นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขส่งออก ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553 เมื่อวันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2553 ณ กระทรวงพาณิชย์ (สำนักงานรัฐมนตรี 21 ธ.ค. 53)
การส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2553 มีมูลค่า 17,699.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 ขยายตัวในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 17,292.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.3 ส่งผลให้เกินดุลการค้ามูลค่า 407.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
1.1 การส่งออก
1) การส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2553 มีมูลค่า 17,699.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28.4 ขยายตัวในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง ในรูปเงินบาทการส่งออกมีมูลค่า 524,800.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7
2) การส่งออกในระยะ 11 เดือนของปี 2553 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 177,977.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.1 ในรูปเงินบาทมีมูลค่า 5,661,023.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.1
3) สินค้าส่งออกสำคัญเดือนพฤศจิกายน 2553 สินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.7 ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.9
- สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ขยายตัว ได้แก่ ข้าว (53.1%) ยางพารา (49.2%) มันสำปะหลัง (7.5%) อาหาร (21.5%) เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ (8.2%) เครื่องใช้ไฟฟ้า (28.8%) ยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (35.9%) อัญมณีและเครื่องประดับ (89.7%) โดยการส่งออกทองคำเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 215.6ขณะที่อัญมณีที่หักทองคำออกแล้วส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.8
- สินค้าที่ส่งออกลดลงมีเพียง 2 รายการ ได้แก่ น้ำตาล (-67.8%) เนื่องจาก ผลผลิตในประเทศลดลงและความต้องการใช้ในประเทศเพิ่มขึ้น วัสดุก่อสร้าง (-1.4%) ซึ่งเป็นการลดลงของการส่งออกโครงก่อสร้างทำด้วยเหล็กและเหล็กกล้าไปออสเตรเลียที่ลดลงถึงร้อยละ 98.0 เนื่องจากปี 2552 มีการส่งออกไปเพื่อก่อสร้างโรงแยกก๊าซ
4) ตลาดส่งออกสำคัญเดือนพฤศจิกายน 2553 ขยายตัวทุกตลาด โดยตลาดหลัก ตลาดศักยภาพสูง และตลาดศักยภาพระดับรอง ขยายตัวร้อยละ 22.5, 30.3, และ 24.1 ตามลำดับ
- ตลาดสำคัญที่ขยายตัว เช่น อาเซียน 9 (25.9%) จีน (20.9%) ญี่ปุ่น (25.1%) สหรัฐฯ(19.9%) ฮ่องกง (55.8%) ตะวันออกกลาง (16.9%) แอฟริกา (46.3%) ละตินอเมริกา (74.1%) รัสเซียและ CIS(122.9%) เป็นต้น
- ส่วนตลาดที่หดตัวมีเพียงตลาดเดียวคือ ทวีปออสเตรเลีย (-0.3%) เนื่องจากการส่งออกโครงก่อสร้างทำด้วยเหล็กและเหล็กกล้าไปออสเตรเลีย (ลดลงร้อยละ 84.8)
1.2 การนำเข้า
1) การนำเข้าเดือนพฤศจิกายน 2553 มีมูลค่า 17,292.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ35.3 คิดในรูปเงินบาทมีมูลค่า 519,277.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1
2) การนำเข้าในช่วง 11 เดือนของปี 2553 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 166,101.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.3 คิดในรูปเงินบาทมีมูลค่า 5,348,135.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8
3) สินค้านำเข้าสำคัญเดือนพฤศจิกายน 2553 การนำเข้าขยายตัวเกือบทุกกลุ่ม ยกเว้นสินค้าหมวดอาวุธยุทธปัจจัย
- สินค้าวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป มูลค่า 6,918.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.1
- สินค้าทุน มูลค่า 4,216.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.6
- สินค้าเชื้อเพลิง มูลค่า 3,738.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.1
- สินค้าอุปโภคบริโภค มูลค่า 1,624.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.4
- สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง มูลค่า 783.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.5
1.3 ดุลการค้า
1) เดือนพฤศจิกายน 2553 ไทยเกินดุลการค้ามูลค่า 407.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดในรูปเงินบาทเกินดุล 5,523.3 ล้านบาท
2) ในช่วง 11 เดือนของปี 2553 (ม.ค.-พ.ย.) ไทยเกินดุลการค้าสะสมมูลค่า 11,875.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดในรูปเงินบาทเกินดุล 312,888.6 ล้านบาท
2.1 เดือนพฤศจิกายน 2553 ไทยส่งออกไปประเทศคู่ค้า FTA มีมูลค่ารวม 9,363.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.3 เป็นการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ FTA มูลค่า 3,311.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.9 คิดเป็นร้อยละ 35.4 ของการส่งออกรวมภายใต้ FTA
2.2 ประเทศที่ใช้สิทธิฯ สูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ AFTA เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.7 สินค้าที่มีการใช้สิทธิฯมาก อาทิ รถยนต์และยานยนต์ขนส่ง อาหารปรุงแต่งอื่นๆ ส่วนประกอบยานยนต์ หลอดหรือท่อพลาสติกเครื่องปรับอากาศ และเหล็กกึ่งสำเร็จรูป รองลงมาได้แก่ จีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 70.3 และออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.9
2.3 การนำเข้าจากประเทศคู่ค้า FTA มีมูลค่า 10,046.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.2
2.4 ไทยได้ดุลการค้า FTA มูลค่า 1,302.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
3.1 การค้ารวมเดือนพฤศจิกายน 2553 มีมูลค่า 63,298.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 ส่วนช่วง 11 เดือนของปี 2553 มีมูลค่า 712,324.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.7
3.2 การส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2553 มีมูลค่า 39,196.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 และระยะ 1 1เดือนของปี 2553 มีมูลค่า 443,574.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.5
3.3 การนำเข้าเดือนพฤศจิกายน 2553 มีมูลค่า 24,101.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 และช่วง 11 เดือนของปี 2553 มีมูลค่า 268,749.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0
3.4 ไทยเกินดุลค้าชายแดนเดือนพฤศจิกายน 2553 คิดเป็นมูลค่า 15,095.2 ล้านบาท ในขณะที่การเกินดุลการค้าสะสม 11 เดือน ปี 2553 มีมูลค่า 174,824.9 ล้านบาท (ยกเว้นพม่าที่ไทยขาดดุล เนื่องจากยังคงนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากพม่าในมูลค่าสูง)
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630