19 สิงหาคม 2013 เวลา 17:01 น.
นายนิวัฒน์ธำรงบุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างกรอบการเจรจาFTA ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้เสนอร่างฯดังกล่าวต่อรัฐสภาเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ไทยและEFTA เคยมีการเจรจาจัดทำFTA ระหว่างกัน เมื่อปี 2548-2549 หลังจากนั้นการเจรจาหยุดชะงักลง แต่ในระยะที่ผ่านมาความสำคัญของประเทศสมาชิกEFTA ซึ่งประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์และลิกเตนสไตน์ ที่มีต่อการค้าการลงทุนของไทย มีความสำคัญเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ในด้านการค้าEFTA เป็นคู่ค้าลำดับที่ 10 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวมกว่า13,455 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา(2551-2555) ประมาณร้อยละ 37 และในปีเดียวกันมีการลงทุนโดยตรงของประเทศสมาชิก EFTAในไทย มากเป็นลำดับที่ 6 รองจากญี่ปุ่น อาเซียน สหภาพยุโรป จีนและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ด้วยมูลค่าลงทุนกว่า 2,936.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปัจจุบัน สมาชิกอาเซียนต่างใช้กลยุทธ์เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศโดยสิงคโปร์มี FTA กับ EFTA แล้ว ในขณะที่อินโดนีเซีย มาเลเซียเวียดนาม อยู่ระหว่างการเจรจา FTA กับ EFTA ไทยจึงต้องเร่งรื้อฟื้นการเจรจา FTA กับ EFTAเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและบริการของไทยในตลาด EFTAรวมทั้งผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของ EFTA ในอาเซียน ดังนั้นการรื้อฟื้นการเจรจาFTA ระหว่างกันจะนำไปสู่ผลประโยชน์ของไทยในภาพรวมและยังเป็นการส่งเสริมศักยภาพทางการแข่งขันของไทยในพลวัตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจโลก
ปัจจุบัน ไทยมี FTA แล้ว 12 ฉบับ ได้แก่ อาเซียน อาเซียน-จีนไทย-อินเดีย (EHS 82 รายการสินค้า) ไทย-ออสเตรเลียไทย-นิวซีแลนด์ ไทย-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลีใต้ อาเซียน-ญี่ปุ่นอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ อาเซียน-อินเดีย ไทย-เปรู (EHS 70% ของสินค้า) และไทย-ชิลี และอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 4 ฉบับ ได้แก่ไทย-อินเดีย ไทย-เปรู RCEP และไทย-สหภาพยุโรป (EU) ทั้งนี้ หากรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างกรอบการเจรจาแล้ว การเจรจา FTAไทย-EFTA จะนำไปสู่ FTA ฉบับที่สองที่เชื่อมโยงการค้าการลงทุนของไทยกับประเทศในยุโรปที่ได้ชื่อว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพทั้งทางด้านเงินทุนเทคโนโลยี และมีมาตรฐานของผู้บริโภคในระดับสูงของโลก
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630