เคปทาวน์--6 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเคสท์
งานวิจัยมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์มีเป้าหมายที่จะปิดช่องว่างระหว่างความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการดูแลผู้ป่วย
สมาพันธ์โรคเบาหวานสากล (IDF) และเอลี ลิลลี แอนด์ คอมพานี ได้ประกาศความสัมพันธ์ในการระดมทุนระยะยาวเพื่อจำแนก ทดสอบ และตีพิมพ์โซลูชั่นเชิงปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ในการดูแลรักษาของผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานทั่วโลก โครงการซึ่งที่รู้จักกันดีในชื่อ "Bringing Research In Diabetes to Global Environments and Systems" (BRIDGES) ได้มีการเปิดเผยในที่ประชุมโรคเบาหวานโลกครั้งที่ 19 ซึ่งจัดขึ้นในเมืองเคปทาว์ แอฟริกาใต้
ด้วยเงินช่วยเหลือจากบริษัทลิลลี มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในอีก 7 ปีข้างหน้า โครงการที่ได้รับอนุมัติในชื่อ IDF BRIDGES จะสนับสนุนด้านการเงินในโครงการวิจัยเชิงการแปลความหมายของโรคเบาหวาน โครงการวิจัยที่ได้รับอนุมัติ BRIDGES จะสร้างโอกาสในการ "แปล" บทเรียนที่ได้เรียนรู้จากงานวิจัยด้านการแพทย์ให้กับผู้ที่สามารถได้รับประโยชน์มากที่สุด คือผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน บทเรียนที่ได้เรียนผ่านทางโครงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนนี้ จะเป็นการให้โอกาสในการชี้นำ ยกตัวอย่าง การพัฒนาการักษาแบบประจำและการแทรกแซงเชิงพฤติกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่การเปิดเผย การดูแลสุขภาพตามหลักฐานบ่งชี้ และผลลัพธ์ที่ได้รับการปรับปรุงแล้วสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
โครงการดังกล่าวจะต้องอาศัยความร่วมมือและสภาพแวดล้อมในเชิงวัฒนธรรม ภายใต้โครงการ BRIDGES นักวิจัยจะสามารถแบ่งบันความรู้และคำแนะนำเพื่อการปรับปรุงโครงการ ซึ่งจะนำไปสู่การค้นพบที่ว่าโครงการดังกล่าวสามารถนำไปประยุกต์ในการกำหนดรูปแบบที่แตกต่างกันได้
"แม้ว่าจะมีการปฏิวัติความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และมีการนำการบำบัดรักษาโครเบาหวานแบบใหม่มากมายมาใช้ แต่ยังคงมีช่องว่างระหว่างสิ่งที่เราเรียนรู้ผ่านทางงานวิจัยทางการแพทย์ และสิ่งที่เราทำในการปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อสนับสนุนการปรับพฤติกรรมผู้ป่วยให้ประสบความสำเร็จ" นายปิแอร์ เลเฟเบร ประธาน IDF กล่าว "ด้วยโครงการ BRIDGES นี้ เราจะจำแนกแนวทางที่เป็นจริงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อช่วยยับยั้งการลุกลามของโรค เรามั่นใจว่าโครงการวิจัยระดับโลกนี้จะช่วยประชาคมทั่วโลกให้สามารถจำแนกความต้องการที่เฉพาะเจาะจงและเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงและการป้องกัน และการพัฒนาโครงการที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานในภูมิภาคจะได้ประโยชน์โดยตรง"
โรคเบาหวานยังคงมีอัตราการป่วยเพิ่มขึ้น และโรคดังกล่าวเป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 4 โรคเบาหวานยังส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 240 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าจะส่งผลกระทบประชาชน 380 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2568 ในช่วงหลายทศวรรษที่แล้ว การปฏิวัติด้านวิทยาศาสตร์ได้ทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานและการพัฒนาการบำบัดรักษาที่ล้ำสมัยแบบใหม่ได้มากขึ้น ถึงกระนั้น อาการโดยทั่วไปทำให้เกิดการป่วยไข้ และทำให้อัตราการตายจากโรคเบาหวาน ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
คณะกรรมการซึ่งเป็นแกนนำซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดย IDF จะกำหนดจำนวนเงินและชนิดของรางวัลที่ได้รับการอนุมัติ โครงการดังกล่าวออกแบบขึ้นเพื่อทดสอบกลไกด้านเวชภัณฑ์ หรือโรคที่ไม่สามารถระดมทุนได้โดยผ่านโครงการนี้
"บริษัท ลิลลี ภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับ IDF ในการริเริ่มงานวิจัยที่เสมือนเป็นโครงการนำร่อง" นายโฮเซ่ คาโร กรรมการผู้จัดการ และรองประธาน Glogal Diabetes Care Outcomes ของเอลี ลิลลี แอนด์ คอมพานี กล่าว "ขณะที่เรายังมีพันธสัญญาอย่างลึกซึ้งกับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และนำความก้าวหน้าด้านผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์มาสู่ผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้น เราทราบดีว่าความสำเร็จที่เกี่ยวกับโรคเบาหวานจะไม่เกิดขึ้นผ่านทางการแทรกแซงทางการแพทย์เพียงอย่างเดียว แนวคิดเชิงสร้างสรรค์จะเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยผู้ป่วยเบาหวานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และดำเนินชีวิตได้อย่างพึงพอใจมากขึ้นทั้งๆที่เผชิญกับโรคเบาหวานในระยะยาว"
โครงการ BRIDGES จะออกหนังสือคำร้องเพื่อขอเงินทุนในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 วัตถุประสงค์เพื่อให้คำร้องขอเงินทุนทั้งหมดถูกนำมาทบทวนอย่างเป็นมิตรและจะให้ความสำคัญโดยผ่านองค์การที่รับผิดชอบด้านการทบทวนปัจจัยภายนอกแบบข้ามวัฒนธรรม ซึ่งดำเนินงานโดย IDF
การประกาศโครงการที่ได้รับอนุมัติครั้งแรกจะมีขึ้นก่อนปลายปี 2550
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการวิจัยที่ได้รับอนุมัติของ BRIDGES หรือคำร้องขอสมัครเข้าร่วมในโครงการ กรุณาเยี่ยมชม www.idf.org
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
สมาพันธ์โรคเบาหวานสากล (IDF) เป็นผู้สนับสนุนระดับโลกต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานกว่า 240 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสมาคมโรคเบาหวานกว่า 190 แห่งในกว่า 150 ประเทศ ภารกิจของ IDF คือ สนับสนุนการดูแล การป้องกัน และรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลก IDF เป็นองค์กรเอกชนที่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับองค์การอนามัยโลก
ลิลลีซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยการนวัตกรรมระดับแนวหน้า กำลังพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทชั้นหนึ่งและดีที่สุดในผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน ด้วยการประยุกต์งานวิจัยล่าสุดจากห้องทดลองทั่วโลกของบริษัทเอง และจากความร่วมมือกับองค์กรวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง สำนักงานตั้งอยู่ที่อินเดียนาโพลิส มลรัฐอินเดียนา โดยบริษัทลิลลีเตรียมคำตอบไว้สำหรับผู้ที่มีความต้องการทางการแพทย์แบบเร่งด่วนที่สุดในโลก โดยผ่านแพทย์และข้อมูล
ที่มา: สมาพันธ์โรคเบาหวานสากล
ติดต่อ: แอนน์ เพียร์สัน, กรรมการผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ IDF
อีเมล์ anne@idf.org
โทร: +27 (0) 82819898 หรือ
ลี แลง, เอลี ลิลลี แอนด์ คอมพานี
ผู้จัดการ, โกลบอล โพดัค คอมมูนิเคชั่นส์
อีเมล์ Langele@Lilly.com
โทร : +1 317-457-3864
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--