แอฟริกาใต้ยกเลิกความตกลง เพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 15, 2014 14:59 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

ตั้งแต่ปลายปี 2556 ที่ผ่านมา รัฐบาลแอฟริกาใต้ได้ทะยอยยกเลิกความตกลง เพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน (Bilateral Investment Treaties: BITs) กับประเทศต่างๆ หลายประเทศ เช่น เยอรมนี เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก สวิตเซอร์แลนด์ สเปน และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนต่างชาติในแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะ นักลงทุนจากสหภาพยุโรป ซึ่งคณะกรรมาธิการด้านการค้าได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนคือ หนังสือสัญญาระหว่างประเทศที่รัฐบาลของสองประเทศหรือมากกว่าร่วมกันจัดทำขึ้น เพื่อกำหนดพันธกรณีในการให้ความคุ้มครองการลงทุนที่ได้รับอนุญาตเข้ามาในประเทศตามกฎหมายท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ1 ซึ่งภายใต้ BITs มีข้อกำหนดเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติได้รับสิทธิในการขอระงับข้อพิพาทโดยใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ศาลท้องถิ่น (Settlement of Disputes) เรียกว่ากลไกระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐและนักลงทุน (Investor-State Dispute Settlement: ISDS) กล่าวคือ เอกชนสามารถฟ้องร้องรัฐบาลได้ และข้อพิพาทในลักษณะนี้ มักอยู่ภายใต้การพิจารณาคดีของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมากกกว่าศาลภายในประเทศ

ที่ผ่านมามีกรณีข้อพิพาทระหว่างบริษัท Occidental Petroleum ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของสหรัฐอเมริกากับประเทศเอกวาดอร์ อนุญาโตตุลาการมีคำตัดสินชี้ขาดให้บริษัทน้ำมันได้รับค่าชดเชยจากรัฐบาลเอกวาดอร์เป็นเงินจำนวน 1.77 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจาก รัฐบาลเอกวาดอร์เป็นฝ่ายขอยกเลิกสัญญาก่อน ในส่วนของ ข้อพิพาทภายในแอฟริกาใต้ เกิดจากนักลงทุนอิตาลีและลักเซมเบิร์กได้เรียกร้องค่าชดเชยจากรัฐบาลในปี 2550 อันเนื่องมาจากรัฐบาลออกพระราชบัญญัติการพัฒนาแร่ธาตุและทรัพยากรปิโตรเลียม (Minerals and Petroleum Resources Development Act : MPRDA) เพื่อสนับสนุนนโยบาย Black Economic Empowerment หรือ BEE ที่เป็นการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของคนผิวดำ ซึ่งนักลงทุนทั้งสองประเทศเห็นว่า พระราชบัญญัติดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการลงทุน ดังนั้น จากกรณีข้อพิพาทที่เกิดขึ้นทำให้เอฟริกาใต้และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเริ่มหันมาทบทวนการจัดทำ BITs มากขึ้น

นอกจากนั้น หลังจากการเสียชีวิตของเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีที่เข้ารับตำแหน่งช่วงหลัง ยุคการเหยียดสีผิว ภายใต้การนำของพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกาใต้ (African National Congress: ANC) รัฐบาลดำเนินนโยบายเน้นการส่งเสริมการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเสรีนิยม Neoliberalism) ที่ได้ครอบงำอยู่ในช่วงเวลานั้น และเป็นช่วงที่หลายประเทศทั่วโลกได้จัดทำ BITs โดยตั้งแต่ปี 2533 รัฐบาลแอฟริกาใต้ได้จัดทำ BITs กับหลายประเทศ รวมถึงประเทศสมาชิกจากสหภาพยุโรปอีก 13 ประเทศ จะเห็นว่าจากกรณีพิพาทที่เกิดขึ้น รัฐบาลแอฟริกาใต้จึงมีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายด้านการลงทุน โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องกลไกในการระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐและนักลงทุนที่รัฐบาลแอฟริกาใต้เห็นว่าอาจก่อให้เกิดปัญหา

ข้อสังเกต

1. การที่รัฐบาลแอฟริกาใต้ประกาศทะยอยยกเลิกความตกลงฯ กับหลายประเทศในยุโรป มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากข้อพิพาทระหว่างรัฐกับเอกชนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศและภายในแอฟริกาใต้ ทำให้รัฐบาลเห็นว่า การดำเนินนโยบายเปิดรับการลงทุนและส่งเสริมการคุ้มครองการลงทุนภายใต้การจัดทำ BITs ก่อให้เกิดปัญหา อีกทั้งไม่อาจช่วยแก้ไขปัญหาภายในประเทศ เช่น ปัญหาการว่างงาน ปัญหาความยากจน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแอฟริกาใต้จะได้ยกเลิก BITs แล้วกับหลายประเทศ จะยังคงมีผลผูกพันต่อแอฟริกาใต้อีกเป็นระยะเวลา 10 ปี สำหรับนักลงทุนต่างชาติรายใหม่ที่จะเข้ามาลงทุน รัฐบาลจะเจรจากับนักลงทุนเหล่านั้นโดยจะใช้กฎระเบียบการลงทุนที่เป็นมาตรฐานเดียวกันกับนักลงทุนในประเทศ เพื่อให้ได้รับการประติบัติที่เป็นธรรมและเท่าเทียมภายใต้กฎหมายของแอฟริกาใต้ที่ในรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติในการให้ความคุ้มครองสิทธิแก่นักลงทุนต่างชาติ

2. ภาพรวมด้านการลงทุนทางตรงในแอฟริกาใต้ ธุรกิจที่ไทยลงทุนส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ได้แก่ ธุรกิจอาหารและสปาซึ่งมีจำนวนกว่า 100-150 ร้าน และปัจจุบันบริษัทชั้นนำของไทยให้ความสนใจเข้าไปลงทุนในแอฟริกาใต้มากขึ้น เช่น บริษัทซีพีอินเตอร์เทรดจำกัด (อาหารแปรรูป) ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยยังไม่มีการจัดทำ BITs กับประเทศแอฟริกาใต้ ขณะนี้จึงยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง

ที่มา : http://www.bilaterals.org/?why-south-africa-has-ripped-up

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ