กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--ซินหัว-พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
อุปกรณ์ตรวจจับเปลวเพลิงเครื่องแรกของเมืองไทยที่ใช้ระบบ 256 อิฟราเรด เซนเซอร์ ร่วมกับระบบกล้องวงจรปิด โดยระบบตรวจจับคุณภาพสูงสามารถทะลุทะลวงผ่านเปลวควัน หมอกหรือไอน้ำเพื่อระบุต้นเพลิงได้อย่างแม่นยำและแสดงภาพให้เห็นอย่างชัดเจน
ไทโก้ ไฟร์ แอนด์ ซีเคียวริตี้ (Tyco Fire & Security) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ FLAMEVision FV300 ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตรวจจับเปลวเพลิงรุ่นแรกในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยี 256 อิฟราเรด เซนเซอร์ ร่วมกับระบบกล้องวงจรปิดในการตรวจจับเปลวเพลิงแบบอัตโนมัติและแสดงภาพต้นเพลิงผ่านทางวิดีโอ ทั้งยังสามารถแยกแยะระหว่างจุดที่เกิดเปลวเพลิงกับจุดที่ไม่เกิดได้ ช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที
การปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าและการสร้างความปลอดภัยให้กับบุคลากร ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องใช้วัตถุดิบที่ติดไฟง่าย FLAMEVision FV300 จึงได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อปกป้องธุรกิจซึ่งมีความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะธุรกิจด้านพลังงาน การเดินเรือ ปิโตรเคมี น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
“การที่ไม่สามารถมองเห็นภาพจุดที่เกิดเปลวเพลิงได้ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ดำเนินธุรกิจทั่วโลก” แจน โจฮันสัน รองประธานฝ่ายขายและการตลาดบริษัท ไทโก้ ไฟร์ แอนด์ ซีเคียวริตี้ เอเชีย กล่าว “ปัญหาดังกล่าวอาจทำให้ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและทำให้บริษัทได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ แต่ด้วย FLAMEVision FV300 ท่านจะเห็นได้ทันทีว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ใดและสามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่ไฟจะลุกลาม”
“การลงทุนซื้ออุปกรณ์ตรวจจับเปลวเพลิงที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจที่บุคลากรและทรัพย์สินต่างอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูง เครื่อง FLAMEVision ได้รับการออกแบบมาให้สามารถตรวจจับเปลวเพลิงได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศ สภาพการมองเห็น หรือสภาพแสงใดก็ตาม”
ภาคอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงจะได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติต่างๆ ของเครื่อง FLAMEVision FV300 ดังต่อไปนี้
- ระบบประเมินสถานการณ์
อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับจุดที่เกิดเปลวเพลิงผ่านเซนเซอร์ระบบอินฟราเรดซึ่งจะส่งสัญญาณเสียงในขณะที่ระบบกล้องวงจรปิดจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณภาพ ช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถหาทางรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
- ระบบเตือนภัย
ระบบคำสั่งภายในเครื่องถูกตั้งค่าให้ระบุความแตกต่างระหว่างจุดที่เกิดเปลวเพลิงกับจุดที่ไม่มี พร้อมประเมินว่าจุดดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะเกิดเพลิงไหม้จริงหรือไม่ก่อนที่จะส่งสัญญาณเตือน ช่วยให้ไม่เกิดความผิดพลาดในการส่งสัญญาณเตือนภัย
- ระบบตรวจจับต่อเนื่องทั่วพื้นที่
การตรวจจับระบบอัลตร้าไวโอเล็ต/อินฟราเรด หรือการตรวจจับแบบ triple-channel infrared ซึ่งใช้กันอยู่แต่เดิมจะมีประสิทธิภาพในการตรวจจับลดลงหากเป้าหมายเคลื่อนที่พ้นศูนย์กลางของรัศมีตรวจจับ แต่อุปกรณ์ FLAMEVision FV300 มีระบบตรวจจับต่อเนื่องทั่วพื้นที่ โดยเซนเซอร์ในเครื่องจะตรวจจับกับวัตถุที่อยู่ในขอบข่ายของพื้นที่ แต่ก็ยังมีปฏิกิริยากับวัตถุที่อยู่นอกเหนือขอบข่ายด้วย
- ระบบป้องกัน 24 ชั่วโมงในทุกสภาพการณ์
อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถระบุพื้นที่เกิดเปลวเพลิงได้ในทุกสภาพอากาศและทุกทัศนวิสัย ด้วยระบบอินฟราเรดที่สามารถทะลุทะลวงผ่านเปลวควัน หมอก หรือไอน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบตรวจสอบข้อมูลก่อนส่งสัญญาณเตือน
อปุกรณ์ดังกล่าวจะระบุและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับจุดที่เกิดเปลวเพลิงก่อนที่จะส่งสัญญาณเตือนทุกครั้ง ช่วยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าใจสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง และสามารถนำไปพัฒนาระบบเตือนภัยและวิธีการรับมือกับเพลิงไหม้ต่อไป
ทั้งนี้ FLAMEVision FV300 เปิดตั้วเป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ท่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
ไทโก้ ไฟร์ แอนด์ ซีเคียวริตี้ เซอร์วิสเซส เอเชีย
ชี เหลียง เหม่ย
โทร: +65-6389-8241
อีเมล์: lmshee@tycoint.com
แหล่งข่าว: ไทโก้ ไฟร์ แอนด์ ซีเคียวริตี้ เซอร์วิสเซส เอเชีย
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --