ผู้นำเอเปคย้ำหลักการค้าเสรีคู่กับการเติบโตสีเขียว มิตรประเทศยื่นมือช่วยไทยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำลด

ข่าวทั่วไป Thursday December 15, 2011 15:48 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยผู้นำเอเปคแสดงจุดยืนยึดหลักการค้าเสรี พร้อมผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เร่งเปิดเสรีสินค้าและบริการ ลดภาษีระหว่างประเทศสมาชิก กระตุ้นการสร้างนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมศักยภาพเอสเอ็มอี ขณะที่การหารือระดับทวิภาคี ประเทศคู่ค้าไทยต่างแสดงเจตนารมณ์ให้ความช่วยเหลือในการเยียวยาประเทศ และเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการประชุมเอเปคที่เพิ่งเสร็จสิ้นลง ว่าการประชุมดังกล่าวเป็นการสรุปผลการดำเนินงานประจำปีของผู้นำทั้ง 21 ประเทศสมาชิก โดยครั้งนี้มีสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ และนำเสนอเรื่องการเติบโตสีเขียว (Green Growth) หรือความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ซึ่งสาระสำคัญประกอบด้วยการเปิดเสรีสินค้าและบริการ (Environmental goods and services: EGS) การลดภาษีระหว่างประเทศสมาชิกในกลุ่ม การสร้างนวัตกรรมที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการส่งเสริมศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในด้านห่วงโซ่การผลิตของโลก เพื่อให้เขตเศรษฐกิจเอเปคได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการร่วมกันทั้ง 21 ประเทศ

ขณะเดียวกันกลุ่มความตกลงภาคพื้นแปซิฟิก(Trans-Pacific Partnership Trade Agreement : TPP) ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของประเทศสมาชิกเอเปค 9 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย บรูไน ชิลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม ได้แถลงการณ์ความคืบหน้าในการวางกรอบการเจรจา FTA เพื่อทำความตกลงที่เป็นมาตรฐานสูง หลังได้ดำเนินการมาปีเศษมานำเสนอในที่ประชุม ทั้งนี้มีประเทศสมาชิกอีก 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น แคนาดา และเม็กซิโก ได้แสดงเจตนาในการเข้าร่วมกลุ่ม TPP ด้วย

ส่วนกรณีความพยายามในการกีดกันการค้านั้น ทางผู้นำของเอเปคได้ตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลให้เกิดการกีดกันทางการค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้นำของประเทศสมาชิกเอเปคยังคงยืนยันในหลักการค้าเสรี ขณะที่สมาชิกในกลุ่มประเทศอาเซียนมีการหารือกันในมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี โดยเตรียมแก้ไขมาตรการป้องกันการกีดกันทางการค้าให้มีความรัดกุมและชัดเจนมากขึ้น

นางศรีรัตน์ ยังระบุว่าประเทศสมาชิกเอเปคได้แสดงความเห็นใจและยืนยันให้ความร่วมมือช่วยเหลือปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย ว่าจะสามารถเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ญี่ปุ่นและภาคเอกชนของสหรัฐฯ ได้ยืนยันจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตต่อไป ส่วนจีนก็แสดงเจตนารมณ์ว่าจะให้ความร่วมมือช่วยเหลือไทยอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ จากการหารือในระดับทวิภาคีกับหลายประเทศมีแนวโน้มที่ส่งผลดีต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก

“นอกจากนี้ ในความร่วมมือของกลุ่มเอเปค ที่มีการกำหนดกรอบป้องกันภัยทางธรรมชาติไว้ ทำให้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างประเทศ อาทิ สหรัฐฯ ที่เคยประสบปัญหาภัยพิบัติจากพายุแคทลีน่า หรือออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน ซึ่งประเทศไทยสามารถนำองค์ความรู้และแนวทางในการฟื้นฟูประเทศมาปรับใช้ในการแก้ไขและป้องกันการเกิดปัญหาต่อไปได้” นางศรีรัตน์ กล่าว

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ