กรมเจรจาฯ จัดประชุมโต๊ะกลมระดมสมองมองอินเดียผ่านสายตาภาครัฐ เอกชน และนักวิชาการ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดประชุมโต๊ะกลมเรื่อง Strategic Roundtable on New Approaches towards Trade and Investment with India ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ เพื่อระดมสมองเสริมสร้าง แนวทางและแสวงหากลไกใหม่ๆ กระชับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับอินเดีย

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จะจัดประชุมโต๊ะกลม Strategic Roundtable on New Approaches towards Trade and Investment with India ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ โดยจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนระดับสูงภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ ที่มีความรู้และประสบการณ์ในตลาดอินเดีย ร่วมหารือระดมสมอง แลกเปลี่ยนมุมมองของการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานของภาครัฐบาล และภาคเอกชน เพื่อกำหนดแผนดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความร่วมมือที่กว้างขวางยิ่งขึ้นระหว่างไทยและอินเดีย โดยใช้เครือข่ายภาครัฐและเอกชนของไทยที่มีในอินเดีย ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น

นางศรีรัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันอินเดียมีความเด่นชัดในทุกด้าน โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อมโยงเอเชียและโลกโดยรวม และจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น จากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดอินเดีย ว่ามีศักยภาพรองรับการขยายความสัมพันธ์ในทุกด้าน โดยเฉพาะการค้า ที่เป็นแหล่งส่งออกสินค้าและบริการ และขยายการลงทุนของไทย โดยไทยและอินเดียได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาการค้าเสรี (FTA) เพื่อเปิดเสรีการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุนระหว่างกันมาตั้งแต่ปี 2547 ได้ยกเลิกภาษีสินค้า Early Harvest Scheme จำนวน 82 รายการ ในกรอบ FTA ไทย-อินเดีย ตั้งแต่ปี 2549 และได้เริ่มลดภาษีสินค้าภายใต้กรอบ FTA อาเซียน-อินเดีย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

ทั้งนี้ การเจรจาจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับอินเดีย เป็นเพียงกลไกที่ภาครัฐจัดทำขึ้น เพื่อช่วยให้ภาคเอกชนได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ไทยได้จาก FTA อันจะช่วยสร้างความได้เปรียบด้านราคาต่อคู่แข่งอื่นของไทย โดยเฉพาะจากประเทศอาเซียนด้วยกันเอง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการส่งออกของไทยเพื่อป้อนอุตสาหกรรมต่างๆ ในอินเดีย แต่ก็ยังคงมีปัจจัยสนับสนุนอื่น ที่จะช่วยส่งเสริมกิจกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองฝ่ายให้มากขึ้น “ปัจจุบันมีเพียงการเปิดเสรีการค้าสินค้าเท่านั้นที่มีผลบังคับใช้แล้ว ยังคงเหลือในส่วนของการเปิดเสรีการค้าบริการ และการลงทุน ที่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ และภาครัฐยังขาดข้อมูลในเชิงลึก โดยเฉพาะความรู้ ความเข้าใจในกฎข้อบังคับด้านการลงทุนและการค้าบริการ ซึ่งภาคเอกชนที่เป็นผู้ลงมือปฏิบัติจริง จะมีส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมข้อมูลให้แก่ภาครัฐได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงข้อมูลปัญหา หรืออุปสรรคทางการค้า การลงทุนที่ยังมีอยู่ ที่ส่งผลต่อการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ เพื่อจะได้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหา ดังนั้นการประชุมครั้งนี้ จะช่วยวางยุทธศาสตร์การดำเนินการ เพื่อให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง” นางศรีรัตน์ กล่าว

ปัจจุบัน อินเดียเป็นตลาดการค้าที่สำคัญที่สุดของไทยในเอเชียใต้ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 17 และเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 11 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 4,161.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 29.07% เมื่อเทียบกับช่วงดียวกันของปีก่อนหน้า ไทยส่งออกไปอินเดียมูลค่า 2,621.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 23.10% และไทยนำเข้าจากอินเดียมูลค่า 1,540.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 40.7%

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630