ไทยหารือพม่า เร่งส่งเสริมการค้าชายแดนสองฝ่าย

ข่าวทั่วไป Tuesday May 17, 2011 14:03 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 18 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ได้หารือกับนายเต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่พม่า โดยในโอกาสนี้ ตนในฐานะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของไทยได้เข้าร่วมประชุมหารือ ในเรื่องเศรษฐกิจการค้าการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ขอบคุณพม่าที่ทบทวนมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าจากไทยจำนวน 15 รายการ โดยทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนและส่งเสริมการค้าชายแดน โดยไม่ให้ขัดต่อผลประโยชน์ของอีกฝ่ายหนึ่ง

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ไทยได้ยกปัญหาการปิดด่านพรมแดนระหว่างไทยกับพม่าที่จุดผ่านแดนถาวรเมียวดี ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรแม่สอด จังหวัดตาก ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฏาคม 2553 ซึ่งเป็นเวลามากกว่า 9 เดือนแล้วแต่ยังไม่มีท่าทีใดๆ แต่ฝ่ายพม่าจะนำไปพิจารณา ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความสงบภายในของพม่าด้วย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาชนกลุ่มน้อย

สำหรับโครงการ Mega-project ทวาย ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่เมืองทวายของพม่า โดยบริษัทก่อสร้างของไทยได้รับสัมปทานการก่อสร้างจากรัฐบาลพม่า ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลไทยเพื่อให้บริษัทไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ การก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๕๖ ท่าเรือทวายเป็นท่าเรือน้ำลึกที่สามารถรองรับเรือน้ำหนักถึง 3 แสนตัน และสามารถเชื่อมโยงตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ มาทางมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน โครงการดังกล่าวยังนับได้ว่าเป็นความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องของอาเซียนที่จะทำให้เกิดการแบ่งการผลิตภายในภูมิภาคโดยใช้ประโยชน์จากการเป็นฐานการผลิตร่วมของ AEC “การเร่งรัดการเปิดเส้นทางการค้าใหม่และการพัฒนาการค้าตามแนวชายแดนไทย-พม่า เป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับไทยในด้านการท่องเที่ยว การประมง และโลจิสติกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดด่านสิงขร ซึ่งจะเชื่อมโยงทะเลอันดามันจากเมืองมะริดไปยังอ่าวไทย โดยผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และท่าเรือระนอง ซึ่งจะส่งผลให้การค้าระหว่างไทยกับพม่าขยายตัว การดำเนินการที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้เป็นผลจากการพบปะหารือกับพลจัตวาอ่อง ตุน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของพม่าในช่วงการประชุม JTC ไทย-พม่า ครั้งที่ 5 เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้นำคณะเดินทางไปยังด่านสิงขร เพื่อสำรวจและพิจารณาถึงความพร้อมที่จะเปิดเป็นด่านถาวร”นายอลงกรณ์ กล่าว

ในปี 2553 ไทยเป็นคู่ค้าลำดับที่ 1 ของพม่า ในขณะที่พม่า เป็นคู่ค้าอันดับที่ 19 ของไทยในโลก และอันดับที่ 6 ของไทยในกลุ่มอาเซียน รองจากมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยมีมูลค่าการค้ารวม 4,886.82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 1.2 ของมูลค่าการค้ารวมทั้งหมดของไทย จำแนกเป็นมูลค่าการส่งออก 2,072.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าการนำเข้า 2,813.87 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไทยเป็นฝ่ายเสียดุลการค้าพม่า 740.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการค้าสองฝ่ายเป็นการค้าชายแดนถึงร้อยละ 88.6 ของมูลค่าการค้าทั้งหมด

สำหรับสินค้าส่งออกไปพม่าที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องดื่ม รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ ปูนซิเมนต์ เคมีภัณฑ์ ผ้าผืน เม็ดพลาสติก เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ เป็นต้น

สินค้านำเข้าจากพม่าที่สำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค ไม้ซุงและไม้แปรรูป ผัก ผลไม้และของปรุงแต่ง สินแร่โลหะอื่นๆ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป กล้อง เลนส์และอุปกรณ์การถ่ายรูป เครื่องใช้และเครื่องตกแต่งภายในบ้าน เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เป็นต้น

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ