ผลการศึกษาเผยโคเอนไซม์คิวเท็น Ubisool-Aqua (TM) อาจป้องกันภาวะการเป็นพิษต่อระบบประสาทเนื่องจากการรักษาด้วยยาต้านไวรัส HIV

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 26, 2007 16:38 —Asianet Press Release

ฮาสบรูค ไฮท์, นิวเจอร์ซีย์--26 ก.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
ดร. แคทเธอรีน แอล. เชอร์รี่ แห่งสถาบันเบอร์เนท นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า โคเอนไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10) ที่ละลายในน้ำได้ชนิดใหม่ของ ไซเมส (Zymes) ช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของเซลล์ประสาทและทำให้เซลล์ประสาทไม่ถูกทำลายจากยารักษาโรค HIV ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นประสาทได้รับความเสียหาย และได้มีการนำเสนอผลของการศึกษาครั้งนี้ที่งานการประชุมสมาคมโรคเอดส์นานาชาติ 2550 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ดร.เชอร์รี่ ได้ศึกษาเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของโคเอนไซม์คิวเท็น ในด้านการลดภาวะความเป็นพิษต่อระบบประสาทวิทยาจากการใช้ยารักษาโรค HIV ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท (อ่านในเว็บไซต์ Zymes.com) โดยศึกษาผ่านการจำลองสารยับยั้ง Nucleoside reverse transcriptase inhibitors (NRTIs) ของเชื้อไวรัส HIV และเป็นศูนย์กลางของการรักษา HIV ที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี ยาเหล่านี้เป็นอันตรายอย่างยิ่งยวดต่อเซลล์ปกติ และนำไปสู่ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ยาในการรักษาด้วยยาต้านไวรัสระยะยาว
ยา NRTIs 2 ชนิดยังคงมีการใช้อยู่ในทางคลินิค (stavudine และ didanosine) ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทได้ (โรคของระบบประสาท) ซึ่งโรคของระบบประสาทเป็นปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ที่ป่วยเป็นโรคเอดส์
"การรักษาผู้ป่วยด้วยสารอาหารเช่น โคเอนไซม์คิวเท็น จะช่วยป้องกันและรักษาโรคของระบบประสาทในโรคอื่นๆ โคเอนไซม์คิวเท็นได้รับคำแนะนำให้ใช้ในการลดภาวะเป็นพิษต่อระบบประสาทจากยาต้านไวรัส จนถึงขณะนี้เรายังไม่สามารถศึกษาโคเอนไซม์คิวเท็นได้ เนื่องจากสารดังกล่าวไม่สามารถละลายในน้ำได้ ขณะที่โคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) ซึ่งละลายในน้ำได้ของ ไซเมส ช่วยให้เราศึกษาสารอาหารดังกล่าวได้ในรูปแบบจำลองของโรคของระบบประสาทที่เกิดจากยาต้านไวรัส HIV เหล่านี้" ดร. เชอร์รี่ กล่าว
ผลการศึกษาของ ดร.เชอร์รี่ พบว่า เซลล์ประสาทของหนูเติบโตเป็นครั้งแรกเมื่อมีการใช้โคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) เพียงอย่างเดียว และจากนั้นก็เติบโตขึ้นเมื่อมีการใช้โคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) ร่วมกับยา stavudine และโคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) ร่วมกับ didanosine ซึ่งมีการวัดการเติบโตของเซลล์ประสาทและประสาทที่ไม่ถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ระบบวิเคราะห์ภาพวีดีโอ
จากผลการศึกษาพบว่า การใช้โคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) เพียงอย่างเดียวสามารถเพิ่มอัตราการเจริญติบโตและการดำรงอยู่ของเซลล์ประสาทเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ เซลล์ต่างๆที่เจริญเติบโตด้วยการใช้โคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 1 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ ขณะที่เซลล์ที่เจริญเติบโตด้วยการใช้ยา stavudine หรือยา didanosine เพียงอย่างเดียว มีอัตราการเจริญเติบโตและการดำรงอยู่อย่างไม่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการนำโคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) มาใช้ร่วมกับยา stavudine หรือยา didanosine พบว่ายาดังกล่าวสามารถช่วยลดสารพิษลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลังผ่านพ้นไป 19 วัน เซลล์ประสาทที่เจริญเติบโตขึ้นด้วยการใช้โคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) ร่วมกับ stavudine มีอัตราการเติบโตและดำรงอยู่เหมือนกับเซลล์ประสาทปกติ ในทางตรงกันข้าม เซลล์ที่ใช้ยา stavudine เพียงอย่างเดียวไม่ช่วยให้เซลล์เจริญเติบโตได้ดีมากนัก ขณะที่เซลล์ที่ได้รับยา didanosine เพียงอย่างเดียวจะเสื่อมสภาพหลังจากใช้ยาเพียง 6 วัน แต่เซลล์ที่ได้รับโคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) ร่วมกับยา didanosine มีอัตราการเจริญเติบโตและคงอยู่เช่นเดียวกับเซลล์ประสาทปกติ
ดร.เชอร์รี่กล่าวว่า "ข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนความเป็นไปได้ที่ว่าโคเอนไซม์คิวเท็น Ubisol-Aqua(TM) มีประโยชน์ในการป้องกันการทำลายเซลล์ประสาทร่วมกับการใช้ยา stavudine และยา didanosine และการทดลองภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการยืนยันผลการศึกษาทางการแพทย์"
"โคเอนไซม์คิวเท็นที่สามารถละลายในน้ำเมื่อนำมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยี Ubisol-Aqua(TM) ของเรานั้น จะช่วยให้เกิดการพัฒนาคุณประโยชน์ของโคเอนไซม์คิวเท็นเพิ่มมากขึ้นในอนาคต" ดร.เรนดิ เฟน ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานฝ่ายบริหารของบริษัทไซเมส แอลแอลซี ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกากล่าว "เราเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้สามารถพัฒนาคุณประโยชน์ของโคเอนไซม์คิวเท็นที่มีต่อสุขภาพได้มากขึ้นเช่นเดียวกับประโยชน์ของวิตามิน สารอาหาร และยาอื่นๆ ที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย"
ด้วยเทคโนโลยี Ubisol-Aqua(TM) ที่ทำให้สารอาหารสามารถละลายในน้ำได้ จึงมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ร่วมกับสารอาหารที่มีอนุภาคเชิงซ้อน รวมถึงสารอาหารที่มีอนุภาคขนาดเล็ก ไซเมสพัฒนาสารประกอบที่มีอานุภาคเล็กขนาดนาโนเมตรจากเดิมที่ไม่สามารถละลายได้ในน้ำ ซึ่งการพัฒนาครั้งนี้ทำให้เกิดความก้าวหน้าต่อเทคโนโลยีการทำให้สารละลายน้ำได้ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ โดย Ubisol-Aqua(TM) เป็นนาโนเทคโนโลยีรุ่นบุกเบิกที่ทำให้สารประกอบชีวภาพที่ไม่สามารถละลายน้ำได้นั้น สามารถละลายในน้ำได้ ซึ่งยังไม่มีการนำไปใช้ทั้งในเชิงพาณิชย์และทางการแพทย์
ไซเมส นำเสนอเทคโนโลยีด้านระบบการสะกัดสารอาหารให้กับบริษัทพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่างๆที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาสารอาหารให้สามารถละลายในน้ำได้ และให้เป็นสารที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาส่งอีเมล์มาได้ที่ info@zymesllc.com หรือเข้าชมที่เว็บไซต์ http://www.zymes.com
แหล่งข่าว ไซเมส แอลแอลซี
ติดต่อ: มาเรีย คาร์เทีย จากไซเมส แอลแอลซี
โทร +1-201-727-1520, ext. 110,
อีเมล์ info@zymesllc.com
เว็บไซต์: http://www.zymes.com
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ