ที่ประชุมด้านหัวใจระดับโลกชี้ การนำยา RIVIERA ขึ้นจดทะเบียนสามารถคาดการณ์ผลการรักษาทางการแพทย์ในผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดด้วยวิธี PCI ได้

ข่าวต่างประเทศ Tuesday September 5, 2006 13:47 —Asianet Press Release

บาร์เซโลนา--5 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
ในวันนี้ได้มีการประกาศผลการนำยา RIVIERA ที่ผ่านการจดทะเบียนข้ามชาติ (จดทะเบียนเป็นยาต่อต้านลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำในศัลยกรรมหลอดเลือดที่ใช้เป็นทางเลือกและการรักษาเบื้องต้นทั่วโลก -Registry on IntraVenous anticoagulation In the Elective and primary Real world of Angioplasty) รวมทั้งผลการศึกษาด้านแนวโน้มและการสำรวจยาดังกล่าว ในที่ประชุม World Congress of Cardiology 2006 ซึ่งเป็นการประชุมร่วมระหว่างสมาคมหัวใจวิทยาแห่งยุโรป และ สมาพันธ์โรคหัวใจโลก ที่เมืองบาร์เซโลนา สะท้อนให้เห็นว่า การใช้วิธี PCI มีความปลอดภัยในการสร้างกระบวนการ revascularisation ซึ่งมีอัตราแทรกซ้อนทางการแพทย์ต่ำ คือมีอัตราการเสียชีวิตเพียง 0.3% มีอัตราการแตกของกล้ามเนื้อหัวใจที่ต่ำเพียง 1.0% และมีอัตราการตกเลือดที่ต่ำเพียง 3.4% เท่านั้น
การนำยา RIVIERA ที่จดทะเบียนแล้วได้มีขึ้นในช่วงปี 2545 และ 2548 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการฟื้นฟูทางเทคนิคเกิดขึ้นในวิธีการแทรกซึมเข้าสู่หลอดเลือดหัวใจผ่านทางผิวหนัง (PCI) และการบำบัดรักษาด้วยยาตามคำสั่งแพทย์ ยา RIVIERA ถูกระบุว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผลการตรวจทางการแพทย์ที่ให้ผลในทางตรงกันข้าม กล่าวคือ วิธี PCI ก่อให้เกิดร่อยรอยใหญ่หลงเหลืออยู่ที่ผิวหนัง PCI ทำให้เกิดรอยแตกเมื่อมีการทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจ และสภาวะของผู้ป่วยในทางการแพทย์ในที่ประชุม นอกจากนี้ ยา RIVIERA ยังถูกระบุว่าเป็นปัจจัยที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายที่อาจนำไปสู่ผลทางการแพทย์ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การใช้วิธีรักษาด้วยยา thienophridine (ซึ่งส่วนใหญ่มีส่วนผสมของตัวยา clopidogrel) ซึ่งมีการนำมาใช้ก่อนวิธี PCI และการใช้ยา statin และยา enoxaparin มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์มีการขาดเลือดต่ำ
นอกจากนี้ การแผ่รัศมียังเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การขาดเลือดและการตกเลือดในระดับต่ำด้วย การใช้วิธีการระงับหรือป้องกัน GP IIb/IIa และการใช้ทั้งยา enoxaparin และยา UFH มีความเกี่ยวข้องกับอาการตกเลือดมากขึ้น แต่การใช้ยา enaxaparin เพียงอย่างเดียวมีความเกี่ยวข้องกับภาวะตกเลือดต่ำ เมื่อเทียบกับการใช้ยา UFH
ข้อมูลของการใช้ยา RIVIERA ได้รวบรวมจากผู้ป่วย 7962 คนในโรงพยาบาล 144 แห่ง จาก 23 ประเทศใน 4 ภูมิภาค เพื่อกำหนดรูปแบบเชิงปฏิบัติการในการกำหนดรูปแบบการรักษาทางการแพทย์ในวงกว้างทั่วโลก เป้าหมายของการใช้ยา RIVIERA คือการกำหนดรูปแบบเชิงปฏิบัติการณ์ใน PCI รุ่นใหม่ ควบคู่กับการนำเสนอในวงกว้างของประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อตรวจสอบการใช้ยาต้านลิ่มเลือดควบคู่กับไปกับการใช้ยา UFH (unfractionated heparin) หรือ ยา LMWH (low molecular weight heparin) ในผู้ป่วยที่กำลังอยู่ในระหว่างการใช้วิธี PCI เป็นทางเลือกและการรักษาในเบื้องต้น และเพื่อระบุการคาดการณ์แบบอิสระของภาวะแทรกซ้อนทางการแพทย์และในทาง angiographic หลังจากผ่านขั้นตอนการใช้วิธี PCI
ผู้ป่วยที่จดทะเบียนว่าใช้ยา RIVIERA เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีประวัติของกล้ามเนื้อเยื่อหัวใจตาย (30%) และเอสที-ส่วนของการยกระดับกล้ามเนื้อเยื่อหัวใจตายในปัจจุบันหรือที่จะเกิดขึ้น (STEMI) (21%) หรืออาการหลอดเลือดหัวใจการยกระดับรุนแรงไม่ใช่เอสทีในปัจจุบัน (NSTE-ACS) (36%) โดย 92% ของกลุ่มที่ได้รับ PCI ทางเลือกและ 8% ที่ได้รับ PCI เบื้องต้น ไม่มีผู้ป่วยรายใดที่ได้รับการรักษาก่อนหน้าด้วยวิธีการรักษาต้านการจับตัวเป็นลิ่มเลือด (antithrombotic therapy) ZUFH หรือ LMWH) ก่อนการรักษาด้วย PCI ระหว่างกระบวนการ PCI คนไข้เกือบทั้งหมดได้รับยา enoxaparin เพียงอย่างเดียว (58%) หรือ UFH เพียงอย่างเดียว (36%) และมีผู้ป่วยจำนวนไม่มาก (6%) ได้รับยาทั้งสองชนิดและยาที่แตกต่างออกไป การรักษาในโรงพยาบาลอื่นๆรวมทั้งยา aspirin 95% ของคนไข้ ยา clopidogrel จำนวน 89% ยา ticlopidine จำนวน 12% และยา GP Iia/Iib inhibitors จำนวน 18%
"ผลการทดสอบของเรายืนยันว่าการใช้อุปกรณ์และเทคนิคใหม่และได้รับการพัฒนา รวมทั้งการใช้การรักษาต้านการจับตัวเป็นลิ่มเลือด ได้แก่ การลดอัตราความยุ่งยากของ PCI ในการดำเนินการทางคลินิกประจำวันได้อย่างชัดเจน" กิลเลส์ มองทาเลส์โกท์ MD PhD ศาสตราจารย์ด้านโรคหัวใจแห่งสถาบัน อินสทิทูท ดู โคเออร์ ,โรงพยาบาล โฮพิทัล เดอ ลา เปอตี-ซัลเปอทริเออร์ ในกรุงปารีส และ ผู้อำนวยการการตรวจสอบการจดทะเบียนยา RIVIERA "น่าภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่ลดลงของผลที่มีต่อหัวใจที่เป็นผลตรงข้ามหลังจาก PCI ในการดำเนินการทางคลินิกชั่วคราวที่ปรับแต่งได้ และยืนยันผลของการทดสอบสุ่มเลือกปัจจุบัน การปรับปรุงต่อไปในผลด้านคลินิกของผู้ป่วย PCI ที่กำลังจะมาถึง" กิลเลส์ มองทาเลส์โกท์
ผลของการบันทึกจดทะเบียนยา RIVIERA ไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลจากมุมมองของความเป็นจริง แต่ยังคงให้เวลาในการเพิ่มการใช้งาน PCI รักษาอาการโรคหัวใจขั้นรุนแรง กระบวนการ PCI มากกว่า 1 ล้านครั้งได้รับการจัดการทั่วโลกทุกปี PCI โดยทั่วไปหมายถึงการรักษาหลอดเลือดด้วยการใช้บอลลูน/ การรักษาหลอดเลือดหัวใจ
ยา RIVIERA ได้รับการลงทะเบียนแล้วโดยบริษัทซาโนฟี-อาเวนติส
เกี่ยวกับการรักษาด้วยวิธีการแทรกซึมเข้าสู่หลอดเลือดหัวใจผ่านทางผิวหนัง(PCI)
PCI เป็นขั้นตอนการรักษาที่ขจัดสิ่งกีดขวางทางเดินของเส้นเลือดแดงในการส่งเลือดหล่อเลี้ยงหัวใจที่เกิดภาวะอุดตัน เนื่องจากหลอดเลือดตีบหรือหลอดเลือดอุดตัน ขั้นตอนการรักษาเพื่อฟื้นฟูภาวะอุดตันของการสร้างเนื้อเยื่อที่ปิดหลอดเลือดแดงอย่างเฉียบพลันในระหว่างที่เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อหัวใจตาย เนื่องจากการอุดตันของเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยง ทำให้เกิดอาการหายใจติดขัด วิธีการรักษาแบบ PCI จะรวมถึงการทำศัลยกรรมหลอดเลือดด้วยบอลลูนและส่วนใหญ่จะทำการปลูกถ่ายหลอดเลือดแดงด้วยเครื่องมือปะบนผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ความกังวลในระยะยาวของการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว คือ ความเป็นไปได้ที่หลอดเลือดแดงจะกลับมาตีบตันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยวิธีนี้และการใช้เครื่องมือร่วมกับยาได้แสดงให้เห็นถึงการลดความเสี่ยงของภาวะดังกล่าว
การรักษาแบบ PCIในเบื้องต้น ระบุถึงการเกิดภาวะอุดตันในเส้นเลือดภายใน 12 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการเจ็บหน้าอกหรืออาการอื่นๆของการตีบตันอย่างรุนแรง การเลือกใช้วิธี PCI จะสามารถใช้ได้กับผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อในหลอดเลือดแดง
ที่มา: โรงพยาบาลพีที ซัลเปทีเยร์ อินสติตูธ์ ดู เคอร์
ติดต่อ: จี มอนตาเลสคอต
ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย
สำนักเลขาธิการ:+33-(0)1-42-16-30-07, or
แฟกซ์: +33-(0)1-42-16-29-31, หรือ
อีเมล์: gilles.montalescot@psl.ap-hop-paris.fr
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--

แท็ก ผ่าตัด   GIS  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ