‘พาณิชย์’ ตีปีกรัฐสภาไฟเขียวเดินหน้าเจรจาการค้าไทย-อียู

ข่าวทั่วไป Monday February 11, 2013 15:17 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

‘บุญทรง’ แจ้งข่าวดี พาณิชย์เดินหน้าเจรจาเพื่อจัดทาความตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปได้แล้ว หลังรัฐสภาไฟเขียวอนุมัติ จะทาให้ไทยมีโอกาสเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของสหภาพยุโรปในอาเซียน

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ที่ประชุมร่วมของรัฐสภา ครั้งที่ 1 สมัยสามัญนิติบัญญัติ ได้อนุมัติเห็นชอบต่อร่างกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอ ซึ่งจะมีผลให้คณะเจรจาของไทยสามารถประกาศ และเริ่มการเจรจาเพื่อจัดทาความตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปได้ โดยทางกระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุผลการเจรจาโดยเร็ว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ในการค้าการลงทุนในตลาดสหภาพยุโรปและตลาดระหว่างประเทศในภาพรวม

“จริงๆ เรื่องนี้มีมาตั้งแต่ปี 2552 แล้ว แต่ที่ผ่านมาเกิดการชะงักงันอยู่ แม้จะได้มีความพยายามตลอด เพราะเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดยุโรป นักลงทุนจากยุโรปมีความสาคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและตลาดอาเซียน ดังนั้นการทาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป จึงเป็นกลไกที่สาคัญยิ่งต่อการเพิ่มโอกาสในการขยายการค้าการลงทุนกับสหภาพยุโรปของไทย ที่ทางกระทรวงพาณิชย์ต้องผลักดัน”

นายบุญทรง ยอมรับว่าในการเจรจามีทั้งผู้ได้ประโยชน์และผู้ได้รับผลกระทบ จึงจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปรับตัวเพิ่มศักยภาพในด้านต่างๆ ด้วย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็มีกองทุนเอฟทีเอ เป็นกลไกให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนที่อาจได้รับผลกระทบอยู่แล้ว อีกทั้ง ยังจัดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนมาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน ประมาณ 60 ครั้งทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมกว่า 5,000 คน ทาให้ได้รับทราบถึงข้อกังวลและข้อห่วงใยจากฝ่ายต่างๆ มากพอสมควร ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้การเจรจาต้องมีความรอบคอบระมัดระวัง เพื่อให้ได้ผลการเจรจาที่เกิดประโยชน์สูงสุดในภาพรวมต่อประเทศและประชาชน

สำหรับสหภาพยุโรป ถือเป็นคู่ค้าที่สาคัญของไทย โดยเป็นคู่ค้าอันดับ 4 และตลาดส่งออกอันดับ 3 ของไทย ซึ่งในปี 2554 การค้ารวมของไทยและสหภาพยุโรปสูงกว่า 1.2 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.3 ของการค้ารวมของไทย โดยเป็นมูลค่าการส่งออกถึง 7.3 แสนล้านบาท ส่วนด้านการลงทุน สหภาพยุโรปเป็นผู้ลงทุนอันดับ 2 ของไทย การลงทุนโดยตรงจากสหภาพยุโรป ในปี 2554 มีมูลค่า 100,232 ล้านบาท

นายบุญทรง กล่าวในท้ายสุดว่า การทาความตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป จะช่วยลดผลกระทบจากการที่ไทยจะถูกตัด GSP หรือสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในวันที่ 1 มกราคม 2558 เนื่องจากการจัดทา FTA จะเป็นการลดภาษีศุลกากรให้สินค้าส่งออกของไทยอย่างถาวร ซึ่งจะช่วยไม่ให้ไทยสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขัน ป้องกันไม่ให้สหภาพยุโรปย้ายฐานการลงทุนไปยังเวียดนามแล้ว ยังจะช่วยทาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของสหภาพยุโรปในอาเซียนอีกด้วย

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ