อินโดนีเซียตั้งเป้าบรรลุประโยชน์สูงสุดจากการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปี 2556

ข่าวทั่วไป Tuesday February 12, 2013 15:05 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

อินโดนีเซีย’ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดเอเปค ซึ่งประกอบด้วยประเทศผู้นาแถบเอเชียแปซิฟิกรวมทั้งสิ้น 21 ประเทศ หรือเทียบเท่าร้อยละ 54 ของเศรษฐกิจโลก และร้อยละ 44 ของการค้าโลก

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ 2556 อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ภายใต้หัวข้อสาคัญ (Theme) คือ “Resilient Asia-Pacific, Engine of Global Growth” เพื่อมุ่งที่จะพัฒนาภูมิภาคเอเปคให้มีความแข็งแกร่งและเป็นจักรกลสาคัญของการเจริญเติบโต และตนได้มอบหมายให้ นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย

เป้าหมายหลักของการทางานในปีนี้ คือ (1) ต้องการบรรลุเป้าหมายโบกอร์ เพื่อหาแนวทางในการลดอุปสรรคทางการค้า ทั้งด้านภาษี (tariff) และมิใช่ภาษี (non-tariff) รวมทั้งอุปสรรคที่เกิดจากกฎระเบียบภายในประเทศ (behind the border) ของสินค้า บริการและการลงทุน (2) เพื่อให้เกิดการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนที่มีความเท่าเทียมเน้นเรื่องการพัฒนาศักยภาพให้ SMEs เชื่อมโยงกับการมีส่วนร่วมของสตรี และช่วยให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น รวมถึงการขยายตลาดไปต่างประเทศ นอกจากนั้น ยังเน้นเรื่องความมั่นคงทางอาหาร โดยให้เกษตรกรมีส่วนร่วม กาหนดจะจัดงานวันเกษตรกร (Farmer’s Day) และให้ความสาคัญกับเรื่องเศรษฐกิจสีฟ้า (blue Economy) และ (3) การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค จะเน้นเรื่องการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงทางกายภาพในภูมิภาคเอเปค

นางพิรมล กล่าวว่า การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค วันแรกผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากสมาชิกเอเปค ตกลงกันเรื่องการทางานร่วมกันของปีนี้ นอกจากมีการพิจารณาประเด็นหลักแล้ว ยังได้มีการพิจารณาในห้วข้อสาคัญๆ ด้านการค้าและการลงทุน เช่น การเสริมสร้างขีดความสามารถ ทางการแข่งขันของ SMEs รวมทั้งสนับสนุนให้มีส่วนร่วมในห่วงโซ่การผลิตโลกมากขึ้น การปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานให้ได้ร้อยละ 10 ในช่วงปี 2553-2558 ซึ่งจะต้องเร่งการทางานในเรื่องนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ผู้นาเอเปคได้ตกลงร่วมกัน นอกจากนี้ ให้ความสาคัญกับการปฏิบัติตามมติของผู้นาเอปค ที่จะต้องลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อม 54 รายการ ให้เหลือไม่เกินร้อยละ 5 ภายในปี 2558

นางพิรมล กล่าวเสริมว่า ปีนี้การประชุมเอเปคต้องเร่งการทางานให้เร็วขึ้น เนื่องจากอินโดนีเซียที่เป็นเจ้าภาพได้กาหนดแผนจัดประชุมให้เร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 1 เดือน เช่น การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค (MRT) กาหนดจะจัดในวันที่ 20-21 เมษายน (ที่ผ่านมาจัดเดือนพฤษภาคม) และการประชุมผู้นาเขตเศรษฐกิจเอเปค จะจัดในเดือนตุลาคม ที่อินโดนีเซียต้องเร่งจัดประชุมเร็วขึ้น เพราะอินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก (MC 9) ในเดือนธันวาคม ศกนี้ด้วย โดยมุ่งหวังว่า หากมีมติจากผู้นาเอเปคให้ดาเนินการทาให้การเจรจาภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) สาเร็จ อาจเป็นผลให้การเจรจา MC 9 บรรลุผลได้ ซึ่งหมายความว่าเอเปคจะเป็นกลไกสาคัญที่จะทาให้การเจรจา WTO ประสบความสาเร็จได้ อินโดนีเซียก็จะได้ความน่าเชื่อถือต่อเวทีโลกที่ทาให้การเจรจาสาเร็จได้ในช่วงที่ตนเป็นเจ้าภาพ

ทั้งนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จะติดตามผลการประชุมเอเปคอย่างใกล้ชิด เพื่อนามาเปิดเผยต่อสาธารณชนให้ทราบโดยทั่วกันต่อไป

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ