นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและจีนได้นำรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Ministers) ร่วมงาน HongKong-ASEAN Business Partnership Symposium ที่ฮ่องกง ก่อนเดินทางเยือนจีนระหว่างวันที่ 22-26 ตุลาคม 2556 เพื่อพบปะกับผู้ว่าการฯ(นาย Leung Chun Ying) รัฐมนตรีเศรษฐกิจฮ่องกง (นาย GregorySo) รวมทั้งนักธุรกิจฮ่องกงเพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยได้จัดงานสัมมนาความเป็นหุ้นส่วนภาคธุรกิจระหว่างอาเซียนและฮ่องกงขึ้นโดยมีนักธุรกิจฮ่องกงเข้าร่วมงานกว่า 300 ราย
นายยรรยง กล่าวว่า ในงานสัมมนาดังกล่าว ได้เป็นผู้แทนอาเซียนกล่าวชักชวนนักลงทุนฮ่องกงให้เข้ามาลงทุนในอาเซียนเพราะเป็นแหล่งที่น่าลงทุนที่สุดในโลก เป็นตลาดที่มีประชากรกว่า 600 ล้านคนมูลค่า GDP รวม 2.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐมีการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 5.7 ในปี 2012 มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น น้ำมัน ก๊าซ ไม้ พืชอาหาร ประมงและมีแรงงานที่มีฝีมือเพิ่มมากขึ้น ทำให้อาเซียนเป็นผู้ผลิตที่มีศักยภาพในการแข่งขันและการส่งออกด้านอิเล็กทรอนิกส์สิ่งทอ รถยนต์ อุปกรณ์จักรกล และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ มีนโยบายการค้า การลงทุนที่เปิดกว้างและเชื่อมโยงกับภูมิภาคอื่นๆ โดยอาเซียนจะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจที่เรียกว่าAEC ซึ่งการดำเนินการจัดตั้ง AEC ก้าวหน้าไปตามแผนเพื่อทำให้สินค้า บริการ และการลงทุนเคลื่อนย้ายระหว่างกันได้อย่างเสรี ในปี 2558
ทั้งนี้ ยังมีความตกลงการค้าเสรีรายประเทศกับญี่ปุ่นจีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลียนิวซีแลนด์และอินเดีย และล่าสุดก็กำลังจะรวมกลุ่มเศรษฐกิจกับประเทศเหล่านั้นเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้มากขึ้น และเมื่อสำเร็จก็จะเป็นFTA ที่มีประชากรถึง 3.2 พันล้านคน นับเป็นครึ่งหนึ่งของโลกมีมูลค่าการค้าถึงร้อยละ 40 ของโลก มี GDP รวมกันมูลค่าประมาณ 17 พันล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นหากฮ่องกงมาลงทุนในอาเซียนก็จะสามารถได้รับประโยชน์จาก FTA ของอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาอื่นๆ
นอกจากนี้ อาเซียนยังมีแผนที่จะพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงในภูมิภาคโดยปัจจุบันได้ร่วมมือกับจีน ภายใต้ ASEAN-Mekong Basin Development Cooperation มีโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมคุนหมิงไปยังสิงคโปร์ (SKRL) ผ่านประเทศอาเซียนบางประเทศ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าขนส่งและความสูญเสียทางเศรษฐกิจของภูมิภาคแล้วยังจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และดึงดูดนักลงทุนมาสู่อาเซียนด้วย
นายยรรยง กล่าวเสริมว่า รัฐบาลอาเซียนแต่ละประเทศ ยังมีแผนที่จะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสสำหรับนักลงทุนฮ่องกงในอาเซียนเช่น ไทยจะลงทุน 73พันล้านเหรียญสหรัฐ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น การสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไปสู่เมืองสำคัญๆและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการปรับปรุงการขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ โดยเปิดให้ต่างชาติมายื่นประมูลโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ซึ่งจะช่วยให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังอาเซียนและส่วนอื่นๆ ของโลกคล่องตัวมากขึ้นนอกจากนั้น อาเซียนยังจะต้องปรับปรุงการอำนวยความสะดวกทางการค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้นอาทิ การปรับปรุงการเคลื่อนย้ายยานพาหนะ สินค้า บริการและแรงงานมีฝีมือระหว่างพรมแดน จะต้องพัฒนา ASEAN Single Window พัฒนาระบบข้อมูลให้มีความโปร่งใสเข้าถึงได้ เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ในส่วนของฮ่องกง อาเซียนกำลังจะเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับฮ่องกงเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยจะเริ่มมาเจรจาเรื่องต่างๆในปี 2014 ประกอบด้วย การค้าสินค้า บริการ การลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและอื่นๆซึ่ง FTA อาเซียน-ฮ่องกงก็จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทั้งด้านการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนและฮ่องกงมากขึ้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่นักลงทุนฮ่องกงจะเข้ามาลงทุนในประเทศอาเซียนและช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของอาเซียน
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630