ศาลสูงตัดสิน บริษัทอ็อกโซนิกา ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ละเมิดใบอนุญาตสิทธิบัตร

ข่าวต่างประเทศ Monday September 8, 2008 12:22 —Asianet Press Release

โรโซ--8 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
บริษัท เนิฟเทค จำกัด (Neuftec Limited) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในการผลิตเทคโนโลยีเชื้อเพลิงสีเขียว (เดิมคือ nano-particulate cerium oxide fuel catalyst ซึ่งก่อนหน้านี้จำหน่ายโดยบริษัท อ็อกโซนิกา (Oxonica ) ภายใต้ชื่อ เอ็นไวร็อกซ์ (Envirox) (TM)) ประกาศในวันนี้ว่า ศาลสูงประกาศให้บริษัท เนิฟเทค มีสิทธิในการครอบครองใบอนุญาต หลังจากก่อนหน้านี้บริษัท อ็อกโซนิกา เอ็นเนอร์จี จำกัด (Oxonica Energy Limited) ได้ยื่นฟ้องเพื่ออ้างสิทธิการครอบครอง อ็อกโซนิกา เอ็นเนอร์จี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท อ็อกโซนิกา พีแอลซี และจัดตั้งโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดนั้น มีนายริชาร์ด ฟาร์เลจ์ อดีตดาราทีวีเรื่อง Dragon Den เป็นประธาน นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2545 เอ็นไวร็อกซ์ สามารถทำยอดขายให้กับอ็อกโซนิกา พีแอลซี ราว 95%
ในเดือนต.ค.ปีพ.ศ.2549 บริษัท อ็อกโซนิกาแจ้งให้เนิฟเทคทราบว่า บริษัทได้พบ “ทางเลือกใหม่” เพื่อคิดค้นสูตร เอ็นไวร็อกซ์ที่ได้รับสิทธิบัตร ซึ่งทำให้ไม่สามารถจ่ายค่ารอยัลตี้ได้อีก หลังจากที่อ็อกโซนิกาไม่สามารถจ่ายค่ารอยัลตี้เหล่านี้ได้ เนิฟเทคจึงตัดสินใจยกเลิกการผลิตและสิทธิในการจัดจำหน่ายของอ็อกโซนิกา และหาทางเลือกใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จสูงตัวนี้ อ็อกโซนิกา เริ่มดำเนินคดีทางกฎหมายจนถึงศาลสูงกับเนิฟเทคในเดือนก.พ.ปีพ.ศ.2550 ซึ่งเดิมทีนั้นอ็อกโซนิกาต้องการประกาศว่า เนิฟเทค ถูกกีดกันออกจากการแข่งขันกับอ็อกโซนิกา และกล่าวด้วยว่าการขาย ‘เอ็นไวร็อกซ์ 2’ ไม่ถือเป็นที่ยอมรับในแง่ของใบอนุญาตของเนิฟเทค และไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้อ็อกโซนิกาจ่ายค่ารอยัลตี้
เนิฟเทคปกป้องคำกล่าวอ้างและการเรียกร้องอ้างสิทธิเพื่อให้จ่ายค่ารอยัลตี้ที่เกิดจากการขายสูตร ‘เอ็กไวร็อกซ์ 2’ ของอ็อกโซนิกา นอกจากนี้ เนิฟเทคยังตรวจสอบบันทึกของอ็อกโซนิกาที่เกี่ยวข้องกับยอดขายทั้งหมดของเอ็กไวร็อกซ์ และการชำระยอดที่ครบกำหนด ต่อมาอ็อกโซนิกาได้วางมือในการช่วงชิงสิทธิกับเนิฟเทคที่จะแข่งขันกับอ็อกโซนิกาในตลาด แต่ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิในการครอบครองสิทธิบัตรและความขัดแย้งเรื่องการจ่ายค่ารอยัลตี้ที่มีมาก่อนหน้านี้นั้น ยังคงดำเนินอยู่
คดีความดังกล่าวถูกนำมาฟ้องร้องต่อนายปีเตอร์ เพรสค็อทท์ คิวซี ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลสูงกรุงลอนดอนในปีพ.ศ.2551 และได้มีคำพิพากษาออกมาในวันนี้ ในคำพิพากษาซึ่งมีทั้งสิ้น 40 หน้า ศาลมีคำพิพากษาว่า ...”จะต้องมีการจ่ายค่ารอยัลตี้ให้กับทุกผลิตภัณฑ์ กระบวนการหรือการใช้รอยัลตี้ให้อยู่ในขอบข่ายคำกล่าวอ้างที่ปรากฏใน PCT application ซึ่งเป็นภาคผนวกของ Licence Deed และห้ามดำเนินการนอกเหนือจากนี้ ผลิตภัณฑ์เอ็นไวร็อกซ์ 2 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับใบอนุญาติตามที่กำหนดไว้ และต้องมีการจ่ายค่ารอยัลตี้ตามนั้น คำฟ้องร้องตกไป และศาลขอสนับสนุนการเรียกร้องอ้างสิทธิ...”
โรเนน ฮาซาริกา ผู้ก่อตั้งร่วมของเนิฟเทค กล่าว
“เรารู้สึกยินดีที่ศาลให้การสนับสนุนเรา การต่อสู้ในช่วงที่ผ่านมาทำให้เราเสียเงินและเวลาไปมาก แต่บัดนี้เรารู้แล้วว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์
ในเมื่อโอกาสในการตอบโต้อ็อกโซนิกา ที่พยายามหลบเลี่ยงการจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์มาถึงแล้ว เราจึงตัดสินใจที่จะสู้คดีนี้เพื่อเรียกร้องสิทธิและความชอบธรรม เพราะหากผู้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆไม่ได้รับความคุ้มครองในการจดลิขสิทธิ์ทางปัญญาที่พึงมีตามข้อกำหนดที่บริษัทได้ตกลงกันไว้ ก็อาจทำให้เทคโนโลยีนั้นตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจาก เทคโนโลยีใหม่ๆที่มีการคิดค้นขึ้นมาจะถูกผูกขาดอยู่เฉพาะในกลุ่มบริษัทรายใหญ่ ดังนั้น การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาจึงเป็นสิ่งสำคัญในการยกระดับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี
นับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราไม่มีเวลาอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้กับอ็อกโซนิกาโดยไม่ต้องพึ่งกระบวนการทางศาล แม้ว่าเราเต็มใจที่เปิดโต๊ะหารือกันในประเด็นดังกล่าว แต่เราก็หวังว่า การบริหารจัดการของอ็อกโซนิกาจะเป็นคำตอบให้ผู้ถือหุ้นทราบเรื่องราวเกี่ยวกับคดีนี้ทั้งหมด”
เนิฟเทคคาดการณ์ว่า ค่าลิขสิทธิ์ของบริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 500,000 ปอนด์สเตอริง รวมกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีทางกฎหมายและอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกประมาณ 1.3 ล้านปอนด์สเตอริง บริษัทเนิฟเทคได้แนะนำให้เจ้าหน้าที่สมุห์บัญชีดำเนินการตรวจสอบตัวเลขบัญชีของอ็อกโซนิกาให้เสร็จสิ้น และตรวจสอบว่า เนิฟเทคสามารถถือครองหุ้น 25% ของกำไรที่อ็อกโซนิกาได้มาจากการชำระค่าลิขสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์ Envirox(TM) และ 'Envirox 2' plus a GBP1 ล้านที่เนิฟเทคคิดค้นขึ้นมาได้หรือไม่ ทั้งนี้ เนิฟเทคต้องการที่จะดำเนินคดีฟ้องร้องอ็อกโซนิก้าเพื่อเรียกดอกเบี้ยและค่าเสียหายทั้งหมด
นอกจากนั้น เนิฟเทคยังอยู่ในระหว่างการประเมินแนวโน้มเรื่องการยื่นฟ้องคดีใหม่ๆต่อศาลฎีกา ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับยอดขายผลิตภัณฑ์ “Envirox 2”ของอ็อกโซนิกา โดยเนิฟเทคได้ยื่นฟ้องอีกคดีหนึ่งที่อ็อกโซนิกาได้กระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เนิฟเทคได้จดสิทธิบัตรจากยุโรปเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Envirox(TM) เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2551 หลังจากที่ไม่นานมานี้ อ็อกโซนิกาออกมายืนยันว่า บริษัทได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Envirox(TM) (ซึ่งเดิมเป็นสินค้าที่ได้รับการอนุญาตจากเนิฟเทค) ในยุโรป หลังจากที่ทั้งสองบริษัทได้ข้อสรุปในการทำข้อตกลงให้สิทธิการจำหน่าย
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
เนิฟเทค มีตัวแทนได้แก่ Watson, Farley & Williams LLP& Mr.Richard Hacon จาก11 South Square, Mr. Mark Platts-Mills QC & Mr. James Abraham จาก 8 New Square, London
เกี่ยวกับเนิฟเทค จำกัด
เนิฟเทค เป็นบริษัทด้านการวิจัยและพัฒนาที่ได้รับการจดสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ Envirox(TM) (2001-2007) รุ่นแรกที่ผลิตโดยบริษัท Advanced Nanotechnology of Australia ภายใต้ข้อตกลงให้สิทธิดำเนินการผลิตที่ออกโดยบริษัทอ็อกโซนิกา และได้รับอนุญาตจากเนิฟเทค โดยในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ไอพี ออสเตรเลียได้ออกรายงานการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการออกสิทธิบัตรของเนิฟเทคในออสเตรเลียเมื่อปีพ.ศ.2549 หลังจากที่มีการยื่นเรื่องฟ้องร้อง 10 ครั้ง โดยในรายงานพิจารณาคดีดังกล่าว ไอพี ออสเตรเลียยืนยันที่จะให้เนิฟเทคได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตรที่เริ่มยื่นฟ้องอ็อกโซนิกามาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 ทั้งนี้ เนิฟเทคยังคัดค้านการออกสิทธิบัตรให้กับอ็อกโซนิกาที่ดำเนินการผลิตสารกระตุ้นเชื้อเพลิงซีเรียมไดอ็อกไซด์ในออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ บริษัทเอ็นเนอร์เจนิกส์ พีทีอี ลิมิเต็ด ได้นำเทคโนโลยีของเนิฟเทคไปใช้ในพัฒนาเชื้อเพลิงของผลิตภัณฑ์ Enercat(TM)
แหล่งข่าว: เนิฟเทค จำกัด
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
โรเนน ฮาซาริกา, เนิฟเทค จำกัด
โทร +65-9633-8072
อีเมล legal@neuftec.com
เมลานี ไรลีย์
เบลล์ ยาร์ด คอมมิวนิเคชั่นส์
โทร +44-20-7936-2021
มือถือ +44-7775-591244
อีเมล Melanie@bell-yard.com
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ