ไทย-เมียนมาร์ ประชุมร่วมทางการค้าตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า 3 เท่า ภายในปี 2558

ข่าวทั่วไป Monday November 12, 2012 11:15 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้เป็นประธานร่วมฝ่ายไทย ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมทางการค้า (Joint Trade Commission: JTC) ระหว่างไทยและเมียนมาร์ ครั้งที่ 6 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เมียนมาร์ (นายอู วิน มิน) เป็นประธานร่วมฝ่ายเมียนมาร์ ร่วมด้วยผู้แทนภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 ณ Royal Orchid Sheraton Hotel and Tower Bangkok

นายบุญทรง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 3 เท่า ภายในปี 2558 โดยไทยได้เสนอร่างแผนงานความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน ปี 2556-2558 เพื่อดาเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งเมียนมาร์ก็รับว่าจะนาร่างแผนงานดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ ก่อนที่จะกลับมาหารือกับไทย ทั้งนี้ ไทยได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการจัดทาความร่วมมือเรื่องข้าวระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่เป็นผู้ผลิตข้าวที่สาคัญของโลก คือ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม ให้เมียนมาร์พิจารณา ซึ่งเมียนมาร์ก็รับว่าจะนากลับไปหารือกับหน่วยงานภายในประเทศ และภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง

นายบุญทรง กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะส่งเสริมการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะการค้าชายแดน ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 80 ของมูลค่าการค้ารวม โดยจะสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การจัดงานแสดงสินค้า การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทางการค้าและการลงทุน การประชุมระดับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อช่วยสนับสนุนและแก้ไขปัญหาการค้า การสนับสนุนและอานวยความสะดวกการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษและนิคมอุตสาหกรรม การลงทุนของไทยในสาขาพลังงาน การส่งเสริมกิจกรรมความร่วมมือของภาคเอกชน และการแลกเปลี่ยนข้อมูลกฎระเบียบการค้าและการลงทุน

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเล็งเห็นความสาคัญของการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญของการมุ่งสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเห็นพ้องกันว่าจะไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอานวยความสะดวกต่างๆ เช่น ถนน การยกระดับจุดผ่านแดน การเปิดด่านหรือจุดผ่านแดนใหม่ๆ การนาระบบ ICT มาใช้ตามจุดผ่านแดน รวมทั้ง ไทยได้ขอให้เมียนมาร์อานวยความสะดวกต่อผู้ประกอบการไทยที่ไปประกอบธุรกิจในพื้นที่ของเมียนมาร์ โดยเฉพาะในโครงการพัฒนาท่าเรือน้าลึกทวาย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าควรจะมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดมากขึ้น ระหว่างธนาคารกลางของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพิจารณาความไปได้ที่จะให้มีระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างสกุลบาทกับจ๊าท รวมทั้ง การให้ความร่วมมือกันด้านการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการเกษตร ธุรกิจการจัดประชุม/สัมมนา (MICE) รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในด้านต่างๆ ทั้งนี้ BOI ได้แสดงความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนของเมียนมาร์

ปัจจุบัน เมียนมาร์เป็นคู่ค้าสาคัญของไทยอันดับ 16 ในโลก และอันดับ 6 ในอาเซียน รองจากมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ในปี 2554 การค้าไทย-เมียนมาร์ มีมูลค่ารวม 6.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 25 โดยประมาณร้อยละ 85 เป็นการค้าชายแดน สินค้าส่งออกสาคัญของไทยไปเมียนมาร์ ได้แก่ น้ามันสาเร็จรูป เครื่องดื่ม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินค้า นาเข้าสาคัญของไทยจากเมียนมาร์ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ เนื้อสัตว์สาหรับการบริโภค

สำหรับด้านการลงทุน ปัจจุบันไทยเป็นนักลงทุนสาคัญอันดับ 2 ในเมียนมาร์ รองจากจีน มีการลงทุนสะสมตั้งแต่ปี 2531 ถึงปัจจุบัน มูลค่ารวม 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สาขาการลงทุนของไทยที่สาคัญ ได้แก่ พลังงานไฟฟ้า การผลิต ประมง และปศุสัตว์

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ