นายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจากระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้นาคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ (Pan Beibu Gulf Economic Cooperation- PBGEC) ครั้งที่ 7 ณ นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกวางสี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคเป่ยปู้ ซึ่งประกอบด้วย 3 มณฑลของจีน ได้แก่ กวางสี กวางตุ้ง และไหหนาน และประเทศในอาเซียนที่อยู่ในย่านอ่าวเป่ยปู้ หรือ “อ่าวตังเกี๋ย” ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย โดยไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกรายล่าสุดของอาเซียนตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งครั้งนี้ไทยเข้าร่วมในฐานะสมาชิก และ Co-Sponsor ในการจัดงานเป็นครั้งที่ 3
นายเหรียญชัย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลักว่าด้วย “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความรุ่งเรืองร่วมกันในภูมิภาครอบอ่าวเป่ยปู้” โดยเน้นประเด็นความร่วมมือรอบอ่าวเป่ยปู้ สอดผสานกับสภาพการพัฒนาและเปิดสู่ภายนอกของเขตเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้กว่างซี สาหรับ 4 ไฮไลท์หลักของประชุมในปีนี้ ประกอบด้วย (1) การประชุมสุดยอดคลังสมองรอบเป่ยปู้ (2) การประชุมสุดยอดการพัฒนาเมืองรอบอ่าวเป่ยปู้ (3) การประชุมสุดยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์รอบอ่าวเป่ยปู้ และ (4) การประชุมสุดยอดความร่วมมือภาคอุตสาหกรรมจีน-มาเลเซีย
ในการนี้ นายเหรียญชัยได้รับเกียรติให้กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงพิธีเปิด โดยมีใจความสาคัญว่า ความสาคัญของการพัฒนาความเชื่อมโยงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและบุคลากรของแต่ละประเทศสมาชิก ภายใต้กรอบ PBGEC และ GMS เป็นรากฐานสาคัญของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ทั้งในระดับทวิภาคี (ไทย-จีน) และภูมิภาค (AEC อาเซียน+1 และ ASEAN++) พร้อมทั้งเน้นถึงบทบาทที่สาคัญของประเทศไทยในภูมิภาคและในกลุ่ม ASEAN รวมถึงการเป็นตัวเชื่อมเครือข่ายคมนาคมทางบกของ PBG โดยไทยพร้อมที่จะสนับสนุนความร่วมมือในทุกๆ ด้าน ทั้งนี้ ไทยเห็นว่ากรอบความร่วมมือ PBGEC ควรจะพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์และพันธกิจของกรอบความร่วมมือ PBGEC ได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจากระทรวงพาณิชย์ ได้มีโอกาสพบปะหารือสองฝ่ายกับรองประธานเขตปกครองกวางสี (นายหลาน เทียน ลี่) โดยฝ่ายไทยให้ความสาคัญกับมณฑลกวางสีในฐานะเป็นประตูการค้าสาคัญระหว่างจีนและอาเซียน ดังนั้น การสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกัน โดยเฉพาะในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างอาเซียน-จีน ตลอดจนการอานวยความสะดวกทางการค้าการลงทุน จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-กวางสี และกวางสี-อาเซียน ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ไทยขอให้มณฑลกวางสีพิจารณาสนับสนุนการนาเข้าข้าวจากไทยให้เพิ่มมากขึ้น และเนื่องจากมณฑลกวางสีเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างจีนกับอาเซียนและมีศักยภาพทางด้านโลจิสติกส์ขนส่งสินค้าทั้งทางบกและทางเรือ รัฐบาลจีนจึงวางยุทธศาสตร์ของมณฑลนี้ให้มีเชื่อมโยงกับอาเซียน โดยการจัดกิจกรรมความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างสม่าเสมอ อาทิ China-ASEAN EXPO(CAEXPO) ที่จัดขึ้น ณ นครหนานหนิง ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางสี และ CAEXPO จะมีขึ้นในทุกปี โดยจีนจะเชิญผู้นาของประเทศสมาชิกเข้าร่วมงาน ซึ่งในปีนี้ CAEXPO ครั้งที่ 9 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน 2555และถือเป็นปีที่สาคัญในการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อาเซียน-จีน ครบรอบ 10 ปี
ในการนี้ คณะผู้แทนไทยได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมศูนย์กระจายสินค้า China South City ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่สร้างขึ้นเพื่อเป็น “ศูนย์กลางการค้าสินค้าและวัตถุดิบอุตสาหกรรมโลก” สาหรับเขตพื้นที่รอบอ่าวเป่ยปู้ (อ่าวตังเกี๋ย) และขยายสู่ประเทศอาเซียน มีพื้นที่สิ่งปลูกสร้าง 4.88 ล้านตารางเมตร โดยมีบริษัท Hong Kong China South City Holdings เป็นผู้ลงทุน จานวนเงิน 12,000 ล้านหยวน ทั้งนี้ ฟังก์ชั่นหลัก คือ (1)ศูนย์กลางการค้าโลจิสติกส์เฉพาะและวัตถุดิบอุตสาหกรรม 10 ประเภทหลัก อาทิ สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังพลาสติกสาหรับอุตสาหกรรม อะไหล่เครื่องจักรเครื่องยนต์ ฯลฯ (2) ศูนย์จัดแสดง สินค้าแบบบูรณาการ ซึ่งรวมศูนย์การค้า ศูนย์จัดแสดงสินค้า ศูนย์การแลกเปลี่ยนข้อมูล ศูนย์คลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า ศูนย์ขนส่งสินค้า และศูนย์การเงินเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งนี้ China South City ได้จัดพื้นที่สาหรับการจัดแสดงสินค้าให้แก่กลุ่มประเทศอาเซียน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จานวน 50,000 ตารางเมตร โดยเฉลี่ยประเทศละ 5,000 ตารางเมตร เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยในปีที่ 6คิดค่าเช่าประมาณ 100 หยวน/ตารางเมตร/เดือน และปีที่ 7 ขึ้นไป คิดค่าเช่าประมาณ 120 หยวน/ตารางเมตร/เดือน เพื่อสร้างฐานการค้าสินค้าระหว่างจีน-อาเซียน และอานวยความสะดวกให้แก่กลุ่มประเทศอาเซียนในการจัดแสดงสินค้าประเภทต่างๆ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630