นายสมเกียรติ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ของอาเซียน เพื่อร่วมกันพิจารณาและผลักดันการดำเนินการภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกเลิกภาษีที่เหลือของกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนามที่จะต้องดำเนินการยกเลิกภาษีให้แล้วเสร็จภายในปี 2558เนื่องจากประเทศสมาชิกที่เหลือ 6 ประเทศ ได้ลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 0 แล้วเมื่อปี2553 แล้ว นอกจากนี้ อาเซียนจะหารือเพื่อขจัดมาตรการที่มิใช่ภาษีที่เป็นอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันในอาเซียนซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยจะได้หยิบยกและติดตามการแก้ไขปัญหามาตรการขออนุญาตนำเข้าพืชสวนของอินโดนีเซียและการแก้ไขปัญหาการขออนุญาตนำเข้าไก่สดของฟิลิปปินส์ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย
รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ อาเซียนจะต้องเร่งรัดด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าเพื่อส่งเสริมการเคลื่อนย้ายสินค้าโดยเสรีในกลุ่มอาเซียนภายในปี 2558 โดยเฉพาะการเริ่มเจรจาจัดทำระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออกเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ส่งออกนอกจากการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า และการจัดทำคลังข้อมูลการค้าของอาเซียน (ASEAN Trade Repository)เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลด้านมาตรการทางการค้าทั้งหมดของทุกประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้อาเซียนกำหนดเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในปี2558 พร้อมกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630