นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่อง “กองทุน FTA กระทรวงพาณิชย์”

ข่าวทั่วไป Monday May 9, 2011 15:29 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่อง “กองทุน FTA กระทรวงพาณิชย์” เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2554 ณ ห้อง Plenary Hall 3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โซน A กรุงเทพฯ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ดิฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเปิดการสัมมนาแสดงผลการดำเนินงานกองทุน FTA กระทรวงพาณิชย์ ในวันนี้ และขอขอบคุณกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ร่วมบูรณาการออกบูธของหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประสานให้ความร่วมมือในการจัดการสัมมนาในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคราชการและภาคเอกชนที่สามารถบูรณาการร่วมกัน แสดงขีดความสามารถและศักยภาพในการทำงานจัดการสัมมนาครั้งนี้ได้อย่างน่าชื่นชม

จากการที่ประเทศไทยได้ทำความตกลงการค้าเสรี หรือที่เรียกว่า FTA กับประเทศคู่ค้าสำคัญต่างๆ เป็นจำนวน 10 กรอบความตกลงแล้ว ได้แก่ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน AFTA ความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย ไทย-ออสเตรเลีย ไทย-นิวซีแลนด์ ไทย-ญี่ปุ่น อาเซียน-จีน อาเซียน-อินเดีย อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลี อาเซียน-ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ รัฐบาลได้ตระหนักว่า ในเรื่องของการค้าสินค้า ผลจากการเปิดเสรีทางการค้า ทำให้ต้องลดภาษีศุลกากร หรือภาษีนำเข้าเหลือร้อยละศูนย์ เกือบทุกรายการของพิกัดศุลกากร ในระยะเวลาที่กำหนด เช่น ลดทันทีเหลือศูนย์ หรือ 5 ปี หรือ 10 ปี บางกลุ่มสินค้า ประเทศไทยก็ได้ประโยชน์ มีการส่งออกเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ที่สำคัญ ได้แก่ รถปิกอัพ รถยนต์และชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ เครื่องรับโทรทัศน์สี พลาสติก อัญมณี อาหารทะเลกระป๋อง ปลาปรุงแต่ง เนื้อไก่ปรุงแต่ง แต่ก็มีหลายกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ นมและผลิตภัณฑ์ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์ประมง ยา หินอ่อนและหินแกรนิต ไหมและขนสัตว์ เป็นต้น รัฐบาลจึงได้กำหนดให้มีมาตรการเยียวยา หรือกองทุน FTA ขึ้น เพื่อเป็นการเยียวยาในเบื้องต้น และให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเกษตรกร หรือกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับหรือคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นรากหญ้าของสังคมไทย ให้สามารถปรับตัว และสามารถแข่งขันกับสินค้าต่างประเทศไทย นอกจากนั้น กองทุน FTA ได้ขยายขอบเขตความช่วยเหลือไปยังผู้ที่ประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจากการเปิดเสรี FTA เพื่อสนับสนุนให้สินค้าและบริการของไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อีกด้วย

กระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการบริหารจัดการกองทุน FTA มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 จนถึงปัจจุบันย่างเข้าปีที่ 5 ในปี พ.ศ.2554 นี้ กองทุน FTA ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ขอรับความช่วยเหลือแล้วจำนวน 27 โครงการ เป็นวงเงินกว่า 215 ล้านบาท ซึ่งโครงการต่างๆ ที่กองทุนฯ ได้ให้ความช่วยเหลือไปแล้วนั้น มีทั้งภาคเกษตร เช่น โคเนื้อ โคนม ชาสมุนไพร ส้ม ลิ้นจี่ และสับปะรด ภาคอุตสาหกรรม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ปลาป่น และยาแผนปัจจุบัน และภาคบริการ เช่น บริการโลจิสติกส์ บริการท่องเที่ยว และบริการอาหาร ขณะนี้ยังมีงบประมาณที่จะให้ความช่วยหลือในปี 2554 ได้อีกราว 60 ล้านบาท จึงขอให้ผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ผลิตสินค้าทั้งหลาย ได้เร่งเสนอโครงการและกิจกรรมเข้ามาเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ นี้ ให้มากขึ้น

เป็นที่ทราบดีว่า หลายประเทศต่างประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะในปีนี้มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นกับประเทศผู้นำระดับโลกหลายประเทศ ดังนั้น ประเทศต่างๆ ทั่วโลก จึงมีความต้องการสินค้าอุปโภค บริโภค ตลอดจนสินค้ากึ่งวัตถุดิบ และสินค้าบริการเพิ่มมากขึ้น เพื่อเร่งฟื้นฟูประเทศให้สามารถดำรงอยู่ได้ ขณะเดียวกันอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซียน มาเลเซีย ไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ บรูไน พม่า ลาว กัมพูชา และเวียนนาม จะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (ASEAN ECONOMIC COMMUNITY) ซึ่งมีเป้าหมายให้อาเซียนเป็นหนึ่งเดียวกันในปี พ.ศ.2558 กระทรวงพาณิชย์ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการค้าและการส่งออก จึงต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ประกอบการและผู้ส่งออกทั้งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ตลอดจนร่วมกันดูแลคนในภาคเกษตรกรรมของเราให้มีความเข้มแข็ง ได้รับการพัฒนาศักยภาพการผลิตและคุณภาพของสินค้าอย่างครบวงจร และให้มีการกินดีอยู่ดี และดำรงชีวิตในอาชีพของตนได้อย่างยั่งยืน

การสัมมนาในวันนี้ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และเป็นโอกาสที่ดีของกองทุน FTA ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานออกสู่สาธารณะให้ทราบในวงกว้าง เพื่อให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆ ได้เข้ามารับการเยียวยา และได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงพาณิชย์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่ายินดี ที่ได้รับทราบว่าหลายกลุ่ม เกษตรกร สหกรณ์ องค์กรต่างๆ และผู้ประกอบการได้ให้ความสนใจเข้าร่วมสัมมนาเป็นจำนวนมาก

ในโอกาสนี้ ดิฉันขอเชิญชวนกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการ SMEs สมาคมและผู้ผลิต ผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า หรือจะใช้สิทธิประโยชน์จากการเจรจาเปิดเสรี เข้ามาติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากกองทุน FTA หรือติดต่อขอรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของกรมการค้าต่างประเทศพร้อมให้คำปรึกษา และความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ ดิฉันขอถือโอกาสขอบคุณวิทยากร หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการที่เข้าร่วมสัมมนา ที่ได้ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งจนทำให้การสัมมนาและจัดนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานของกองทุน FTA ในวันนี้บรรลุความสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย

บัดนี้ ได้เวลาอันสมควรแล้ว ดิฉันขอเปิดการสัมมนาแสดงผลงานการดำเนินการของกองทุน FTA กระทรวงพาณิชย์ ขอบคุณค่ะ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ