นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้เปิดเผยถึงการเดินทางไปประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-GCC (Gulf Cooperation Councils) ครั้งที่ ๑ เมื่อกลางเดือนกรกฏาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ณ เมืองซาลาล่าห์ รัฐสุลต่านโอมาน ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโสของประเทศสมาชิกอาเซียนกับประเทศสมาชิกกลุ่ม GCC ประกอบด้วยประเทศบาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
นางศรีรัตน์ กล่าวว่าที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับแนวความคิดที่จะจัดทำกรอบการดำเนินการด้านเศรษฐกิจ และความร่วมมือด้านเทคนิคและการลงทุน (Framework Arrangement on Economic, Technical and Investment Cooperation) ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันว่าจะนำเสนอให้ระดับรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการเจรจาจัดทำกรอบความร่วมมือดังกล่าวต่อไป ซึ่งรวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement) ระหว่างกันในอนาคต
นางศรีรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับโอกาสทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชน ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าน่าจะเป็นในสาขาการเชื่อมโยง ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมขนส่ง และการสื่อสาร การก่อสร้างและภาคบริการสาขาอื่นๆ การบ่มเพาะสนับสนุน SMEs ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ พาณิชย์อิเลคทรอนิกส์และการท่องเที่ยว ซึ่งที่ประชุมได้เน้นย้ำความสำคัญของการสร้างเครือข่ายติดต่อระหว่างสภาหอการค้าของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ ประเทศโอมานมีกำหนดจัดการประชุม GCC-ASEAN Business Forum ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ซึ่งภาคเอกชนไทยและอาเซียนน่าที่จะพิจารณาเข้าร่วมงานครั้งนี้ เพื่อสร้างเครือข่ายและเจาะตลาดในกลุ่ม GCC ส่วนในด้านการบริการการเงินและธนาคาร ฝ่าย GCC ได้เสนอให้มีความร่วมมือกัน โดยฝ่ายอาเซียนรับที่จะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการเงินและธนาคารพิจารณาต่อไป “กลุ่ม GCC อาจจะยังเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่มีการค้ากับประเทศไทยไม่มากนัก โดยในปี ๒๕๕๓ มีมูลค่าการค้าร่วม 25,724 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกของไทยไปยัง GCC จำนวน๖,๒๐๐ ล้านเหรียญฯ และการนำเข้า จำนวน ๑๙.๕๒๕ ล้านเหรียญฯ โดยไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าประมาณ ๑๓,๓๒๕ ล้านเหรียญฯ เนื่องจากสินค้าที่ไทยนำเข้าจากกลุ่ม GCC เกือบทั้งหมดเป็นสินค้ากลุ่มพลังงาน เช่น น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูปและเชื้อเพลิงในขณะที่ไทยส่งออกสินค้าประเภทยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องปรับอากาศ เคมีภัณฑ์ ตู้เย็นและส่วนประกอบ อัญมณี ข้าว อาหารสำเร็จรูป ฯลฯ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากมีการจัดทำ FTA กับ GCC ไทยจะได้รับประโยชน์ในด้านธุรกิจบริการ เช่น การก่อสร้าง ร้านอาหาร โรงแรม สปา ฯลฯ รวมทั้งการเคลื่อนย้ายแรงงาน”นางศรีรัตน์ กล่าว
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630