รายงานข่าวจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (จร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ลาวและกัมพูชาได้ใช้เวทีประชุมหารือระดับต่างๆของอาเซียนร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องมาตรการนาเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทย ว่าผิดพันธกรณีภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน เพราะแม้ไทยจะเรียกเก็บอากรขาเข้าในอัตราร้อยละ 0 แต่กลับกาหนดช่วงเวลาในการนาเข้า
รายงานระบุว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้พยายามหารือทวิภาคีกับทั้งภาครัฐและเอกชน ลาวและกัมพูชา เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว มาอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2555 ทางรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ ได้เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาทั้งแนวทางระยะสั้น และระยะยาวตามที่ จร. เสนอ โดยแนวทางระยะสั้น สาหรับกรณีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของลาว ที่มีประมาณ 2 แสนตัน ให้นาเข้าผ่านองค์การคลังสินค้า (อคส.) ช่วงเดือน มค.- กพ. เพื่อส่งออกต่อไปยังประเทศที่สาม ส่วนกรณีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของกัมพูชา อีกประมาณ 2.5 แสนตัน ให้นาเข้าผ่าน อคส. ช่วงเดือน พย.-มค. เพื่อใช้ในประเทศ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ อคส. พิจารณาแนวทางบริหารจัดการไม่ให้มีผลกระทบทางลบต่อเกษตรกรภายในประเทศด้วย ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว ให้เร่งศึกษาและผลักดันให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษ สาหรับสินค้าเกษตรตามจังหวัดชายแดน เพื่อนาเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านและส่งออกเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มและผันให้ประเทศไทยเป็น Trading Nation
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2556 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งใช้แนวทางของ จร. เสนอเข้ามา ประกอบด้วย 1. อนุมัติให้องค์การคลังสินค้า นาเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากลาวในอัตราภาษีนาเข้าร้อยละ 0 ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 56 เพื่อส่งออกต่อไปยังประเทศที่สาม ประมาณ2 แสนตัน และ 2 อนุมัติให้ อคส. นาเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากกัมพูชาในอัตราภาษีนาเข้า ร้อยละ 0 เพื่อนามาใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศ ช่วงเดือนสิงหาคม 2556 ประมาณ 1 แสนตัน และเดือนพฤศจิกายน 2556 — มกราคม 2557 อีกประมาณ 1.5 แสนตัน โดยที่การนาเข้าจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของกรมการค้าต่างประเทศด้วย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630