สวีเดนเล็งขยายการลงทุนเพิ่มในไทย

‘พาณิชย์’ เผยไทยยังเนื้อหอม ล่าสุดสวีเดนย้ายฐานผลิตรถบรรทุกวอลโว่จากจีนมาประเทศไทย ขณะที่อิเล็กทรอลักซ์ ให้ไทยเป็นฐานผลิตตู้เย็น พร้อมสนับสนุนการเจรจาจัดทา FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (EU) หวังเพิ่มประสิทธิภาพการค้าระหว่างกัน

นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ Mr. Gunnar Oom ผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรสวีเดน ได้เข้าพบหารือ ณ กระทรวงพาณิชย์ โดยมีการหารือความร่วมมือประเด็นสาคัญด้านการลงทุนของสวีเดนในประเทศไทย

ปัจจุบันสวีเดนมีแผนจะขยายการลงทุนในประเทศไทยอีกเป็นจานวนมาก โดยล่าสุด บริษัทวอลโว่ ได้ย้ายฐานการผลิตรถบรรทุกจากประเทศจีนเข้ามาในประเทศไทย เช่นเดียวกับบริษัท อิเล็กทรอลักซ์ ที่กาลังย้ายฐานการผลิตตู้เย็นเข้ามาในประเทศไทยเช่นกัน ทั้งบริษัทเอกชนสวีเดนรายอื่นมีแผนจะขยายการลงทุนในไทยอีกโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้แสดงความยินดีที่สวีเดนเลือกจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น และไทยพร้อมจะรับฟังปัญหาและข้อกังวลของบริษัทสวีเดนในส่วนที่เกี่ยวข้อง

Mr. Gunnar Oom กล่าวว่า สวีเดนมีแผนจะจัดทา“แผนปฏิบัติการร่วมไทย-สวีเดน (Joint Plan of Action)” กับประเทศไทยเพื่อส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือด้านการเมือง เศรษฐกิจ เกษตร ความมั่นคง เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม พลังงาน การท่องเที่ยวและการศึกษาระหว่างกัน และหวังว่าฝ่ายไทยจะให้ความร่วมมือกับสวีเดนในการจัดทาแผนปฏิบัติการร่วมดังกล่าว

นอกจากนั้นยังแสดงความเห็นว่าเพื่อขยายการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับสวีเดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ฝ่ายไทยควรมีการจัดทา FTA กับสหภาพยุโรป ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าฝ่ายไทยมีความยินดีที่จะหารือกับฝ่าย EU ในการจัดทา FTA แต่มีหลายประเด็นที่ฝ่ายไทยต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากนี้ฝ่ายไทยต้องปฏิบัติตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญก่อนที่จะสามารถดาเนินการใดๆต่อไปได้

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์แจ้งฝ่ายสวีเดนว่า ฝ่ายไทยทราบว่าขณะนี้สหภาพยุโรป อยู่ระหว่างการทบทวนการให้สิทธิ GSP กับประเทศต่างๆ โดยร่างระเบียบใหม่จะมีการตัดสิทธิฯ ประเทศที่ถูกจัดอันดับโดยธนาคารโลกให้อยู่ในกลุ่มที่มีรายได้ตั้งแต่ระดับ Upper-middle income ขึ้นไปรวมถึงประเทศไทยด้วย จึงอยากให้ EU ทบทวนเกณฑ์การตัดสิทธิ GSP ใหม่ ซึ่งผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ กล่าวฝ่ายไทยน่าจะจัดทา FTA กับสหภาพยุโรปมากกว่าเพื่อรักษาสิทธิเศษทางภาษีไว้ นอกจากนี้ FTA ยังครอบคลุมรายการสินค้ามากกว่าการให้สิทธิพิเศษ GSP รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันอีกด้วย

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630