ไทย-รัสเซีย วาดฝันดันการค้าโลก กระทรวงพาณิชย์ เล็งเห็นว่าการค้าระหว่างไทยและรัสเซียเติบโตอย่างต่อเนื่อง และในปี 2553 การค้าระหว่างไทย — รัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมีมูลค่าทั้งสิ้น 3,996 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้นจากปี 2552 ถึงร้อยละ 90 กระทรวงพาณิชย์ จึงได้เสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะอนุกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 โดยมีนางพรทิวา นาคาศัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย นายอีกอร์ มานีลอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซียเป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายรัสเซีย และมีผู้แทนภาครัฐและเอกชนของทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ในด้านการค้าสองฝ่าย รัสเซียถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในตลาดกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth Independent States: CIS) โดยมีมูลค่าการค้าเฉลี่ยต่อปีประมาณ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะตั้งเป้าหมายทางการค้าให้มีมูลค่าทางการค้าระหว่างกันภายในปี 2558เป็น 2 เท่าหรือประมาณ 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในการประชุมครั้งนี้ ไทยได้ใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ผลักดันเพื่อเปิดตลาดสินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น การส่งออกสินค้าไก่สดแช่แข็ง ไก่แปรรูปและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ โดยเร่งรัดให้ฝ่ายรัสเซียส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจรับรองโรงงานสินค้าไก่แปรรูปของไทย และการจัดทำ MOU ความร่วมมือทางวิชาการด้านการควบคุมด้านความปลอดภัยสินค้าประมง ในด้านการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นควรจะใช้ประโยชน์ในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ซึ่งไทยเป็นสมาชิกของอาเซียนที่กำลังจะรวมตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างสมบูรณ์ในปี 2015
ในขณะที่รัสเซียได้รวมตัวเป็นสหภาพศุลกากร กับเบลารุสและคาซัคสถานแล้ว โดยไทยได้เสนอให้รัสเซียเข้ามาใช้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทยที่สนับสนุนการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคและสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งทางด้านภาษีและที่มิใช่ภาษี เพื่อส่งเสริมการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ไทยและรัสเซียจะร่วมมือในด้านต่างๆ อาทิ ไทยมีโครงการฝึกอบรมให้กับผู้ประกอบการค้าและพนักงานขายอัญมณีของรัสเซีย ในด้านคุณภาพพลอยสี และการส่งเสริมการขายอัญมณีในตลาดรัสเซีย การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ศุลกากรและผู้ประกอบการไทยด้านกระบวนการศุลกากรของรัสเซีย การแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ประกอบการและกฎระเบียบด้านการลงทุนระหว่างกัน การแลกเปลี่ยนสถิติการค้าและการลงทุน เป็นต้น ทั้งสองฝ่ายเห็นความสำคัญของการอำนวยความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการระหว่างกัน จึงเห็นชอบที่จะสนับสนุนให้มีความร่วมมือระหว่างธนาคารของทั้งสองฝ่ายในด้านการเปิดบัญชีชำระเงินเป็นสกุลเงินบาทและเงินรูเบิล ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการธนาคาร เนื่องจากรัสเซียเป็นตลาดที่มีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูง ในปี 2553 มีนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากเป็นอันดับ 4 ของสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยคิดเป็นจำนวนมากกว่า 600,000 คน ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงเห็นชอบร่วมกันที่จะสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวระหว่างกัน และจัดอบรมภาษารัสเซียให้แก่มัคคุเทศก์ไทย
อนึ่ง สืบเนื่องการเจรจาอย่างต่อเนื่องของนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทำให้รัสเซียได้ตกลงที่จะชำระหนี้ข้าวของไทยเป็นเงินสดจำนวน 36.44 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการประชุมครั้งนี้ รัสเซียแจ้งว่ากระทรวงการคลังของรัสเซียได้รับอนุมัติงบประมาณเรียบร้อยแล้วและพร้อมที่จะชำระเงินหนี้ข้าวให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630