กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์ — เอเชีย — เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
การทำงานร่วมกันของระบบต่างๆ ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ลูกค้าองค์กรตระหนักถึงศักยภาพสูงสุดของการสื่อสารผ่านจอภาพ
อุตสาหกรรมการประชุมทางไกลเสมือนจริงและการประชุมผ่านวิดีโอทั่วโลกมีแนวโน้มว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะ 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ.2557 โดยเฉพาะในเอเชียแปซิกฟิกจะมีมูลค่าถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์จากทั้งหมด จากข้อมูลของฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวน โดยในพิธีเปิดห้องประชุมทางไกลเสมือนจริง TANDBERG T3 ในฮ่องกง ผู้บริหารจากแทนด์เบิร์ก (TANDBERG) และฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวน ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันของระบบต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อองค์กร
อุตสาหกรรมการประชุมทางไกลเสมือนจริงขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยได้รับแรงหนุนหลักจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ราคาบรอดแบนด์ที่ลดลง และการที่ผู้บริหารต้องการลดต้นทุนในการเดินทางทำธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทจำนวนมากในเอเชียแปซิฟิกต่างหันมาใช้ระบบการประชุมผ่านวิดีโอ ดังนั้นการประชุมทางไกลเสมือนจริงจึงเป็นเทคโนโลยีลำดับต่อไปที่ขาดไม่ได้สำหรับองค์กรต่างๆ และแทนด์เบิร์กก็พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านั้นอย่างเต็มที่ ด้วยห้องประชุมทางไกลเสมือนจริง TANDBERG T3 ซึ่งได้รับการจัดแสงและตกแต่งมาเป็นพิเศษ ทำให้ท่านรู้สึกเหมือนได้นั่งอยู่ตรงข้ามผู้ร่วมประชุมจริงๆ ทั้งที่ความจริงแล้วพวกเขาอาจอยู่ไกลออกไปอีกซีกโลก
ลาร์ส รอนนิ่ง ประธานแทนด์เบิร์กประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ผู้คนมักหลงลืมไปว่าการประชุมทางไกลเสมือนจริงไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ แต่มันเป็นประสบการณ์ใหม่และเป็นส่วนขยายของการประชุมผ่านวิดีโอ และนับวันการประชุมทางไกลเสมือนจริงก็ยิ่งกลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมการสื่อสารผ่านจอภาพ โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เราสามารถชนะใจลูกค้ารายใหญ่หลายรายในเอเชียโดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงินต่างๆ”
ปรานาเบช นาธ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมแผนกไอซีทีจากฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวว่า “ตลาดการประชุมทางไกลเสมือนจริงในเอเชียกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น และเพื่อศักยภาพสูงสุดในการใช้งาน ลูกค้าต้องสามารถพูดคุยกันได้แม้ว่าจะใช้บริการเครือข่ายที่แตกต่างกันหรือใช้ระบบการประชุมทางไกลเสมือนจริงที่ต่างกันก็ตาม ซึ่งแทนเบิร์กได้บุกเบิกและพยายามทำให้ระบบต่างๆ ใช้งานร่วมกันได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
องค์กรต่างๆ ควรตระหนักว่าเทคโนโลยีการประชุมทางไกลเสมือนจริงเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านจอภาพ และการประชุมทางไกลเสมือนจริงอย่างเทคโนโลยี T3 สามารถใช้งานร่วมกับธุรกิจ บริการ และโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ได้เกือบทุกประเภทโดยไม่ต้องอัพเกรดฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมแต่อย่างใด และการใช้งานระบบการประชุมทางไกลเสมือนจริงร่วมกับฮาร์ดแวร์อย่างคอมพิวเตอร์หรือวิดีโอ หรือกับซอฟท์แวร์อย่าง Microsoft Office Communications Server จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานของพนักงานในองค์กรได้ด้วย ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์การสื่อสารผ่านจอภาพของแทนด์เบิร์กทุกตัวมีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของทุกองค์กร
ท่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ http://www.tandberg.com
เกี่ยวกับแทนด์เบิร์ก
แทนด์เบิร์กเป็นผู้นำระดับโลกในด้านผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับการสื่อสารผ่านจอภาพไม่ว่าจะเป็นการประชุมทางไกลเสมือนจริง การประชุมผ่านวิดีโอคุณภาพสูง และการดูวิดีโอผ่านโทรศัพท์มือถือ บริษัทมีสำนักงานใหญ่สองแห่งในนิวยอร์กและนอร์เวย์ ซึ่งทำหน้าที่ออกแบบ พัฒนา และทำการตลาดระบบรวมถึงซอฟต์แวร์สำหรับการสื่อสารด้วยวิดีโอ เสียง และข้อมูล นอกจากนี้ บริษัทยังรับผิดชอบงานขาย การสนับสนุนด้านเทคนิค และบริการเสริมอื่นๆ ในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก นอกจากนั้นแทนด์เบิร์กยังจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสโลโดยใช้ชื่อย่อหุ้น TAA.OL ท่านที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tandberg.com
ทั้งนี้ TANDBERG เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ
ติดต่อ:
ไนเลช ไพรแทม
แทนด์เบิร์ก
โทร: +65-6236-9231 หรือ +65-9369-5477
อีเมล์: nilesh.pritam@tandberg.com
แหล่งข่าว: แทนด์เบิร์ก
-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --