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคแล้ว เงินทุนก้อนใหม่นี้ยังจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ APX รวมถึงการผนวกรวมกับระบบซอฟต์แวร์ภายนอก ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพิ่มขีดความสามารถในการวิเคราะห์ และปรับปรุงแพลตฟอร์มที่ลูกค้าและพันธมิตรต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณเส้นทางที่ดีที่สุด ทำให้การจัดส่งสินค้ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การตรวจสอบสถานะการขนส่งแบบ real-time จัดเก็บ สรุป และวิเคราะห์ข้อมูลการขนส่งสินค้า และระบบการจัดการคลังสินค้าที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
อนาคตวงการโลจิสติกส์
APX มีวิสัยทัศน์สูงสุดในการสร้างเครือข่ายการขนส่งทางรถบรรทุกแบบไม่เต็มคัน (LTL) ที่ยั่งยืนให้ครอบคลุมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มจากประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และความยั่งยืนให้ทั้งลูกค้า ผู้ประกอบการบริษัทรถบรรทุกและโลกใบนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ APX หรือดูรายละเอียดเพื่อความร่วมมือในอนาคตได้ที่ https://apx.group/หรือติดตามบนโซเชียลมีเดีย @APXSolutions
เกี่ยวกับ APX
เอพีเอ็กซ์ โซลูชันส์ (APX Solutions) เป็นผู้บุกเบิก ที่เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมรถบรรทุกทางบกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่ยังไม่มีบริษัทใดสร้างเครือข่าย LTL ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งหลายครั้งปริมาณสินค้าไม่ได้มากพอสำหรับการเหมารถทั้งคัน นอกจากนี้ เรามีเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่ฝังวิธีการวิ่งรถแบบ hub-and-spoke รวมถึงจัดการการขนส่งเต็มรูปแบบให้ลูกค้าและพาร์ตเนอร์บริษัทรถบรรทุกของเรา โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มอีกด้วย
แนวทางที่ว่านี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการรถบรรทุกให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อยกระดับระบบการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น เอพีเอ็กซ์ยังช่วยให้เจ้าของรถบรรทุกในแต่ละท้องถิ่น (สมาชิกเอพีเอ็กซ์) สามารถขยายธุรกิจของตนไปทั่วประเทศและทั่วเอเชียได้ ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ เครือข่ายเอพีเอ็กซ์ยังมีบทบาทสำคัญในการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์สำหรับประเทศในแถบอาเซียน ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เอพีเอ็กซ์พัฒนาการจัดส่งสินค้าแบบไม่เต็มคัน (LTL) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มความสามารถของการแข่งขันในตลาด นับว่าเอพีเอ็กซ์ โซลูชันส์ อยู่ในระดับแนวหน้าในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพลิกโฉมวงการรถบรรทุกทางบก และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจอาเซียนให้เติบโตอีกด้วย
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2307331/APX_team.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2307332/APX_infographics.jpg