นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) ที่ประเทศเมียนมาร์เมื่อเร็วๆนี้ว่าที่ประชุมได้หารือประเด็นด้านเศรษฐกิจที่อาเซียนจะให้ความสำคัญในปี 2557โดยเมียนมาร์ในฐานะประธานอาเซียนในปีนี้เห็นว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาSME การให้ภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการลงทุน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินการหลังปี 2558ซึ่งขณะนี้อาเซียนได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยทางเศรษฐกิจเพื่ออาเซียนและเอเชียตะวันออกทำการศึกษาว่าอาเซียนหลังจากเป็นAEC แล้ว ควรจะมีทิศทางความร่วมมือกันต่อไปอย่างไรเพื่อให้อาเซียนมีความร่วมมือแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้อาเซียนยังได้เร่งรัดให้มีการเจรจาจัดทำความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) หรืออาเซียน+6 ให้บรรลุผลการเจรจาในปี 2558 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับการเปิด AECเพื่อผลักดันให้เป็นความตกลงการค้าเสรีที่มีมาตรฐานสูงและครอบคลุมประชากรกว่า3 พันล้านคนในโลก รวมทั้ง จะมีการเจรจายกระดับการเปิดเสรีภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีนการเริ่มเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกงเพื่อใช้ฮ่องกงเป็นประตูการค้าของอาเซียนสู่จีนรวมทั้งจะมีการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการเจรจาการค้าเสรีกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียนด้วย
นายสมเกียรติกล่าวว่า อาเซียนยังได้มีการติดตามความคืบหน้า AEC โดยพบว่ามีความคืบหน้าพอสมควรซึ่งการวัดผลล่าสุดอาเซียนดำเนินการตามแผนได้ 79.43%โดยสิงคโปร์มีความคืบหน้ามากที่สุด รองลงมา คือ ไทย ส่วนประเทศอาเซียนอีก 8 ประเทศมีความคืบหน้าไม่ต่างกันมาก
สำหรับมาตรการที่อาเซียนยังดำเนินการได้ล่าช้าและมาตรการที่ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี2558 เช่น การอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งการจัดทำความตกลงยอมรับร่วมด้านมาตรฐานและความสอดคล้องสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป และยังจะต้องเจรจาจัดทำข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการชุดที่10 ซึ่งเป็นชุดสุดท้ายให้แล้วเสร็จด้วย
ส่วนการประชุมระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ(AEM Retreat) ในวันที่ 26-27 ก.พ.2557 จะมีการหารือแนวทางการดำเนินงานหลังอาเซียนเป็น AECและการติดตามความคืบหน้าการยกเลิกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีของแต่ละประเทศที่จะนำมาเป็นกรณีตัวอย่างเพื่อผลักดันให้ยกเลิกและไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำการค้าระหว่างกัน
นายสมเกียรติกล่าวเสริมว่า กรณีสถานการณ์ทางการเมืองในไทยสมาชิกอาเซียนได้สอบถามและแสดงความห่วงใย ซึ่งไทยได้แจ้งว่าไทยยังสามารถหารือร่วมกับประเทศสมาชิกและคู่เจรจาได้แต่ยังไม่สามารถลงนามเอกสารทางเศรษฐกิจต่างๆได้ และเมื่อไทยตั้งรัฐบาลได้แล้วจะดำเนินกระบวนการภายในเพื่อให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจของไทยลงนามในเอกสารในโอกาสต่อไปซึ่งไม่เพียงแค่ไทยที่ไม่อาจลงนามเอกสารทางเศรษฐกิจในช่วงนี้ยังมีอินโดนีเซียที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและประธานาธิบดีในเดือน เม.ย. และก.ค. 2557 ทำให้การลงนามเอกสารต่างๆ จึงต้องเป็นการลงนามในลักษณะเวียนประเทศใดพร้อมก็ลงนามก่อน
สำหรับเอกสารที่มีกำหนดจะลงนามในปีนี้ที่สำคัญเช่น พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการชุดที่ 9 และข้อผูกพันเปิดตลาดชุดที่ 9 พิธีสารเพื่อปรับปรุง/แก้ไขข้อบทของความตกลงด้านการลงทุนและตารางข้อสงวนความตกลงการค้าบริการและการลงทุน อาเซียน-อินเดีย เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630