เวียนนา,ออสเตรีย--22 พ.ค.--พีอาร์นิวส์วไร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
-- พร้อมภาพ
--มูลนิธิโรคกระดูกพรุนสากล และบริตท์ เอ็คแลนด์ ดาราภาพยนตร์ เรียกร้องให้มีการเคลื่อนไหวอย่างเร่งด่วนด้วยการใช้แคปเปญ The Staying Power
ไม่ใช่เพื่อเผยแพร่ในเดนมาร์ก ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และแคนาดา
รายงานใหม่จากมูลนิธิโรคกระดูกพรุนสากล (IOF) ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนส่วนบุคคล ต้นทุนทางสังคม และต้นทุนทางเศรษฐกิจที่สัมพันธ์กันและมีนัยสำคัญทั่วโลกเป็นครั้งแรก ซึ่งรายงานเหล่านี้เกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ไม่ได้รับการบำบัดรักษาโรคกระดูกพรุน
(ภาพ: http://www.newscom.com/cgi-bin/prnh/20060522/213166 )
ประมาณครึ่งหนึ่งของคนไข้ที่หยุดการบำบัดรักษารายสัปดาห์ภายในระยะเวลา 1 ปี ทำให้คนเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะกระดูกหักและทำให้เงินในระบบการรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้นเกินความจำเป็น รายงานฉบับนี้สะท้อนให้เห็นถึงแคมเปญ The Staying Power: Closing the Adherence Gap in Osteoporosis ของ IOF ซึ่งพยายามที่จะชี้ให้เห็นถึงภาระที่แท้จริงของการไม่ยึดมั่นในการบำบัดรักษา
สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการไม่ยืนหยัดในการบำบัดรักษา
โรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่เป็นกันในวงกว้าง ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้หญิง 1 ใน 3 คน และผู้ชาย 1 ใน 5 คน โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ แต่ถึงกระนั้นการขาดการยึดมั่นในการรักษาก็จะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน ซึ่งผู้ป่วยจำนวนมากพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะเข้ารับการบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่องในระยะยาวได้ เนื่องจากมีผู้หญิงไม่ถึง 1 ใน 3 คนซึ่งมีประวัติกระดูกหักจะสามารถฟื้นตัวจากระดับการเคลื่อนไหวในช่วงก่อน และกว่า 1 ใน 3 จะต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ รายงานยังบ่งชี้ถึงผลกระทบทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ โดยในทวีปยุโรปเพียงแห่งเดียวนั้น ต้นทุนการรักษาโรคกระดูกพรุนในสถานพยาบาลในขณะนี้มีอยู่กว่า 4.8 พันล้านยูโรต่อปี นอกเสียจากว่าอัตราการเกิดภาวะกระดูกหักที่ช่วยลดต้นทุนจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปอีก ในผู้หญิงกว่า 45 คนนั้น โรคกระดูกพรุนทำให้ผู้หญิงใช้เวลาในการอยู่โรงพยาบาลมากกว่าโรคอื่นๆอีกหลายโรค ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคมะเร็งเต้านม
ต้นทุนทางเศรษฐกิจในยุโรปที่บานปลายมีแนวโน้มแพร่หลายไปทั่วโลก
รายงานเกี่ยวกับ แคมเปญ The Staying Power ทำขึ้นจากรายงานของ IOF ในปี 2548 คือ เรื่อง The Adherence Gap: Why Osteoporosis Patients Don't Continue with Treatment ซึ่งระบุถึงภาวะขาดการยึดมั่นในการบำบัดรักษาในประเทศขนาดใหญ่ 5 ประเทศในยุโรป รายงานฉบับใหม่แสดงให้เห็นว่า รูปแบบการไม่ยึดมั่นในการบำบัดรักษาในยุโรปมีแนวโน้มแพร่หลายไปทั่วโลก
- ภายในปี 2593 นี้ คาดว่าภาระต้นทุนทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1.06 แสนล้านยูโร (1.315 แสนล้านดอลลาร์)
คณะแพทย์ชาวบราซิลมากกว่าครึ่งที่ตอบคำถามในการสำรวจครั้งใหม่รวมทั้งในเอกสาร ประมาณว่าค่าใช้จ่ายแต่ละปีในการรักษาผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนที่เกี่ยวข้องกับกระดูกที่แตกมากกว่า 81 ล้านยูโร (100 ล้าน ดอลลาร์) (10)
ในอังกฤษค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคกระดูกพรุนในแต่ละปีอยู่ที่ระหว่าง 2.2-2.6 พันล้านยูโร (1.5-18 พันล้านปอนด์) (11)
ในสเปนมีผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนที่กระดูกแตกหรือหัก 25,000 รายทุกปี ทำให้การรักษาโดยตรงเป็นเงินจำนวนมากกว่า 126 ล้าน ยูโร และค่าใช้จ่ายทางอ้อม 420 ล้านยูโร (12)
ระหว่างปี 2544-2546 มีผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนในสหรัฐประมาณ 2.39 ล้านคน ส่งผลให้รัฐบาลต้องจ่ายเงินประกันสุขภาพเป็นเงิน 1 หมื่นล้านยูโร (1.3 หมื่นล้านดอลลาร์) (13)
ในออสเตรเลียผู้ป่วยจากโรคกระดูกและกล้ามเนื้อใช้จ่ายเป็นเงินรวมประมาณ 1.8 พันล้านยูโร (3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
การเปิดตัวแคมเปญสเตย์อิ้ง พาวเวอร์
บริทท์ เอ็คแลนด์ นักแสดงภาพยนตร์ระดับนานาชาติ ผู้ซึ่งป่วยด้วยอาการโรคกระดูกพรุน ได้เข้าเป็นตัวแทนของไอโอเอฟวันนี้ที่เวียนนาเพื่อร่วมเปิดตัวโครงการ สเตย์อิ้ง พาวเวอร์ โครงการหลากมิตินี้ได้เรียกร้องให้ผู้หญิง คณะแพทย์ และกลุ่มคนไข้ทั่วโลกทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้หญิงในด้านการรักษาระยะยาว และลดความเสี่ยงต่ออาการกระดูกหักที่ไม่จำเป็นและทำให้อ่อนกำลัง
นางเอ็คแลนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในบทบาท เก็ท คาร์เตอร์ และบทบาทในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ตอน The Man With Golden Gun แสดงความเห็นว่า "ฉันเป็นโรคกระดูกพรุนมากว่า 10 ปีแล้ว และฉันก็ขอร้องให้ผู้หญิงที่เป็นโรคกระดูกพรุนหาคำแนะนำจากแพทย์และกลุ่มคนไข้ในท้องถิ่นเพื่อจะได้เข้าใจถึงวิธีการรักษาว่ามีอะไรบ้าง รวมทั้งการใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดได้อย่างไรในช่วงการรักษา"
การดำรงชีวิตในช่วงการรักษาเป็นที่ทราบกันว่าเป็นปัญหาหลักในการจัดการโรคเรื้อรังต่างๆ รวมทั้งโรคกระดูกพรุน เอ็คแลนด์กล่าวต่อไปว่า "ฉันตระหนักถึงผลกระทบของโรคกระดูพรุนที่มีเป็นอย่างมากในกิจกรรมประจำวัน ฉันโชคดีที่สามารถดำเนินชีวิตและเคลื่อนไหวได้ ขณะที่ผู้หญิงหลายคนไม่โชคดีเช่นฉัน การใช้ชีวิตในช่วงการรักษาอาจหมายถึงการหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตที่มีการเคลื่อนไหวน้อย ความเจ็บปวดเรื้อรัง ความพิการ และการเคารพในตัวเองที่ถดถอย
]'"
ประเด็นเรื่องการทำให้กระดูกติดกันเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทุกครั้งที่มีอาการกระดูกหัก คนไข้มีแนวโน้มสูงที่จะมีกระดูกหักเพิ่ม (15,16) เนื่องด้วยจำนวนประชากรที่มีอายุยืนเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนประชากรที่ป่วยด้วยโรคกระดูกพรุนจะเพิ่มขึ้นในช่วงอนาคตอันใกล้ ดังนั้นเป็นความจำเป็นเพิ่มขึ้นที่จะต้องช่วยคนไข้ได้รับผลประโยชน์ที่ดีขึ้นในการรักษา
ศาสตราจารย์ ฌอน อีฟ เรกินสเตอร์ ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยา สาธารณสุข และเศรษฐศาสตร์สุขภาพประจำมหาวิทยาลัยลีก เบลเยี่ยม และเลขาธิการทั่วไปไอโอเอฟ กล่าวว่า "ค่าใช้จ่ายด้านสังคมและเศรษฐกิจของผู้หญิงที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้ คณะแพทย์ ผู้หญิง และกลุ่มคนไข้ต้องทำงานร่วมกันเดี๋ยวนี้เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อรับประกันว่าวิธีการรักษาโรคกระดูกพรุนเป็นมิตรกับคนไข้มากขึ้น และมีแนวทางใหม่ๆรวมทั้งการใช้ยาเป็นประจำที่น้อยลง ซึ่งสามารถช่วยได้"
พอล สเปนเซอร์ โซชัคซิวสกี้ หัวหน้าฝ่ายการสื่อสารไอโอเอฟ สะท้อนความคิดนี้ว่า "ประเด็นเรื่องการทำให้กระดูกติดกันและผลพวงที่ตามมาเมื่อกระดูกหักจำเป็นต้องถูกกำหนดให้เป็นเรื่องฉุกเฉิน ด้วยโครงการสเตย์อิ้ง พาวเวอร์ ทางไอโอเอฟ เรียกร้องให้มีการเคลื่อนไหวจากผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน คณะแพทย์ กลุ่มผู้ป่วย และระบบการรักษาของรัฐบาลในการกล่าวถึงการเผยแพร่ความกังวลในรายงานวันนี้ ในฐานะที่เป็นจุดเริ่มต้น ไอโอเอฟ จะนำกลุ่มสมาชิกคนไข้มาปรึกษาปัญหาด้วยกันในช่วงปลายปีนี้ หาแนวทางที่ปฏิบัติได้จริง และทำให้บรรลุผลโดยเร็วที่สุด เราได้เรียกร้องให้ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับโรคกระดูกพรุนสนใจในประเด็นเดียวกันนี้"
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการดังกล่าว และการดาวน์โหลดสำเนาของเอกสาร กรุณาเข้าไปที่ส่วนของ สเตย์อิ้ง พาวเวอร์ ในเว็บไซต์ไอโอเอฟ ได้ที่ www.osteofound.org/stayingpower
โรคกระดูกพรุนซึ่งทำให้กระดูกพรุนและหักง่าย เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้เจ็บปวด สูญเสียการเคลื่อนไหว ไม่สามารถทำภารกิจประจำวันได้ และในหลายกรณีส่งผลถึงชีวิต หนึ่งในสามของผู้หญิงอายุมากกว่า 50 จะประสบกับอาการโรคกระดูกพรุน ขณะที่ผู้ชายพบหนึ่งในห้า (3,4,5)
โชคไม่ดีนักที่การตรวจคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอยู่ไกลจากมาตรฐานปฏิบัติ โรคกระดูกพรุนในขอบเขตที่แน่นอนนั้นสามารถป้องกันได้ และสามารถวินิจฉัยโรคได้ง่าย รวมทั้งการให้การรักษาอย่างมีประสิทธิภาพได้
มูลนิธิโรคกระดูกพรุนสากลหรือ ไอโอเอฟ เป็นเพียงองค์กลสากลเพียงองค์กรเดียวที่อุทิศตนให้กับการต่อสู้โรคกระดูกพรุน โดยองค์กรได้นำนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ คนไข้ และหุ้นส่วนเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ องค์กรทำงานกับกลุ่มสมาชิกมากกว่า 170 สมาคมใน 84 ประเทศ และองค์กรที่เกี่ยวกับการรักษาทั่วโลก ไอโอเอฟยังได้ผลักดันให้เกิดความตระหนักและการป้องกัน การตรวจเนิ่นๆ และพัฒนาการรักษาโรคกระดูกพรุน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมที่เว็บไซต์ www.osteofound.org
รายงานและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องของเดอะ สเตย์อิ้ง พาวเวอร์ ได้รับการสนับสนุนจากเงินทุนด้านการศึกษาจากโร้ชและแกล็กโซสมิทไคลน์ ที่ผ่านมามีวิธีการรักษาที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้ว ทางมูลนิธิโรคกระดูกพรุนสากลไม่ได้รับรองหรือแนะนำวิธีการรักษาพิเศษใดๆ เพื่อปล่อยให้แพทย์และนักกายภาพเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องวิธีการรักษา
ทั้งนี้ ข้อมูลอ้างอิงในเรื่องดังกล่าวสามารถติดต่อขอรับได้
ที่มา: มูลนิธิโรคกระดูกพรุน
หมายเหตุบรรณาธิการ: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ได้แก่ รูปภาพจากงานเปิดตัวและบทสัมภาษณ์บริทท์ เอ็คแลนด์ ศาสตราจารย์ฌอน อีฟส์ เรกินสไตร์ และพอล สเปนเซอร์ โซชัคซิวสกี้ กรุณาติดต่อ เอมิลี่ บรู๊คส์, เวอร์โก้ เฮลท์ โทร. 44(0)20-8939-2462 หรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุนและมูลนิธิโรคกระดูกพรุน กรุณาติดต่อ พอล สเปนเซอร์ โซชัคซิวสกี้ หัวหน้าฝ่ายสื่อสาร ดทร.+41-22-994-0100 อีเมล์ psochaczewski@osteofound.org หรือลิซ่า ร้อดเวลล์ พีอาร์ เวอร์โก้ เฮลท์ พีอาร์ โทร.+44(0) 20-8939-2467
ติดต่อ: พอล สเปนเซอร์ โซชัคซิวสกี้ หัวหน้าฝ่ายสื่อสาร ดทร.+41-22-994-0100 อีเมล์ psochaczewski@osteofound.org
หรือลิซ่า ร้อดเวลล์ พีอาร์ เวอร์โก้ เฮลท์ พีอาร์ โทร.+44(0) 20-8939-2467
รูปภาพ: http://www.newscom.com/cgi-bin/prnh/20060522/213166
เว็บไซต์: http://www.osteofound.org/stayingpower
http://www.osteofound.org
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--