ทบทวนผลงานครึ่งปี 2555 : รัฐมนตรีการค้าเอเปคพอใจความคืบหน้า ไม่ท้อเจรจาโดฮา

ข่าวทั่วไป Monday June 11, 2012 14:14 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังจากการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2555 ณ เมืองคาซาน สหพันธรัฐรัสเซีย ว่าในครึ่งปีที่ผ่านมา การดาเนินงานของเอเปคมีความคืบหน้าทุกด้าน แต่ยังต้องเร่งดาเนินการตามแผนงานในส่วนที่เหลือให้สาเร็จตามเป้าหมาย เพื่อที่จะสรุปผลและนาเสนอต่อที่ประชุมผู้นาเขตเศรษฐกิจเอเปค ซึ่งรัสเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนกันยายน ศกนี้ ณ เมืองวลาดิวอสตอค

นายบุญทรง กล่าวว่า ในปีนี้สหพันธรัฐรัสเซียซึ่งเป็นประธานเอเปค ได้กาหนดทิศทางการดาเนินการของเอเปคไว้ 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ (1) การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและการขยายการค้า รวมทั้งการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนในเอเชีย และแปซิฟิก (2) การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร (3) การสร้างห่วงโซ่อุปทาน (4) การสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม

การดาเนินการในเรื่องเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นการต่อยอดจากที่เอเปคได้ร่วมมือกันดาเนินการในปีที่ผ่านๆมา โดยเฉพาะเรื่องการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ที่ถือเป็นหัวใจสาคัญของเอเปคในการก้าวไปสู่การจัดทาความ ตกลงเขตการค้าเสรีในเอเชียแปซิฟิก (Free Trade Area of Asia and Pacific หรือ FTAAP) ตามเป้าหมายโบกอร์ในปี 2563 นั้น เอเปคได้ดาเนินการศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างต่อเนื่องในหลายด้าน ที่เรียกว่าเป็นประเด็นการค้าและการลงทุนในมิติใหม่ เพื่อเป็นการวางพื้นฐานไว้สาหรับ FTAAP ได้แก่ การส่งเสริมนโยบายนวัตกรรม การสนับสนุน SMEs ให้เข้าร่วมห่วงโซ่การผลิตของโลก และการอานวยความสะดวกห่วงโซ่อุปทานโลก และที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคครั้งนี้ก็ได้ให้ความเห็นชอบให้ผนวกเรื่อง “บทบัญญัติด้านความโปร่งใสในความตกลงเขตการค้าเสรี” ที่เสนอโดยรัสเซียเพื่อจะให้มีการศึกษาวิเคราะห์และจัดทาเป็นโมเดลตัวอย่างสาหรับเขตเศรษฐกิจที่เป็นสมาชิกจะใช้ในการเจรจาจัดทาเขตการค้าเสรี หรือ FTAs ต่อไป ซึ่งไทยได้ให้ความสนับสนุนเพราะเห็นว่าความโปร่งใสเป็นกลไกสาคัญในการส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTAs และจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ รวมทั้ง SMEs

เรื่องที่เป็นหัวใจสาคัญของการประชุมครั้งนี้คือ การจัดทารายการสินค้าสิ่งแวดล้อมของเอเปค ตามมติของผู้นาเขตเศรษฐกิจเอเปคเมื่อปี 2554 เพื่อนามาลดภาษีลงเหลือร้อยละ 5 หรือต่ากว่า ภายในสิ้นปี 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้าสินค้าสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจโดยป้องกันและรักษาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดี เอเปคยังไม่สามารถหาข้อยุติในการประชุมครั้งนี้ได้ จึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไปหารือกันอีกครั้ง ในเดือนกรกฎาคม ศกนี้ ที่เม็กซิโก โดยมีเป้าหมายให้กาหนดรายการสินค้าสิ่งแวดล้อมให้ได้ก่อนการประชุมผู้นาเอเปค ในเดือนกันยายนนี้

นอกจากนี้ เอเปคยังได้เชิญนายปาสกาล ลามี ผู้อานวยการใหญ่ขององค์การการค้าโลก (WTO) มาร่วมประชุมหารือ เพื่อที่เอเปคจะได้ช่วยสนับสนุนการดาเนินการของ WTO และผลักดันการเจรจารอบโดฮาซึ่งชะงักงันมาสิบปี นายลามี ได้ชี้แจงสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลก และได้กล่าวเตือนว่าในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกกาลังหดตัวนี้ การใช้มาตรการกีดกันการค้ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลซ้าเติมสถานการณ์ จึงขอให้เอเปคมีบทบาทนาในการหยุดยั้งการใช้มาตรการกีดกันการค้า นอกจากนี้ ยังได้เสนอแนะให้เอเปคซึ่งมีบทบาทสาคัญในการค้าโลก สนับสนุนการเจรจาใน WTO โดยเฉพาะเรื่องการจัดทาความตกลงด้านการอานวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation Agreement) ซึ่งดาเนินอยู่ใน WTO และเป็นเรื่องที่การเจรจาน่าจะประสบผลสาเร็จได้ เพราะจะช่วยสร้างความโปร่งใส ลดขั้นตอน และต้นทุนของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ นายลามียังได้ขอความสนับสนุนการเจรจาเพื่อขยายขอบเขตสินค้า IT ภายใต้ความตกลงว่าด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Agreement : ITA) ซึ่งเป็นความตกลงที่สมาชิก WTO จานวน 70 ประเทศ รวมทั้งไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีและมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 2539

ทั้งนี้ รัฐมนตรีการค้าเอเปคได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนการเจรจารอบโดฮาของ WTO และต่อต้านการใช้มาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าสินค้าและบริการ และการลงทุน รวมถึงมาตรการจากัดการส่งออก หรือการใช้มาตรการที่ไม่สอดคล้องกับความตกลง WTO นอกจากนี้ ยังได้แสดงความยินดีกับรัสเซีย ที่จะเข้าเป็นสมาชิก WTO ในปีนี้ ซึ่งจะทาให้สมาชิกเอเปคทั้งหมดเป็นสมาชิก WTO

ในการประชุมเอเปค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ย้าว่าไทยสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีภายใต้ WTO และได้ผลักดันให้เอเปคดาเนินโครงการที่เป็นประโยชน์กับ SMEs โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาให้ SMEs เข้มแข็ง และการสนับสนุนให้ SMEs เข้าร่วมในห่วงโซ่อุปทาน เพราะไทยเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานของโลกในสาขาต่างๆ รวมทั้งอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน และอาหาร การดาเนินการของเอเปคในเรื่องเหล่านี้ จึงเป็นประโยชน์กับ SMEs ของไทยด้วย

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ