นายนิวัฒน์ธำรงบุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้แสดงความกังวลต่อการตัดสิทธิGSP ของสหภาพยุโรปในการนำเข้าสินค้าจากไทยโดยแจ้งว่าหากสินค้าไทยถูกตัดสิทธิไม่เพียงผู้ส่งออกไทยที่จะได้ผลกระทบแต่ผู้นำเข้าของสหภาพยุโรปเองก็ได้รับผลกระทบด้วย
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ไทยได้รับข้อมูลจากบริษัทผู้นำเข้าของสหภาพยุโรปทั้งอิตาลี อังกฤษและฝรั่งเศส แสดงความวิตกว่าจะได้รับผลกระทบ ไทยจึงเสนอให้แก้ไขปัญหาในระยะสั้นก่อนคือ ให้ยกเว้นการเก็บอากรกับสินค้าประมงชั่วคราว หรือกำหนดโควตาภาษี (Tariff Rate Quota: TRQ) ให้กับสินค้าของไทยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นและเร่งรัดการเจรจาให้บรรลุผลโดยเร็วเพื่อให้สินค้าไทยที่จะถูกตัดสิทธิ GSP สามารถใช้สิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้ FTA ทดแทนได้ทันที ทั้งนี้ สินค้าสำคัญของไทยที่ได้รับประโยชน์จากสิทธิGSPจากสหภาพยุโรป ได้แก่ กุ้งสด/แช่เย็น/แช่แข็ง ยานยนต์ขนส่งกุ้งปรุงแต่ง ถุงมือยาง เลนส์แว่นตา เครื่องปรับอากาศ ยางนอกรถยนต์และสับปะรดกระป๋อง
สหภาพฯแจ้งว่ามีความสนใจในการเข้าสู่ตลาดไทยผ่าน FTA โดยเฉพาะในส่วนของ Wine and Spirits และให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication: GI) มาก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะคุ้มครองสินค้าของสหภาพฯในตลาดต่างประเทศ โดยชี้แจงว่าข้อเรียกร้องเกี่ยวกับ GI ของตน ทั้งสองฝ่ายแสดงความหวังว่าการเจรจา FTA ไทย – สหภาพยุโรป ครั้งที่ 3 ที่จะมีขึ้นช่วงวันที่9 – 13 ธันวาคม 2556 ณ กรุงบรัสเซลประเทศเบลเยี่ยม จะมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
กรรมาธิการเกษตรสหภาพฯกล่าวว่า ได้มีโอกาสต้อนรับสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯในโอกาสเยือนและได้ทรงบรรยายเรื่อง Family farming ทำให้ได้เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรมากขึ้น
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวเสริมว่า เกษตรกรไทยยังมีรายได้น้อยขาดความรู้เทคโนโลยีในการพัฒนาและเพิ่มผลผลิตขอให้ช่วยเหลือการพัฒนาด้านเกษตรของไทย โดยนายซิวลอสได้ตอบรับและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือกับไทยโดยตนจะเดินทางมาเยือนเอเชียต้นปีหน้า และจะใช้โอกาสนี้ในการหารือกับไทยต่อไป
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630