นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้เดินทางเยือนประเทศบังกลาเทศ อินเดีย และศรีลังกา ระหว่างวันที่ 19 — 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างไทยกับเอเชียใต้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยได้พบกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนของทั้ง 3 ประเทศ เพื่อสร้างโอกาสให้นักธุรกิจไทยขยายการค้า และการลงทุนสู่เอเชียใต้ พร้อมผลักดันการเจรจาการค้าเสรีในกลุ่มบิมสเทคให้บรรลุผลสำเร็จภายในปี 2554
การเยือนบังกลาเทศซึ่งเป็นประเทศแรกได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บังกลาเทศ (นาย Muhammad Faruk Khan) และได้ประสบความสำเร็จในการตั้งเป้าหมายการค้าร่วมกันเป็น 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2554 ซึ่งบังกลาเทศรับจะเร่งพิจารณาแก้ไข ปัญหาอุปสรรคการค้าที่มีอยู่ และรื้อฟื้นการประชุม JTC ที่ว่างเว้นมานาน 21 ปี โดยจะจัดร่วมกับ Thailand- Bangladesh Business Summit Forum และยังได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมบังกลาเทศ (นาย Alhaj Syed Abul Hossain) ซึ่งได้เชิญชวนบริษัทก่อสร้างไทยมาลงทุนและร่วมโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม โดยเฉพาะทางหลวงระยะทาง 300 กิโลเมตรจากธากาถึงจิตตะกอง และท่าเรือน้ำลึกที่จิตตะกอง
ส่วนการเยือนอินเดีย ได้หารือกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการขนส่งทางถนนและทางหลวงอินเดีย (นาย Ratanjit P.N. Singh) เพื่อให้อินเดียสนับสนุน และอำนวยความสะดวกการเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจไทยในสาขาก่อสร้าง ซึ่งอินเดียเองเห็นว่าไทยมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ เห็นจากการก่อสร้างในอินเดียและโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ ในตะวันออกกลาง พร้อมกันนี้ ได้หยิบยกปัญหาที่ผู้ประกอบการไทยด้านการก่อสร้างประสบอยู่ ได้แก่ การขอขยายระยะเวลาสัญญาโครงการ เนื่องจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า และการขอความชัดเจนของกฎระเบียบการขอวีซ่าทำงานที่ปฏิบัติตามได้ยากส่วนการพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นาย Bijoy Krishna Handique) ซึ่งมีระยะทางไม่ห่างไกลจากประเทศไทยมากนัก มีเพียงประเทศพม่าคั่นกลาง และเป็นภูมิภาคที่รัฐบาลอินเดียทุ่มงบประมาณกว่าหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เติบโตทัดเทียมกับส่วนอื่นของประเทศ และปรับปรุงโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน
โดยไทยได้ย้ำถึงเรื่องการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมทางบก ไทย — พม่า — อินเดีย ผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย เรื่องการเปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ — กูวาฮาตี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างไทยและอินเดีย อีกทั้งได้ขอให้ร่วมมือสนับสนุนให้ภาคเอกชนในสาขาก่อสร้างของไทยซึ่งมีศักยภาพสูงได้เข้าไปรับเหมางานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ซึ่งเป็นเขตพัฒนาพิเศษด้วย ส่วนการหารือกับนักธุรกิจรายใหญ่ในภาคก่อสร้างของอินเดีย ต่างมีความเห็นตรงกันว่า โอกาสที่ภาคเอกชนทั้งสองประเทศจะผนึกกำลัง ลงทุนร่วมกันเพื่อพัฒนาการก่อสร้างในอินเดียให้มีความรุดหน้า ยังมีอีกมาก เพื่อรองรับการขยายตัวของประชากร และการขยายตัวของเมืองธุรกิจในรัฐต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างถนน สะพาน ทางด่วน และที่อยู่อาศัย
ประเทศสุดท้ายของการเดินทางเยือน คือ ศรีลังกา ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ศรีลังกา (นาย Richad Bathiudeen) โดยร่วมกันตั้งเป้าหมายการค้าในปี 2011 ให้มากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ฝ่ายไทยยังได้เสนอให้มีการจัดการประชุม Sub-Committee on Trade Related Matters ครั้งที่ 2 ที่ได้ว่างเว้นมาเป็นเวลา 6 ปี ซึ่งไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เพื่อหารือแนวทางขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการค้าที่มีอยู่ด้วย ทั้งนี้ เห็นควรให้จัดประชุมดังกล่าว พร้อมกับการประชุม Thailand-Sri Lanka Business Summit Forum
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630