ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของนอร์เวย์ ได้แจ้งให้ทราบว่านักธุรกิจนอร์เวย์มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในทะเล สื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งบริษัทนอร์เวย์มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพสูง และเห็นว่าไทยมีศักยภาพที่บริษัทนอร์เวย์จะตั้งเป็นสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยินดีที่นอร์เวย์ให้ความสนใจการลงทุนในประเทศไทย และกล่าวเสริมว่า ไทยได้มีนโยบายส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยโดยใช้ไทยเป็นประตูไปสู่อาเซียน ซึ่งในปี 2558 การค้าสินค้า บริการ แรงงานฝีมือ และเงินทุนสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี จึงเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ/นักลงทุนจากนอร์เวย์เข้ามาลงทุนและใช้ไทยเป็นประตูสู่อาเซียน
นางพิรมล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าที่ผ่านมา นอร์เวย์ในฐานะประเทศสมาชิก EFTA ได้ผลักดันที่จะให้ไทยและ EFTA มีการจัดทำความตกลง FTA ไทย-EFTA มาโดยตลอด ซึ่งนอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือ EFTA ( European Free Trade Association) ประกอบไปด้วยประเทศสมาชิกอีก 3 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ประชากรรวมประมาณ 12 ล้านคน รายได้ประชาชาติต่อหัว (GDP) สูงประมาณ 72,985 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ EFTA เป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง และมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นของโลก และ ปัจจุบัน EFTA มีนโยบายในการใช้ FTA เป็นเครื่องมือในการขยายการค้าและการลงทุน โดยได้จัดทา FTA รวม 17 ฉบับ กับ 21 คู่เจรจา ได้แก่ สหภาพยุโรป สิงคโปร์ และเกาหลี อยู่ระหว่างการเจรจากับอินเดีย อินโดนีเซีย รัสเซีย คาซัคสถาน และเวียดนาม อยู่ระหว่างการหารือเพื่อจัดทำ FTA กับกลุ่มเมอร์โคซูร์ มาเลเซีย
นอร์เวย์ เป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงประเทศหนึ่งของโลก มีขีดความสามารถด้านการแข่งขันอยู่ในอันดับ 16 ของโลกมีทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป่าไม้ และทรัพยากรทางทะเลจำนวนมาก มีอุตสาหกรรมการประมง อุตสาหกรรมการต่อเรือที่มีศักยภาพมาก นอกจากนี้ นอร์เวย์ยังมีกองทุนเพื่อการเกษียณอายุของนอร์เวย์ (Norway's Government Pension Fund) ซึ่งเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund-SWF) ของโลก ซึ่งบริหารสินทรัพย์ประมาณ 6.12 แสนล้านดอลลาร์ มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย โดยหากไทยมีการจัดทำ FTA กับ EFTA ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนอร์เวย์เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นปัจจุบันนอร์เวย์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 49 ของไทยกับโลก และเป็นอันดับที่ 2 ของไทยกับ EFTA รองจากสวิตเซอร์แลนด์ โดยในปี 2555 มีมูลค่าการค้ารวม 868.97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ไทยส่งออกไปนอร์เวย์ 478.23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการนาเข้า 390.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกที่สาคัญ ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปเนื้อปลาสด แช่เย็น แช่แข็ง ข้าว ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และผักกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น และสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ สัตว์น้ำ สด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปลวดและสายเคเบิล เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบเนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค ผลิตภัณฑ์โลหะ เคมีภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ไทยและ นอร์เวย์ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ นักลงทุนจากนอร์เวย์ที่เข้ามาลงทุนในไทย ได้แก่ บริษัท Telenor ถือหุ้นในธุรกิจโทรศัพท์มือถือ DTAC บริษัท Norsk Hydro จำหน่ายปุ๋ยไข่มุกตราเรือไวกิ้ง บริษัท Norske Skog ผู้ผลิตกระดาษหนังสือพิมพ์ใหญ่ที่สุดในโลก และ บริษัท Jotun ผลิตสีอุตสาหกรรมเป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630