ไทยจับมือแคนาดา กระตุ้นการลงทุนน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

‘อลงกรณ์’ หารือแคนาดา สานความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-มณฑลอัลเบอร์ตา การค้าและการลงทุนในมณฑล อัลเบอร์ตา โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และเทคโนโลยีการสื่อสาร

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการหารือทวิภาคีกับ นาง Iris Evans รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการต่างประเทศ มณฑลอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา นาย Paul Whittaker รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการต่างประเทศ มณฑลอัลเบอร์ตา และนาย Rahul Sharma ผู้อำนวยการเอเชียใต้/เอเชียตะวันออกฉียงใต้ กระทรวงกิจการต่างประเทศ มณฑลอัลเบอร์ตา โดยฝ่ายแคนาดาสนใจจะขยายโอกาสด้านการค้ากับไทย เพราะไทยเป็นแหล่งนำเข้าอันดับที่ ๑๕ ของมณฑลอัลเบอร์ตา โดยในช่วง ๑๐ เดือนแรกของปี ๒๐๑๐ มณฑลอัลเบอร์ตานำเข้าจากไทยมูลค่า ๗๔.๐๑ ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ ๐.๔๘ ของการนำเข้าทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๐.๗๘ จากระยะเวลาเดียวกันของปี ๒๐๐๙

ทั้งนี้ แคนาดาต้องการให้ไทยขยายการลงทุนในกิจการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในมณฑลอัลเบอร์ตา ซึ่งเป็นมณฑลที่มีทรัพยากรธรรมชาติ เช่น oil sand ในปริมาณมาก ขณะเดียวกันมณฑลอัลเบอร์ตามีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับสูงในธุรกิจพลังงาน และเทคโนโลยีการสื่อสาร ฝ่ายไทยจึงได้เสนอให้มีความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนในกิจการต่างๆ ดังกล่าว

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการค้าที่เสรีและเป็นธรรมกับทุกประเทศ รวมทั้งมณฑลอัลเบอร์ตา ของแคนาดา โดยการค้าระหว่างไทยกับมณฑลอัลเบอร์ตานั้น เป็นการค้าที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ซึ่งไทยมีความต้องการนำเข้าในสินค้าน้ำมันและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับสูงด้านพลังงานที่เป็นจุดเด่นของมณฑล อัลเบอร์ตา ในขณะที่มณฑลอัลเบอร์ตามีความต้องการนำเข้าสินค้าอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ในบ้านและครัวเรือน ซึ่งไทยมีศักยภาพในการผลิต ซึ่งคาดว่าในอนาคตการค้าระหว่างไทยกับมณฑลอัลเบอร์ตาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับการค้าการลงทุนด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการหาแหล่งพลังงานสำรองเป็นอย่างมาก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ปตท. สผ. ของไทยได้เข้าไปลงทุนในกิจการ Oil sand ในมณฑลอัลเบอร์ตา โดยคาดว่าน้ำมันที่ได้จากการกลั่น Oil sand จะเป็นแหล่งน้ำมันสำรองที่สำคัญของไทย รวมทั้งมณฑลอัลเบอร์ตามีเทคโนโลยีระดับสูงด้านธุรกิจพลังงาน และมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ซึ่งหากมีความร่วมมือในภาคธุรกิจนี้ ไทยจะสามารถใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณ์ในการพัฒนาธุรกิจพลังงานของไทยได้” นายอลงกรณ์ กล่าว

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเสริมว่า หากไทยและมลฑลอัลเบอร์ตาร่วมมือกันด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร จะเป็นประโยชน์มาก เนื่องจากมณฑลอัลเบอร์ตามีบริษัทชั้นนำต่างๆ ทั้งทางด้าน Bioinformatics ด้าน Digital Content ด้าน e-learning ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่มีความเข้มแข็ง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย ที่ต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภูมิภาคนี้ ดังนั้นความร่วมมือ จากมลฑลอัลเบอร์ตาจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการผลักดันนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลไทยให้เป็นรูปธรรม ซึ่งแคนาดายินดีให้ความร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่

มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย-แคนาดา ในปี ๒๐๑๐ (ม.ค.—พ.ย.) คิดเป็น ๒.๑ พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมูลค่าการส่งออกจากไทยไปแคนาดาคิดเป็น ๑.๓ พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยนำเข้าจากแคนาดามูลค่า ๘๔๕.๓๘ ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยเป็นฝ่ายเกินดุลคิดเป็น ๔๕๓.๗ ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ กุ้งสดแช่เย็น/แช่แข็ง ข้าว ขณะที่ไทยนำเข้า เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ปุ๋ยและยาจำกัดศัตรูพืชและสัตว์ จากแคนาดา

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630