ในโอกาสที่ประธานาธิบดีของเปรูเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4-5 ตุลาคม ที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยได้พบปะและหารือกับ นายโอยันตา อุมาลา ตัสโซ ประธานาธิบดีของเปรู ที่ทำเนียบรัฐบาลโดยนอกจากจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองระหว่างกันแล้วผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ยังได้ร่วมกันประกาศความสำเร็จการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-เปรู ที่ครอบคลุมทุกด้าน (comprehensive agreement) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในด้านเศรษฐกิจการค้า และการลงทุนร่วมกันด้วย
โดยนายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ซึ่งได้เข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ด้วย ได้เปิดเผยว่า ความตกลงการค้าเสรี ไทย-เปรูเป็นความตกลงที่มีเนื้อครอบคลุมรอบด้าน ทั้งเรื่องการค้าสินค้า การค้าบริการการลงทุน กฎเกณฑ์ทางการค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เช่นการส่งเสริมการค้าและการลงทุน SMEs การเกษตร ประมง ป่าไม้ และอาหารการบริการและการท่องเที่ยว พลังงาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น
“หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ทั้ง 2ประเทศ จะรวบรวมผลการเจรจาที่ผ่านมาทั้งหมดจัดทำเป็นความตกลงฉบับสมบูรณ์รวมทั้งดำเนินกระบวนการภายในที่จำเป็นก่อนที่จะมีการลงนามบังคับใช้ความตกลงต่อไป”
ด้าน นางศรีรัตน์ รัษฐปานะรักษาการปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเปรูเป็นประเทศแรกในทวีปอเมริกาใต้ที่ไทยจัดทำความตกลงการค้าเสรีร่วมกัน โดย 2 ประเทศได้ตกลงเริ่มลดภาษีสินค้าส่วนแรกจำนวนร้อยละ70 ของรายการสินค้าแล้วตั้งแต่ปี 2554 และได้เจรจาเพิ่มเติมเพื่อจัดทำความตกลงในส่วนที่เหลือให้มีความสมบูรณ์ในวันนี้ ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ทางความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่เป็นพันธมิตรโพ้นมหาสมุทรแปซิฟิก และคาดว่าทั้ง 2 ประเทศจะใช้ความตกลงฉบับนี้เป็นเครื่องมือเชื่อมโยงระหว่างกันทั้งในระดับประชาชนผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และภาครัฐ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการเป็นศูนย์กลางของของภูมิภาคของทั้งสองประเทศ
นางจินตนา ชัยยวรรณาการ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ไทยและเปรูเริ่มเร่งลดภาษีส่วนแรกในปี 2554 การค้าในปีนั้นได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ25 มีมูลค่าการค้ารวมมากกว่า 762 ล้านเหรียญสหรัฐโดยไทยมีการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการส่งออกตามการเร่งลดภาษีส่วนแรกรวมมูลค่า 12ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ โทรทัศน์สี ลูกฟุตบอล ถุงยางคุมกำเนิดและแบตเตอรี่ปฐมภูมิ เป็นต้น ขณะที่ไทยมีการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการนำเข้าตามการเร่งลดภาษีส่วนแรกมูลค่า266 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ สินแร่และหัวแร่สังกะสี หมึกกระดอง และองุ่นสด เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630