20 สิงหาคม 2013 เวลา 17:55 น.
รมว.พาณิชย์ เป็นประธานร่วมประชุมแผนความร่วมมือกับสปป.ลาว สองฝ่ายย้ำความสัมพันธ์แบบฉันมิตร เห็นพ้องกันว่ามูลค่าการค้าน่าจะเติบโตได้ถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี2558 พร้อมเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์ให้บรรลุเป้าหมาย และอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสปป.ลาว กับกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย ครั้งที่ 5 ว่าได้รับผลเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายโดยเป็นการประชุมอย่างฉันมิตรที่มีความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีต่อกัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสปป.ลาว (ดร.นาม วิยะเกด) เป็นประธานร่วม พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมที่สปป.ลาว เป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2556 ณ นครหลวงเวียงจันทน์
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้พิจารณาแนวทางในการเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเห็นพ้องกันว่ามูลค่าการค้าน่าจะเติบโตได้ถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2558 ซึ่งจะเป็นปีที่อาเซียนจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนโดยจะร่วมกันพิจารณาจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนงานด้านต่างๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ทั้งสองฝ่ายเน้นความสำคัญเรื่องการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนเพื่อใช้ประโยชน์จากการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวในภูมิภาค เช่น วัตถุดิบ แรงงานการขนส่ง และโลจิสติกส์ รวมถึงสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ที่สปป.ลาวได้รับจากประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางด้านภาษีให้แก่สินค้าที่ผลิตและส่งออกจากสปป.ลาวทั้งนี้ ฝ่ายไทยยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนภาคธุรกิจไทยโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้เข้าไปลงทุนในลาวเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย โดยกระทรวงพาณิชย์ จะบูรณาการการทำงานกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและสภาธุรกิจไทย-ลาวและขอให้รัฐบาลสปป.ลาว ให้การดูแลนักลงทุนไทยขนาดกลางและขนาดเล็กที่เข้าไปลงทุนด้วย
นอกจากนี้ไทยยังพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการเพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าเกษตร และสินค้า OTOP/ODOP ให้แก่ลาวซึ่งจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-ลาวอย่างยั่งยืน รวมทั้งการสนับสนุนด้านการค้าชายแดนและผ่านแดน ที่จะสามารถทำได้สะดวกขึ้นจากการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมภายในภูมิภาค
นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเสริมว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาหาแนวทางที่จะช่วยสนับสนุนนักธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยที่จะไปลงทุนในสปป.ลาวรวมทั้ง ในกัมพูชา เมียนมาร์ และเวียดนาม นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนการจัดการประชุมระดมสมองที่ภาคเอกชนไทยจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน2556 ณ จังหวัดเชียงราย เพื่อรวบรวมประเด็นปัญหาอุปสรรคการค้า การลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน(ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม)และพิจารณาจัดทำข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาอุปสรรคดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนการขยายการค้าและการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ปี2555 การค้าระหว่างไทย-ลาว มีมูลค่ารวม 4,848.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 24.37 โดยไทยเป็นคู่ค้าอันดับ1 ของลาว ประกอบด้วย การส่งออกของไทยไปลาว มูลค่า 3,609.79ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการนำเข้า 1,238.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯสินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญเช่น สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เชื้อเพลิงอื่นๆ ไม้ซุงไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ ผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งจากผักและผลไม้ เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630