รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้เห็นชอบการจัดตั้งคณะเจรจา RCEP หรือ “RCEP Trade Negotiating Committee” (RCEP-TNC) และรับรอง TOR เพื่อเป็นกลไกหลักในการเจรจาความตกลงฯ รวมทั้งเห็นควรให้อาเซียนให้ความสาคัญกับการเจรจาเรื่องนี้เป็นลาดับแรก เพื่อให้สามารถหาข้อสรุปขอบเขตการเจรจาและการเจรจาความตกลง เพื่อดาเนินการเจรจาให้บรรลุเป้าหมายตามกาหนดเวลาในปี 2015
ทั้งนี้ การประชุม RCEP TNC จะเริ่มขึ้นครั้งแรกในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2556 ในช่วงเดียวกับการจัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจอาเซียน ณ ประเทศบรูไน เพื่อเดินหน้าการเจรจาจัดทาข้อบทความตกลง ทั้งในกรอบการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน
ความสาเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) พร้อมด้วยคู่เจรจาทั้ง 6 ประเทศ ได้หารือกันเมื่อวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2556 ณ เมืองบาหลี ภายหลังจากที่ผู้นาอาเซียนพร้อมด้วยคู่เจรจาอีก 6 ประเทศ ได้ประกาศการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในภูมิภาค “ASEAN Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP” ในการประชุมผู้นาอาเซียน ครั้งที่ 21 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมทั้งที่ประชุมคณะทางานด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ได้หารือกันเกี่ยวกับกรอบและแนวทางการเจรจาทั้งด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก และจะใช้เป็นพื้นฐานสาคัญในการเจรจาต่อไป
สำหรับความตกลง RCEP นี้ จะเป็นความตกลงแบบองค์รวม (Comprehensive Agreement) ที่มีมาตรฐานสูง ประกอบไปด้วยความร่วมมือทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และเป็น flagship สาคัญของอาเซียนในการมีบทบาทสาคัญต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและของโลก ส่งผลให้เกิดประโยชน์กับไทยและอาเซียนอย่างมาก เนื่องจากจะเป็นตลาดกว่า 3,300 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของประชากรโลก มี GPD รวมกันกว่า 17,100 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 27% ของ GDP โลก หรืออาจเรียกได้ว่า RCEP จะเป็น FTA ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดฉบับหนึ่งของโลก โดยมีไทยและอาเซียนเป็นสมาชิกสาคัญ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630