‘บุญทรง’ จับมือรัฐมนตรีการค้าอินเดีย ลงนามในพิธีสารรองรับผลการเจรจาในโครงการสินค้าเร่งลดภาษีส่วนแรก ภายใต้ FTA ไทย-อินเดีย เปิดให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์ในส่วนของการค้าผ่านประเทศที่สามได้ และเพิ่มสินค้าที่จะลดภาษีเป็น 0% อีกหนึ่งรายการ รวมเป็น 83 รายการ ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่ง ก่อนความตกลง FTA ไทย-อินเดีย ฉบับสมบูรณ์ เพื่อเปิดเสรีการค้าสินค้า บริการ และลงทุน จะสรุปผลในเดือนมิถุนายน 2555 พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะร่วมมือกันส่งเสริมให้การค้าสองฝ่ายขยายตัวอีก 1 เท่า ในปี 2557
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมเดินทางไปกับคณะของนายกรัฐมนตรี เยือนกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ในระหว่างวันที่ 24-26 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อร่วมงานเฉลิมฉลองวันชาติอินเดีย ซึ่งการเยือนครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอินเดีย ในฐานะหุ้นส่วนเศรษฐกิจทั้งระดับทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี ให้รุดหน้า
โดยเมื่อวันที่ 25 มกราคม รัฐมนตรีพาณิชย์สองฝ่ายได้ลงนามในพิธีสารฉบับที่สองเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งเขตการค้าเสรี ไทย-อินเดีย โดยพิธีสารดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2555 ซึ่งจะส่งผลให้ภาษีนำเข้าสินค้าตู้เย็น 2 ประตู ของไทยและอินเดีย ลดเหลือ 0% และเปิดช่องให้ผู้ประกอบการ สามารถซื้อขายผ่านประเทศที่สามและยังขอรับสิทธิลดภาษีได้ นับเป็นความสำเร็จอีกก้าว ก่อนที่การเจรจา FTA ไทย-อินเดีย ฉบับสมบูรณ์ที่ครอบคลุมเรื่องการเปิดเสรีสินค้า บริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ จะสรุปผลภายในเดือนมิถุนายน 2555 ตามที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายประกาศร่วมกัน ซึ่งความตกลง FTA จะช่วยเพิ่มโอกาสและอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน สร้างเสริมความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ และเป็นกลไกที่จะช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจด้วย
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การค้ามีส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์สองฝ่ายให้แน่นแฟ้น แม้มูลค่าการค้ารวมในปีที่ผ่านมา เติบโตสูงสุดถึง 8.19 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 23.29 แต่หากเทียบกับการค้ารวมทั้งหมดของไทย คิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.7% เท่านั้น ซึ่งนับว่ายังน้อยมาก เมื่อเทียบกับศักยภาพของสองประเทศ สำหรับอินเดียเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีอัตราเติบโตของเศรษฐกิจสูงถึง 7.8% ในปี 2554 นับว่าเป็นประเทศที่กำลังผันตัวเองขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ของเอเชียอีกประเทศหนึ่ง และเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง รัฐบาลไทยและอินเดียได้ร่วมกันกำหนดเป้าหมายการค้าระหว่างกัน ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวภายในปี 2557 และได้วางแนวทางร่วมกันที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย
ภาคเอกชนไทยและอินเดียมีความกระตือรือร้นที่จะทำการค้าและการลงทุนร่วมกันมากยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้การเจรจา FTA สองฝ่ายบรรลุผลโดยเร็ว นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น ฝ่ายไทยได้เสนอให้มีการจัดตั้ง Trade and Investment Forum ซึ่งจะเป็นเวทีการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กับภาคเอกชน 3 สถาบันหลักของไทย คือ สภาอุตสาหกรรมฯ สภาหอการค้าฯ และสมาคมธนาคารไทย ร่วมกับภาครัฐและเอกชนฝ่ายอินเดีย เพื่อผลักดันให้การค้าและการลงทุนขยายตัวต่อไปอย่างยั่งยืน
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630