เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557 กระทรวงเศรษฐกิจตุรกีได้ออกประกาศว่าการบังคับใช้มาตรการ AD กับสินค้านำเข้าของตุรกีบางรายการจะหมดอายุลงในวันที่ 5 สิงหาคม 2557 ซึ่งจะมีสินค้าของไทยจำนวน 2 รายการที่มาตรการ AD หมดอายุลงในวันดังกล่าว คือ (1) สินค้ายางรถจักรยาน ประกอบด้วย เส้นยางนอกใหม่ทำจากยางพาราสำหรับจักรยาน (พิกัด 4011.50) และไส้ยางในทำจากยางพาราสำหรับจักรยาน (พิกัด 4013.20) และ(2) สินค้ายางรถจักรยานยนต์ ประกอบด้วย เส้นยางนอกใหม่ทำจากยางพาราสำหรับรถจักรยานยนต์ (พิกัด 4011.40) และไส้ยางในทำจากยางพาราสำหรับจักรยานยนต์ (พิกัด 4013.90) ตุรกีได้ใช้มาตรการ AD กับสินค้าทั้ง 2 ชนิดนี้มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2546 และได้ต่ออายุมาตรการต่อไปอีกในเดือนสิงหาคม 2552 รวมระยะเวลาที่สินค้าทั้งสองรายการของไทยถูกใช้มาตรการ AD ทั้งสิ้น 10 ปี
ทั้งนี้ หลังจากที่ตุรกีได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการ ตุรกีจะเปิดให้ภาคเอกชนยื่นคำร้อง ซึ่งหากมีผู้ยื่นคำร้องภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนที่มาตรการ AD จะหมดอายุลง (ไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2557 โดยประมาณ) ตุรกีจะเปิดการไต่สวนเพื่อทบทวนว่า ยังมีการทุ่มตลาดอยู่หรือไม่ และส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนภายในประเทศตุรกีจริงหรือไม่ เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปว่าจะยกเลิกมาตรการ AD ตามที่ได้ประกาศไว้ หรือจะยังคงมาตรการ AD ต่อไป โดยขั้นตอนการไต่สวนเพื่อทบทวนมาตรการ AD จะใช้ระยะเวลาประมาณ 12 เดือน
หากมาตรการ AD ของสินค้าทั้งสองชนิดหมดอายุลง จะเหลือสินค้าของไทยที่ตุรกีเรียกเก็บ AD อีก 5 รายการ คือ (1) สินค้าเส้นใยสังเคราะห์ชนิดสั้น (PSF) (2) สินค้าข้อต่อท่อเหล็ก (3) สินค้าเส้นด้ายที่ทำด้วยยางวาลคาไนซ์ (4) สินค้าผ้าผืนทำด้วยด้ายสังเคราะห์ และ (5) ดินสอ ซึ่งสินค้าสองรายการสุดท้ายอยู่ระหว่างการทบทวนเพื่อต่ออายุมาตรการ AD และสินค้าอีก 1 รายการ ที่ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนว่าจะมีการใช้มาตรการ AD หรือไม่ คือ สินค้าเส้นใยสังเคราะห์และเส้นใยเทียมไม่ต่อเนื่อง
สำหรับข้อมูลด้านเศรษฐกิจ ในปี 2555 ตุรกีนำเข้าสินค้ายางรถจักรยานจากตลาดโลกคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 13.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีแหล่งนำเข้าสำคัญ ประกอบด้วย จีน สาธารณรัฐเช็ค อินโดนีเซีย บังกลาเทศ และฟิลิปปินส์ ตามลำดับ และมีการนำเข้าจากไทยคิดเป็นมูลค่า 0.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 0.08 ของการนำเข้าสินค้ายางรถจักรยานทั้งหมดของตุรกี ส่วนการนำเข้าสินค้ายางรถจักรยานยนต์ ตุรกีนำเข้าจากตลาดโลกคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 16.38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีแหล่งนำเข้าสำคัญ ประกอบด้วย เกาหลีใต้ จีน อินเดีย ไต้หวัน และอินโดนีเซีย ตามลำดับ และมีการนำเข้าจากไทยคิดเป็นมูลค่า 0.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 0.85 ของการนำเข้าสินค้ายางรถจักรยานยนต์ทั้งหมดของตุรกี
จากสถิติข้างต้นจะเห็นว่า ตุรกีนำเข้าสินค้า 2 ชนิด จากไทยเป็นมูลค่าที่น้อย ซึ่งสอดคล้องกับมูลค่าการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทยไปยังตุรกีมีมูลค่าน้อยเช่นกัน โดยไทยส่งออกยางรถจักรยานไปตุรกีเพียง 57,000 เหรียญสหรัฐฯ และส่งออกยางรถจักรยานยนต์ไปตุรกีเพียง 4,000 เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตุรกีได้ใช้มาตรการ AD กับสินค้าของไทย หากมาตรการ AD หมดไป มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้มูลค่าการค้าของสินค้า 2 ชนิดนี้ ระหว่างไทยกับตุรกีเพิ่มสูงขึ้น
แหล่งที่มา: กระทรวงเศรษฐกิจตุรกี (Ministry of Economy) กระทรวงการต่างประเทศ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630